เนื้อหาโดย Dodeden.com

ความสะดวกสบายในกานเลือกที่นั่งอาจแตกต่างกัน แต่ไม่ว่าจะชั้นเฟิร์สต์คลาสหรือชั้นประหยัด สิ่งที่เหมือนกันคือคุณอยู่สูงเหนือพื้นดิน 30,000 ฟุต นานกว่า 4 ชั่วโมง ซึ่งมีผลกระทบกับร่างกายคุณมากกว่าความปวดเมื่อย เมื่อต้องนั่งเครื่องบินนานๆ

จมูกและท้อง
เครื่องกรองอากาศในเครื่องบิน ส่งผลให้อากาศในห้องโดยสารมีความชื้นต่ำ อากาศแห้งส่งผลต่อการสร้างน้ำเมือก (น้ำมูก) ที่ช่วยดักจับสิ่งสกปรกและเชื้อโรคหากไม่มีเจ้าเมือกนี้ เชื้อโรคต่างๆ สามารถเข้าสู่ร่างกายอย่างง่ายดาย และทําให้เซลล์ติดเชื้อ ทางที่ดีอดใจเอาไว้ก่อน อย่าเพิ่งล้วงแคะจมูกหรือขยี้ตา ตลอดจนอย่าลืมล้างมือบ่อยๆ อีกทั้งการนั่งเฉยๆ อยู่บนเครืองบินไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง คงหลีกเลี่ยงการไปทําธุระส่วนตัวในห้องน้ำไม่ได้ แม้จะรู้ว่ามันเสี่ยงต่อการติดเชื้อโนโรไวรัส สาเหตุของอาการท้องเสียและอาเจียนจากการสัมผัส ข่าวร้ายก็คือ เจ้าเชื้อไวรัสนี้แพร่กระจายอยู่ทุกส่วนในห้องน้ำ ไม่ว่าจะเป็นด้ามจับประตู เคาน์เตอร์อ่างล้างมือ ผ้าเย็นทําความสะอาดที่มีแอลกอฮอล์ จึงจําเป็นมาก เพราะฉะนั้นต้องเช็ดมือทุกครั้งหลังจากเข้าห้องน้าเสร็จ

เลือด
ห้องโดยสารบนเครื่องบินมีความดันอากาศต่ำ คุณจําต้องนั่งๆ นอนๆ อยู่แต่บนเก้าอี้ ระบบไหลเวียนเลือดเลยช้าลง มีโอกาสเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือด หากคุณกําลังอยู่ในขั้นตอนกินยารักษาโรค หรือคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคลิ่มเลือดอุดตัน แนะนําให้ขยับตัวยืดเส้นยืดสาย หรือเดินไปเดินมาประมาณ 5 นาที ทุกๆ ชั่วโมง

หู
บางคนรู้สึกมวนท้องเพราะจุดศูนย์กลางของการทรงตัวในหูชั้นในถูกอากาศแปรปรวนภายนอกรบกวน แม้คุณจะเห็นว่าภายในห้องโดยสารมันนิ่งสนิทก็เถอะ ทางป้องกันคือจองที่นังให้อยู่เหนือปีกเครื่องบิน ซึ่งเป็นบริเวณที่คงตัวที่สุด สิ่งที่อาจสร้างความเสียหายให้กับหูคือ การยัดหูฟังแล้วเปิดเพลงดังๆ เพื่อกลบเสียง เครื่องบิน ทําอย่างนี้ เซลล์ประสาทภายในหูจะเสียหาย ต่อให้เป็นเพลงบรรเลงของโมสาร์ทก็เถอะ แต่ถ้าใครเดินทางบ่อยๆ ไม่ต้องกังวล ร่างกายจะปรับตัวได้เองค่ะ

เซลล์ในร่างกาย
ตอนนี้เรากําลังอยู่บนชั้นบรรยากาศโลก ซึ่งห่างจากพื้นดินกว่า 30,000 ฟุต เรากําลังบินอยู่ในโซนรังสีคอสมิก (เพื่อให้คุณเห็นภาพมากยิ่งขึ้น การบินหนึ่งครั้งคุณจะได้รับรังสีคอสมิกครึ่งหนึ่งของการเอ็กซเรย์หน้าอก หนึ่งครั้งนี่นึกออกไหมว่าหากคุณเดินทางบ่อยๆ จะเกิดอะไรขึ้น) แม้บนเครื่องบินจะติดตั้งเครื่องกรองรังสี แต่สําหรับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินก็น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะสาวแอร์ฯ ที่ตั้งครรภ์อ่อนๆ


คุณอาจต้องเดินทางข้ามเส้นแบ่งเวลา แต่วงจรชีวิตของคุณยังปรับตัวไม่ได้ ผลก็คืออาการเจ็ตแล็ก (Jet Lag) แสงอาทิตย์ช่วยให้สมองและร่างกายปรับตัวได้เอง หากจําเป็นจะต้องเดินทางไปประเทศทางฝั่งตะวันออก พยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดยามเช้า แต่ออกไปรับแดดช่วงบ่ายแทน ในทางกลับกัน ถ้าไปประเทศฝั่งตะวันตก แนะนําให้ตากแดดมากที่สุดเท่าที่จะทําได้ 

 

เรื่องน่าสนใจ