จะเอารูปให้ดูก่อนว่า เราเป็นคนมีกรามแล้วก็เนื้อแก้มเยอะตั้งแต่เด็กๆ ที่สำคัญหน้าเราไม่เท่ากันข้างนึ่งจะใหญ่กว่า เพราะเคี้ยวข้าวเคี้ยวอาหารข้างเดียว ถึงเราจะผอมแค่ไหนหน้าเราก็ไม่เล็กตาม ถึงจะจัดจัดฟันแล้วก็เหอะ หน้าก็ยังอืดยุดี แบบว่ารูปนี้คือรูปออริจินอล ยังไม่เคยฉีดสารใดๆเข้าหนังหน้าเลย
พอเรียนจบเริ่มมีงานทำมีเงินเดือน ก็อยากจะสวยเลยเริ่มศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องทำยังไงหน้าถึงจะเล็ก ทำยังไงกรามถึงหาย ทำยังไงหน้าถึงจะเรียว สิ่งแรกเลยคือการฉีดโบท็อก เห็นคนนั่นคนนี้เขียนรีวิวว่าฉีดโบท็อกแล้วหน้าเล็กลง หน้าดูเรียวขึ้น
เราก็ลองบ้างฉีดครั้งแรกปี 2553 โดยใช้โบท็อก50U ก็ไม่เห็นความแตกต่าง แต่ก็ไม่ท้อนะไปฉีดอีก ฉีดยุประมาณ 2 ครั้ง คือว่ากรามเล็กลงจิง แต่แก้มไม่ลง หมอเลยแนะนำให้แฟตแก้ม แฟตโหนกแก้ม หลังจากนั้นเราก็ฉีดโบท็อกควบคู่กับการแฟตแก้ม แฟตโหนก
เราก็ทำอยู่ 2 อย่างนี้ ประมาณ 2 ปีได้ ถ้าถามว่ากี่ครั้งเราไม่รู้อ่ะ เพราะบางที่ก็ 3เดือนครั้ง 4เดือนครั้ง 5เดือนครั้ง แล้วแต่ว่าเรากินมากน้อยแค่ไหน ถ้าเริ่มรู้สึกช่วงนั้นๆน้ำหนักขึ้นหรือว่าหน้าเริ่มบานออก ก็จะไปฉีด เราหารูปแรกที่ทำไม่ได้อ่ะ มีแต่รูปที่ฉีดมาแล้วประมาณปีกว่าๆเกือบ2ปี ลืมบอกไป….ว่าเราไม่ได้ฉีดโบท็อกกับแฟตที่คลินิกเดียวนะ เราเปลี่ยนคลินิกไปเรื่อยๆ ที่ไหนที่คนบอกดี เราก็ไป
ถามว่าเล็กลงจากเดิมมั๊ย มันก็เล็กลงนิดหน่อยนะ แต่แก้มมันก็ยังมีอยู่ ซึ่งมันก็ยังไม่เรียว
ส่วนรูปนี้เริ่มมาฉีดโบท็อกกับแฟตแก้มที่กองจูล่ะ เห็นชัดป่ะว่าเล็กลงเยอะ แก้มหายไปเยอะจนมันห้อยๆอ่า
พอรู้สึกว่าแก้มเล็กลง กรามหายไป จะทำยังไงดีหล่ะกับแก้มที่มันห้อยๆเนี่ย หมอที่กองจูเลยแนะนำให้ร้อยไหมก้างปลา ในสมองเราก็มีคำถาม ไหมกางปลาคืออะไร? แล้วมันต่างกับไหมธรรมดายังไง? แล้วมันดีกว่าไหมธรรมดาตรงไหน? ทำไมราคาถึงสูงจัง
หมอที่กองจูตอบๆๆๆมา ซึ่งเราจะอธิบายให้เข้าใจแบบง่ายๆนะ
ทำทันที นอกจากนี้ไหมกางปลายังไปกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อให้มีการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวให้แข็งแรง คุณภาพผิวก็จะดีขึ้น ผิวก็จะดูสว่างขึ้น ขาวขึ้น ใสขึ้น ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปจนไหมละลายหมด แต่คอลลาเจนใต้ผิวมันก็ยังอยู่
