ที่มา: dodeden

วันนี้ ( 7 มกราคม 2560 ) นายแพทย์ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรมสบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางไปติดตามการฟื้นฟูโรงพยาบาลหลังสวน จ.ชุมพร  ซึ่งถูกน้ำท่วมอาคารบริการระดับสูงกว่า 1 เมตรว่า กรมสบส.ได้ระดมทีมวิศวกรจากส่วนกลาง สำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพเขต 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช และเขตอื่นๆรวม 9 ทีม ลงมาช่วยฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภคของโรงพยาบาล

โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเร่งด่วน คือระบบประปาที่ใช้งานในอาคารบริการต่างๆ  ซึ่งได้รับความเสียหาย  มอเตอร์ปั้มน้ำไม่สามารถใช้การได้   เพื่อให้โรงพยาบาลสามารถเปิดให้บริการผู้ป่วยได้ตามปกติก่อน

ซึ่งขณะนี้ทีมวิศวกรได้แก้ไขแล้วเสร็จ สามารถใช้การได้แล้ว  สำหรับจุดอื่นๆที่ได้รับความเสียหายได้แก่  ห้องบริการแพทย์แผนไทย ห้องทันตกรรม  อาคารคลังยาเวชภัณฑ์ หน่วยไตเทียม  อาคารผู้ป่วยนอกหลังเก่า   หอผู้ป่วยชาย  ซึ่งเป็นจุดบริการที่อยู่ในอาคารชั้นล่าง จะได้เร่งดำเนินการตรวจสอบฟื้นฟูต่อไปโดยเร็ว

นายแพทย์ประภาสกล่าวต่อว่า ในการป้องกันน้ำท่วมโรงพยาบาลหลังสวนในระยะยาว กรมสบส.ได้มอบหมายให้กองแบบแผนซึ่งดูแลด้านการออกแบบอาคารสถานที่ของโรงพยาบาล  ดำเนินการออกแบบอาคารของโรงพยาบาลหลังสวนเป็นการเฉพาะ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาด120 เตียง

โดยเฉพาะ คลังยา ซึ่งประสบภัยน้ำท่วมซ้ำซาก และระบบปั่นไฟสำรอง เพื่อป้องกันน้ำท่วมอย่างถาวร  สามารถให้บริการผู้ป่วยในพื้นที่และข้างเคียงได้อย่างเต็มศักยภาพ    ขณะนี้มีผู้ป่วยพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 104 คน เป็นผู้ป่วยหนัก 8 คน ที่เหลือเป็นผู้ป่วยทั่วไป

สำหรับที่โรงพยาบาลชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช  อาคารบริการถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 30 เซนติเมตร  ได้ส่งทีมวิศวกรเข้าตรวจประเมิน พบว่าได้รับความเสียหาย  4 จุดได้แก่ ระบบปั่นไฟสำรอง  หม้อนึ่งฆ่าเชื้อ  1  ตัว ระบบเครื่องปรับอากาศโรงพยาบาล  และเครื่องมอเตอร์และปั้มลมหน่วยทันตกรรมจำนวน 6 ยูนิต   โดยได้เร่งให้ทีมวิศวกรดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยและฟื้นฟูโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง ให้แล้วเสร็จ  สามารถเปิดให้บริการสมบูรณ์แบบทุกจุดบริการภายในวันจันทร์นี้  

ทางด้านนายแพทย์ศักดิ์สิทธิ์  มหารัตนวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหลังสวนกล่าวว่า ทางโรงพยาบาลได้วางแผนการป้องกันน้ำท่วมไว้อย่างเต็มที่  โดยขุดลอกคูคลอง ทำกำแพงป้องกันน้ำเข้าโรงพยาบาล และได้ขนย้ายเครื่องมือแพทย์ คลังยา เวชภัณฑ์ไว้ที่สูง แต่ระดับน้ำปีนี้เกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ และถือว่าวิกฤติที่สุดในรอบ 30 ปี

แต่ถึงแม้ว่าโรงพยาบาลจะประสบวิกฤติเป็นเวลา 3 วันก็ตาม  แต่สามารถให้การดูแลผู้ป่วยทั้งผู้ป่วยหนักและผู้ป่วยทั่วไปได้เป็นอย่างดี เปิดให้บริการผู้ป่วยทั้งผู้ป่วยใน ผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยฉุกเฉินได้เต็มศักยภาพ   เนื่องจากอาคารส่วนใหญ่อยู่สูงกว่าระดับน้ำ

สำหรับเรื่องคลังยานั้นทางโรงพยาบาลเป็นคลังสำรองให้โรงพยาบาลในพื้นที่ 5 อำเภอ  ได้แก่อำเภอหลังสวน  อำเภอพะโต๊ะ อำเภอสวี อำเภอทุ่งตะโก และอำเภอละแม   

โดยได้สำรองสามารถใช้การได้ 3 เดือน ซึ่งยาเวชภัณฑ์ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ทั้งนี้โรงพยาบาลได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานทั้งกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เป็นอย่างดี

เรื่องน่าสนใจ