ที่มา: sanook

หลังจากเจอโยงดราม่าเข้าไปเต็มๆ สำหรับพระเอกหนุ่มย่านลาดพร้าว “มังกร ปภาวิน” หลังถูกจ่อไมค์ถามถึงกรณีที่นักปั้นมือทอง “อุ๊บ วิริยะ” ออกโรงแฉลอยๆ ถึงพระเอกดาวรุ่งชื่อคล้ายสัตว์ใหญ่ครึ่งบกครึ่งน้ำที่มีพฤติกรรมสุดทนในการรับงาน จนหลายคนพุ่งเป้ามาที่เจ้าตัว!!

โดยงานนี้นอกจากจะทำเอาหนุ่มมังกรถึงกับต้องรีบออกมาเคลียร์แบบด่วนๆ ว่า เรื่องราวดังกล่าวน่าจะเป็นการตีความผิดของบรรดาขาเม้าท์และตนเองก็ไม่มีได้พฤติกรรมแย่ในการรับงานอย่างที่ถูกกล่าวหาแล้วนั้น เจ้าตัวก็ยังยอมรับด้วยว่าในอดีตตนเคยอยู่ในการดูแลของ “อุ๊บ วิริยะ” มาก่อน แต่ครั้งสุดท้ายที่คุยกันก็ถือได้ว่าเป็นการพุดคุยกันด้วยดีทั้งสองฝ่าย และที่สำคัญทุกวันนี้เจ้าตัวก็ยังคงมองนักปั้นคนดังเป็นพี่ที่เคารพและเป็นผู้มีพระคุณต่อตนเองเสมอ 

ล่าสุดมีประเด็นที่ พี่อุ๊บ วิริยะ เขาออกมาแฉว่าพระเอกชื่อสัตว์ใหญ่ครึ่งบกครึ่งน้ำมีพฤติกรรมไม่ดี คนเลยโยงมาที่เรา ?

“ก็…เคยได้ยินข่าวนะครับ และส่วนตัวมังกรเองก็รู้จักกับพี่อุ๊บเหมือนกัน ถือว่าพี่เขาเป็นผู้มีพระคุณกับมังกรคนหนึ่งเลยด้วย เพราะเคยมีโอกาสได้ร่วมงานกันมาก่อน พี่เขาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีคนหนึ่งเลยครับ”

รู้สึกยังไงบ้างที่คนโยงมาว่าเขาหมายถึงเรา เพราะเนื้อข่าวบอกว่านิสัยไม่ดีเกี่ยวกับพฤติกรรมการทำงาน ?

“ถ้าให้มังกรเดา มังกรคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องของการเข้าใจผิด เพราะว่างานทุกอย่างของมังกรต้องผ่านผู้ใหญ่ และมันอาจจะเป็นการประสานงานระหว่างผู้ใหญ่กับผู้ใหญ่หรือเปล่าที่อาจจะคลาดเคลื่อนกัน ซึ่งอันนี้คือสิ่งที่มังกรเดานะ และที่สำคัญทุกอย่างครั้งที่มังกรร่วมงานกับพี่อุ๊บ มังกรก็จะคุยกับคุณพ่อตลอด และคุณพ่อท่านก็จะให้เกียรติพี่อุ๊บมากๆ ดังนั้นมังกรคิดว่าเรื่องนี้มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร น่าจะเป็นคนอื่นหรือเปล่า”

จริงๆ ก่อนหน้านี้เราเคยมีโอกาสได้พูดคุยกับพี่อุ๊บบ้างไหม ?

“เอ่อ…ครั้งสุดท้ายก็ให้คุณพ่อไปนะครับ และมังกรก็ไปด้วย ซึ่งการพูดคุยก็เป็นไปตามปกติ ไม่น่าจะมีอะไร”

ตัวพี่เขาเองเคยมีการเสนองานหรือหางานให้เรามาก่อนหรือเปล่า ?

“เคยมีโอกาสได้ร่วมงานกันครับ แต่ว่ายังไม่เคยได้มีโอกาสทำงานกันเป็นชิ้นเป็นอัน (ยิ้ม)”

พี่เขาส่งงานให้เราหรือว่าหางานให้เราเยอะขนาดไหน พอจะบอกได้ไหม ?

“เอ่อ…เคยมีโอกาสได้เข้าไปอยู่ในการดูแลดีกว่าครับ และก็มีการผ่านคุณพ่อ คือมีข้อตกลงกันระหว่างผู้ใหญ่ ซึ่งเรื่องรายละเอียดอันนี้มังกรไม่ทราบจริงๆ แต่ถ้าถามถึงงานเป็นชิ้นเป็นอันอันนี้ไม่มี”

นอกจากเรื่องงานแล้ว เห็นว่ามีการยืมเงินเป็นแสนแล้วก็ไม่คืนด้วย ?

“โห…ยืมเงินเป็นแสนเลยเหรอ ไม่มีครับ ทางบ้านผมก็ยังมีคุณพ่อคุณแม่อยู่ครับ ยืมคุณพ่อคุณแม่ดีกว่า (ยิ้ม) คิดว่าไม่มีอะไรนะครับ ผมคิดว่าผมไม่มีอะไรยืมพี่อุ๊บ”

คิดว่าเพราะอะไรคนถึงโยงมาที่เรา ?