ฟังดูดีเนอะ ไม่ลองไม่รู้ เราเลย จัดซะหน่อย ข้างละ 8เส้น + ไหมธรรมดาอีกข้างละ 20 เส้นมั้ง ถ้าจำไม่ผิด ร้อยไหมก้างปลาแล้วทำไมต้องร้อยไหมธรรมดา ก็เพราะว่า ไหมธรรมดาเส้นเล็กกว่าสั้นกว่าเอาไว้เป็นตัวช่วยไหมก้างปลา เหมือนประมาณเก็บลายละเอียดบนใบหน้าอ่ะ
อันนี้หน้าเราเอง เราบอกพยาบาลถ่ายเก็บไว้ ฮ่าๆ หลังร้อยเสร็จหน้าก็จะบวมๆหน่อยพยายามประคบน้ำแข็ง ประคบเย็นบ่อยๆ จะช่วยลดอาการบวมได้ จะบวมอยู่ประมาณ1-2วัน แล้วซัก1-2สัปดาห์ก็เริ่มเห็นว่าช่วงแก้มจะเริ่มเรียวขึ้น แต่เราเพิ่งทำเสร็จ ก็โอยุนะ เริ่มมีแววเรียว 555+
พอรูปนี้ประมาณเดือนสองเดือน สังเกตุดูว่าโหนกแก้มจะยังใหญ่ๆ และไม่เท่ากัน บางคนหน้าอาจจะยังไม่เล็ก เพราะว่ายังไม่หายบวมสนิทนั่นเอง คือต้องเข้าใจนะว่าการร้อยไหมก้างปลา เราต้องให้เวลากับเค้าอยากสวยอยากหน้าเรียวต้องทนค่ะ มันเกิดจากการที่ร้อยไหมตรงช่วงแก้มที่มันเยอะๆแล้วดึงขึ้นไปไว้ตรงขมับ ดูจากรูปข้างบนประกอบนะถึงเข้าใจ เลยทำให้โหนกแก้มดูสูง แล้วที่ไม่เท่ากันเพราะมันยังบวมๆอยู่นิดหน่อย ประมาณ3เดือนขึ้นไปหน้าเราถึงเข้าที่เข้าทาง
รูปนี้รูปปัจจุบันค่ะ คือแก้จมูกครั้งที่4แล้ว เห็นบางคนบ่นกันจัง ทั้งฉีดโบท็อกซ์ ร้อยไหม แฟตแก้ม ทำทุกอย่างก็ยังไม่เรียว ลองจัดไหมก้างปลาแบบเราดูมั๊ย ลืมบอกว่านน.เราขึ้นมา3-4โล แต่หน้าเราก็ยังไม่บาน ไหมก้างปลานี่แหล่ะตัวสำคัญที่บล็อกหน้าเราไว้ โบท็อกก็สำคัญนะ อิอิ กราบขอบพระคุณ คุณหมอที่กองจูคลินิกงามๆ ที่ให้ทั้งหน้าใหม่จมูกใหม่
ใครจะว่าเราเป็นเจ้าแม่ศัลยกรรมเราก็ยอมอ่ะนะ เพราะเราทำมาทุกอย่าง กว่าจะมาเป็นเราวันนี้เจ็บมาเยอะ หมดตังไปก็เยอะเหมือนกัน ดูรูปกันเองว่าเปลี่ยนไปเยอะมากมั๊ย
เรียบเรียงโดย Kookkaii Km
เสพติดศัลยกรรม http://goo.gl/xTHScF
รีวิวแก้จมูก คุณกุ๊กไก่ http://bit.ly/1tmZUjA
รีวิวเสริมจมูก คุณแตงโม http://goo.gl/2qwB9t
รีวิวเสริมจมูก คุณสปีดโบ๊ต http://goo.gl/7xZGVO
รีวิวเสริมจมูก คุณที http://goo.gl/5xu0Dc
รีวิวเสริมจมูก คุณฝนทอง http://goo.gl/EZqwMi
รีวิวเสริมจมูกพร้อมตัดปีก คุณต้น http://goo.gl/dW9CFo
รีวิวศัลยกรรมปากกระจับ http://goo.gl/RRKN9d
รีวิวตัดปีกจมูกพร้อมปรับฐาน คุณสยาม http://goo.gl/AOYREL
รีวิวแก้ไขจมูก คุณฝ้าย http://goo.gl/EpTIhZ