เมื่อสังคมเปิดกว้างมากขึ้น จึงทำให้ทุกอย่างเปิดกว้างตามมา อย่างกรณี “คลินิกเสริมความงาม”เปิดขึ้นเป็นจำนวนมาก กลายเป็นตลาดคลินิกเสริมความงาม เพื่อเป็นทางเลือกและสนองตอบกับผู้ที่ต้องการเสริมความมั่นใจให้กับตัวเอง
ซึ่งแต่ก่อนเรื่องศัลยกรรมความงามเป็นเรื่องผู้ทำไม่ค่อยกล้าเปิดเผย อายคนรอบข้างและสังคม แต่วันนี้หลายคนกล้าที่เปิดเผยว่า ตนเองเสริมความงาม เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับความพึงพอใจจากการเข้าไปบริการคลินิกเสริมความงาม ดังนั้น “หมอเกรซ-พญ.เสาวภาคย์ พงศ์ศศิธร” แพทย์ด้านผิวพรรณและความงาม ได้แนะนำข้อคิดในการเลือกรับบริการคลินิกเสริมความงาม
1.“อย่าเลือกที่ราคา” บางคนเลือกที่ที่ราคาถูกที่สุด หมอจะบอกข้อเท็จจริงบางอย่างให้ทราบ อย่างกรณี “โบทอก ฟิลเลอร์” ก็เหมือนกระเป๋าแบรนด์เนม คือต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ จึงต้องมี distributor หรือ ผู้จัดจำหน่ายในไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยรับมาจากบริษัทแม่ที่ต่างประเทศอีกที เพราะฉะนั้นราคาต้นทุนของยาที่คลินิกสั่งจากdistributor ในประเทศไทย จึงมีต้นทุนเท่าๆกัน ขึ้นอยู่กับปริมาณการซื้อ ยิ่งซื้อมาก ราคาจะถูกลง แต่ให้ถูกลงหลายเท่าตัวนั้น เป็นไปไม่ได้ ส่วนใหญ่แล้วราคาจึงไม่ต่างกันมาก
ส่วนยาหิ้วก็เหมือนกระเป๋าหิ้ว แต่อาจแย่กว่า เพราะเกือบ100% ไม่มีของแท้เลย เนื่องจากฟิลเลอร์ โบทอก ไม่เหมือนกระเป๋าแบรนด์เนมที่ใครจะเดินเข้าไปซื้อก็ได้ จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาซื้อยาของแท้จากต่างประเทศมาใช้ได้เอง
ดังนั้นหน้าของเรา เลือกให้ดีๆ ดีกว่า เสียโฉมขึ้นมาแบบที่เป็นข่าว ไม่คุ้มกันเลย โดยทริกง่ายๆ โบทอก ฟิลเลอร์ ที่ราคาต่ำมากๆ เช่น โบทอกขวด100 ยูนิต ถูกกว่า 5,000 ฟิลเลอร์1ccถูกกว่า 5,000 ของแท้แทบเป็นไปไม่ได้
หมอเกรซ กล่าวอีกว่า แต่เชื่อไหมว่าของแพงไปใช่ว่าจะดีเสมอไป มีคนไข้รายหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ได้ไปเจอเซลล์คลินิกแห่งหนึ่งขายคอร์สราคาแพงมาก ๆ เรียกว่าหลายเท่าตัวทั้งที่ใช้ยาตัวเดียวกัน เซลล์แจ้งว่า หมอของเขาเป็นคนดัง มีแต่ดาราเซเลบมาทำ ราคาจึงแพง
คนไข้ถามว่าคุณหมอเจ้าของคลินิกจะมาฉีดให้เหรอ คำตอบคือ ไม่ คุณหมอเจ้าของคลินิกจะดูแลเคสเฉพาะวีไอพีจะเป็นคุณหมอท่านอื่นดูแลให้ เซลล์บอกว่า แต่ยาที่ใช้ดีกว่าที่อื่น พอสอบถามไปมาปรากฎว่าเป็นยี่ห้อเดียวกัน สุดท้ายคนไข้ไม่ได้ซื้อคอร์ส
เนื่องจากราคาแพงกว่าหลายเท่าตัว จึงโดนเซลล์เหน็บมาว่า ราคามันสูงไปจ่ายไม่ไหวเหรอ คนไข้หน้าชาและโกรธมากก ราคาแพงกว่าไม่ได้เป็นเครื่องหมายว่ายาดีกว่า เพราะยาสั่งมาจากบริษัทเดียวกัน ที่แพงกว่าน่าจะเป็นค่าฝีมือและชื่อเสียง แต่ถ้าไม่ได้ทำกับคุณหมอที่เชื่อมั่น แล้วเราจะจ่ายแพงกว่าทำไม
อีกรายหนึ่งจ่ายแพงแต่ไม่ได้ตามต้องการ คือ ต้องการทำศัลยกรรมอย่างหนึ่งกับคุณหมอชื่อดัง นัดวันเวลากับเซลล์ พร้อมแจ้งว่าต้องการทำกับคุณหมอท่านนี้ เซลล์แจ้งว่ามีทำ 2 แบบ แบบที่ 2 จะราคาสูงกว่า ราคาเกือบแสนเลยทีเดียว คนไข้ตกลงทำแบบที่ 2 ปรากฏว่าวันที่ไปทำ ไม่ใช่คุณหมอชื่อดังตามที่ตกลงกันไว้เป็นคนทำให้ แต่เป็นคุณหมอท่านอื่น และผลการผ่าตัดยังไม่เป็นไปตามแบบที่เลือกไว้คือแบบที่ 2 ที่ราคาแพงกว่าอีกด้วย อีกทั้งแผลผ่าตัดคนไข้ยังมีอาการอักเสบบวมแดง คนไข้แจ้งว่า ส่งรูปไปถามเซลล์ แต่เซลล์ว่าปกติ แถมหมอที่ดูแผลยังไม่ใช่หมอชื่อดังท่านนั้น แต่เป็นหมออีกท่านที่ทำผ่าตัดให้ สรุปคนไข้ไม่ได้เจอกับหมอชื่อดังที่ตนเองตั้งใจมาหาตั้งแต่แรกเลย