“ไม่น่ามีอะไรนะครับ คือเวลาเจอกับพี่อุ๊บตามงานมังกรก็ยกมือไหว้เสมอ ไหว้ทุกครั้ง ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรส่วนตัวเลยครับ ผู้ใหญ่รอบตัวมังกรก็รู้จักกับพี่อุ๊บ และครั้งสุดท้ายที่คุยคือก็มีการให้เกียรติกันพอสมควรนะ เพราะให้คุณพ่อเป็นคนไปคุยเอง ส่วนเรื่องรายละเอียดอันนี้เราไม่เข้าไปก้าวก่ายดีกว่า เพราะในข้อตกลงแรกที่พี่อุ๊บเข้ามาขอดูแล เขามาขอผ่านคุณพ่อ ดังนั้นในวันหนึ่งที่เราจะเดินทางต่อไปเราก็ให้คุณพ่อไปคุยกับพี่อุ๊บเอง ซึ่งสำหรับตัวมังกรแล้วการที่พี่อุ๊บยังพูดถึงมังกรไม่ว่าจะเป็นด้านไหนมังกรก็ดีใจนะครับ”

ตัวเราเองกับพี่อุ๊บตอนที่ดูแลกันเคยมีการทำสัญญาไหม ?

“ไม่เคยมีลายลักษณ์อักษรแน่นอนครับผม คือเป็นแค่การพูดคุยกัน และหากวันหนึ่งทำตามข้อตกลงที่ทำกับคุณพ่อได้ ก็จะมีการลงรายละเอียดครับ”

พอมีข่าวแบบนี้กลัวคนจะไม่เข้าใจไหมว่าเราอาจจะเป็นอย่างที่พี่อุ๊บพูดจริงๆ ?

“ไม่มีอะไรที่กังวลนะครับ เพราะว่าระยะทางเวลาและการร่วมงานกับผู้ใหญ่ทุกๆ คน มังกรเต็มที่เสมอ และถ้าหากวันหนึ่งเราไม่ดีจริงสุดท้ายการกระทำมันก็ออกมาเอง แต่ ณ วันนี้ัมังกรสามารถพูดได้ว่าผมยังทำได้ดีอยู่ และก็ไม่เคยมีเสียงใดๆ ที่ออกมาบอกว่าผมขาดความรับผิดชอบข้อไหน”

รู้แบบนี้แล้วเราจะยกหูโทรหาพี่อุ๊บเลยไหม เพื่อสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ?

“ถ้าหากเขาเอ่ยชื่อผมนะ แต่ผมมั่นใจว่าไม่น่าใช่ เอาเป็นว่ารอให้เขาออกมาบอกเองดีกว่าว่าเป็นใคร เพราะบางทีสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำอาจเป็นชื่ออื่นก็ได้ มีเยอะแยะ และยืนยันครับว่าพี่อุ๊บยังเป็นผู้ใหญ่ที่มังกรเคารพรักเสมอ และมีบุญคุณกับมังกรเสมอครับ”

กลัวไหมว่ากระแสข่าวครั้งนี้จะกระทบกับงานของเรา ?

“มังกรคิดว่าผู้ใหญ่เข้าใจนะครับ เพราะว่าสุดท้ายแล้วถ้าหากพี่อุ๊บมีการเอ่ยชื่อมังกรจริงๆ มังกรยินดีเคลียร์นะ เพราะมังกรยืนอยู่บนความจริง ไม่ได้กลัวอะไร ความจริงมันจะบอกทุกอย่างเอง”

ผู้ใหญ่ทางช่องเคยถามเรื่องข่าวบ้างไหม ?

“ผมไม่แน่ใจนะครับว่าพี่อุ๊บเขาพูดถึงเรื่องอะไรบ้าง แต่ถ้าเป็นเรื่องงาน ผมบอกได้เลยว่าผมไม่เคยเลือกรับงานเลยนะครับ ปีที่แล้วก็รับละคร 3 เรื่อง ทำงาน 7 วัน คือถ้ามีงานเข้ามาเยอะๆ ผมดีใจ งานถูกงานแพงผมไปหมด สมัยก่อนผมร่วมงานกับพี่อุ๊บไม่ได้เงินสักบาทเลยนะครับ ไปร่วมงานบุญกันผมก็ไปด้วยใจจริงๆ”

อย่างตอนนี้พอเราเริ่มดังขึ้น เริ่มเป็นพระเอกที่มีชื่อเสียง การรับงานของเราแต่ละครั้งต้องดูเรื่องเงินเป็นสำคัญไหม ?

“ไม่มี (หัวเราะ) งานไหนให้ผมไปช่วยผมก็ไปด้วยใจ ขนาดน้ำส้มของผม ผมยังแบกไปด้วยตัวเอง คือผมค่อนข้างมั่นใจครับว่าผู้ใหญ่ทุกคนก็น่าจะมองเห็นความตั้งใจของผมครับ”

เรื่องน่าสนใจ