ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เกิดเหตุรถตู้ชนกับรถกระบะบนถนนสาย 344 อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 25 คน เป็นชาย 9 คน หญิง 16 คน ในผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นเด็กจำนวน 2 คน โดยผู้โดยสารในรถปิคอัพ จำนวน 12 คน เสียชีวิต 11 คน ทั้งหมดเป็นชาวบ้านหว้า ม.2 ต.กู่ อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ที่ไปทำงานที่อยู่กรุงเทพและในช่วงปีใหม่ได้ไปทำบุญไหว้พระที่วัดหลวงพ่อโสธร และขากลับจะไปส่งน้องชายที่ทำงานอยู่ที่ จ.ระยอง แต่ประสบอุบัติเหตุก่อนที่ชลบุรีหลังจากที่ญาติที่บ้านหว้าทราบข่าว ทำให้พ่อแม่และพี่สาวของผู้เสียชีวิตถึงกับช็อค เนื่องจากว่า ต้องสูญเสียลูกสาวลูกเขยและหลานตัวเล็ก อีก 2 คนรวมเป็น 4 คน ญาติต้องพากันหามส่งไป รพ.ปรางค์กู่ เพื่อให้แพทย์รักษาพยาบาลโดยด่วน ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 4 ม.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณศาลาตั้งศพ วัดบ้านหว้า หมู่ 2 ต.กู่ อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ บรรดาญาติพี่น้องได้นำศพของ นายน้อย หาญเสมอ คนขับรถปิคอัพ อายุ 38 ปี พร้อมด้วยศพของภรรยา คือ นางนอง หาญเสมอ อายุ 39 ปี และลูกชายลูกสาว คือ ด.ช.วีระศักดิ์ หาญเสมอ อายุ 13 ปี ด.ญ.การ์ตูน หาญเสมอ อายุ 1 ปี 1 เดือน ซึ่งศพทั้งหมดบรรจุอยู่ในโลงไม้ ญาติได้นำเอาทั้ง 4 ศพมาวางเรียงกันไว้ภายในศาลา และยังไม่ได้มีการประกอบพิธีทางศาสนาแต่อย่างใด โดยบรรดาญาติพี่น้องได้พากันจัดเตรียมสถานที่ภายในบริเวณวัดมีการกางเต๊นท์และปัดกวาดเมรุเผาศพให้สะอาด เพื่อเตรียมที่จะจัดประกอบพิธีศพของครอบครัวหาญเสมอที่เสียชีวิต เพราะอุบัติเหตุยกครัวในครั้งนี้ มีบรรดาญาติพี่น้องที่ทราบข่าวพากันมาเคารพอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า ซึ่งพระภายในวัดที่เป็นญาติของผู้เสียชีวิตได้พากันมาช่วยจัดเตรียมงานศพอย่างเต็มที่
นายตึ๋ง สิงขรณ์ อายุ 42 ปี ผญบ.หมู่ 2 บ้านหว้า และนายวิเชียร ดอนน้ำขาว ส.อบต.หมู่ 2 ซึ่งเป็นญาติของผู้ตาย ได้ร่วมกันเปิดเผยว่า ศพของครอบครัวหาญเสมอ ถูกนำกลับมาถึงบ้าน เมื่อเวลาประมาณ 01.20 น. วันที่ 4 ม.ค.60 ซึ่งเมื่อศพมาถึงญาติได้นำเอาศพมาตั้งไว้ที่วัดทันที โดยสภาพศพถูกไฟไหม้เกรียมแทบจะจำไม่ได้ว่าเป็นใคร ซึ่งทันทีที่ศพมาถึงบ้านหว้า บรรดาญาติพี่น้องต่างพากันร่ำไห้ด้วยความสงสารครอบครัวนี้ เนื่องจากว่าทุกคนในครอบครัวนี้เป็นที่รักของญาติพี่น้องและลูกสาวลูกชายของครอบครัวนี้ก็กำลังน่ารักมาก สำหรับกำหนดการประกอบพิธีทางศาสนานั้น พวกตนได้หารือกันกับเจ้าอาวาสวัดบ้านหว้าและญาติพี่น้องทุกคนแล้ว จะตั้งศพสวดพระอภิธรรมเพียง 1 คืนเท่านั้น จากนั้น จะทำพิธีฌาปนกิจศพพร้อมกันในวันที่ 5 ม.ค. 60 เนื่องจากว่า ศพทั้ง 4 ศพ เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ ดังนั้น ญาติพี่น้องจึงจะไม่เก็บไว้นานหลายวัน ซึ่งขณะนี้พ่อแม่และพี่สาวของผู้เสียชีวิตยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ปรางค์กู่ เนื่องจากว่า แพทย์กำลังให้การรักษาพยาบาลอาการช็อคอย่างใกล้ชิด
ทางด้าน นายธวัช สุระบาล ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า การที่ชาวศรีสะเกษทั้ง 11 ศพสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ ตนรู้สึกเศร้าเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกคนเป็นอย่างมาก ซึ่งตนได้สั่งการให้ นายกฤตกร ถาศักดิ์ นายอำเภอปรางค์กู่ พร้อมด้วย นายคมกฤช พลพวก ปลัดป้องกันและทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องลงไปให้การช่วยเหลือครอบครัวที่เสียชีวิตอย่างเต็มที่แล้ว