2.“หลีกเลี่ยงคลินิกที่รับฉีดยาหิ้ว” อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่ายาหิ้วนั้นโอกาสที่จะเป็นของแท้แทบเป็นไปไม่ได้ อีกทั้งยังถือเป็นของผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้น คลินิกใดก็ตามที่รับฉีดยาหิ้ว คลินิกนั้นก็ทำผิดกฎหมาย จึงเป็นที่น่าสงสัยว่า ขนาดยาที่คนไข้ไปซื้อในอินเทอร์เน็ต เดินหิ้วมาให้ฉีด ยังกล้าฉีด ไม่กลัวคนไข้เป็นอันตราย แล้วยาที่ใช้ในคลินิกล่ะ
3.“ถ้าเลือกได้ เลือกคลินิกที่คุณหมอเป็นเจ้าของ และออกตรวจเองด้วยจะดีกว่า” เหตุผลประการแรก เนื่องจากไม่ใช่หมอเวียน คนไข้สามารถมั่นใจได้ว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้น คุณหมอที่ทำให้ยังคงอยู่ รับผิดชอบที่คลินิกแน่นอน และข้อที่สอง โดยทั่วไปแล้ว การทำงานของเจ้าของกิจการกับลูกจ้าง ย่อมมีความแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของความตั้งใจ และความยืดหยุ่นต่างๆให้คนไข้ จึงแนะนำว่าถ้าเลือกได้ เลือกคลินิกที่เจ้าของเป็นแพทย์ที่ออกตรวจด้วยจะทำให้มีความมั่นใจได้มากกว่า
4.“เช็คชื่อและรูปหมอที่ติดอยู่ที่คลินิกว่าตรงกับเว็บไซต์แพทยสภาหรือไม่” http://www.tmc.or.th/check_md/ มีคนไข้เล่าว่า บางคลินิกไม่ยอมแจ้งชื่อจริงแพทย์ผู้ทำหัตถการ แจ้งแต่ชื่อเล่น ไม่ยอมบอกชื่อจริง ซึ่งถือว่ามีพิรุธเป็นอย่างมากโดยปกติแล้ว ที่คลินิกจะต้องมีรูปและชื่อ-นามสกุล รวมทั้งเลขที่ใบประกอบโรคศิลป์ติดอยู่ที่ผนังตามกฎหมาย คนไข้สามารถขอดู และจดชื่อนามสกุลไปเสิร์ชที่เว็บไซต์แพทยสภา ชื่อ นามสกุล รูป ทุกอย่างควรตรงกัน จึงจะมั่นใจได้ว่าเป็นแพทย์จริงๆ
5.“หน้าคลินิกต้องติดเลขที่ใบอนุญาตเปิดสถานพยาบาลจากกระทรวงสาธารณสุข” ซึ่งหมายถึงผ่านการตรวจสอบและรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขแล้ว
6. สามารถสอบถามและตรวจเช็คยี่ห้อยาที่ฉีดก่อนทุกครั้ง สามารถเอาชื่อผลิตภัณฑ์ไปเช็คได้ในเว็บไซต์ของ อย. หรือ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา http://fdaolap.fda.moph.go.th/logistics/drgdrug/Dserch.asp ได้ว่าเป็นยาที่ผ่าน อย. หรือยัง เพราะเท่าที่ทราบมีบางที่แอบอ้างว่ายาที่ตัวเองใช้นั้นผ่าน อย. แล้ว ทั้งที่จริงๆยังไม่ผ่าน เมื่อเข้าไปฉีด คนไข้สามารถสอบถามยี่ห้อยา และวิธีดูว่ายาเป็นของแท้กับคุณหมอเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง ถ้าคลินิกไหนไม่บอกยี่ห้อยา ไม่ให้ดูขวดยา หรืออธิบายการดูของแท้อย่างละเอียดไม่ได้ ให้ระวังของปลอม
7.อย่าเชื่อรีวิวมากนัก ดารา เซเลบเน็ตไอดอล บางคน ไม่ได้ทำที่นั่นจริงๆ แต่รับจ้างมา เหมือนที่รับจ้างโพสต์สินค้าในIG ดังนั้นจึงควรเสพสื่ออย่างมีสติ
เพียงแค่นี้ผู้บริโภคก็สามารถเดินเข้าคลินิกศัลยกรรมความงามได้อย่างมั่นใจ สวยหล่ออย่างมีคุณภาพและปลอดภัย ไม่ถูกหลอกและถูกเอารัดเอาเปรียบอีกด้วย