นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัท โซเชียล อิงค์ จำกัด เผยผลการวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวโลกออนไลน์ของประเทศไทย ในงานไทยแลนด์ โซเชียล อะวอร์ด 2014 ว่า ปัจจุบันคนไทยใช้บริการโซเชียลมีเดียมากเป็นอันดับ 9 ของโลก หรือราว 28 ล้านคน เทียบเท่าประเทศเยอรมัน อันดับ 1ได้แก่ ประเทศสหรัฐอเมริกา ประมาณ 180 ล้านคน โดยคนไทยใช้เวลาเล่นโซเชียลมีเดียต่อวันเฉลี่ย 3.7 ชั่วโมงต่อวัน รองจากฟิลิปปินส์ที่ 4ชั่วโมงต่อวัน
โซเชียลมีเดียที่คนไทยใช้มากที่สุด คือ เฟซบุ๊ก 28 ล้านคน ทวิตเตอร์ 4.5 ล้านคน และอินสตาแกรม 1.7 ล้านคนโดยเฟซบุ๊กมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 53% ส่วนพื้นที่ที่ใช้งานมากที่สุดคือกรุงเทพมหานคร 55% หรือราว 15.4 ล้านคน รองลงมาคือ เชียงใหม่ ชลบุรี และนครราชสีมา และพื้นที่ที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มมากขึ้นคือ พระนครศรีอยุธยา ชัยนาท และมหาสารคาม ในปี 2013 เฟซบุ๊กถูกใช้งานโดยผู้หญิงมากที่สุดประมาณ 50.82% ผู้ชาย 49.18% ทั้งนี้ แนวโน้มในปี 2014 อัตราการใช้เฟซบุ๊กของผู้หญิงน่าจะมีการเพิ่มขึ้นเป็น 51.22% และผู้ชาย48.78% ซึ่งจากจำนวนผู้ใช้บริการทั้งหมดกว่า 14% เป็นการเปิดบัญชีทิ้งไว้แต่ไม่มีความเคลื่อนไหว หรือสร้างบัญชีมาเพื่อรับจ้างกดไลค์เท่านั้น
พฤติกรรมการใช้บริการเฟซบุ๊กของคนไทยกว่า 57% นิยมการโพสภาพถ่าย 33% เช็คอิน 21% แชร์ลิงค์ต่างๆ 3% แชร์วิดีโอจากยูทูป และอีก2% โพสสเตตัสของตัวเอง โดยช่วงเวลาที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด คือ 14.00 น. รองลงมา 15.00 น. และ 10.00 น.ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาทองสำหรับเจ้าของแบรนด์ สินค้า ธุรกิจและสื่อต่างๆที่จะสามารถเพิ่มยอดคนเข้าชมได้มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมีโซเชียลมีเดียที่คนไทยให้ความสนใจ อาทิ ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม และไลน์ โดยจำนวนคนไทยที่ใช้ทวิตเตอร์มีมากเป็นอันดับที่17 ของโลก ประมาณ 4.5 ล้านคน ช่วงเวลาที่ใช้งานมากที่สุดคือ 21.00-22.00 น. ที่สำคัญปัจจุบันคนไทยนิยมใส่แฮดเทคของตัวเองมากขึ้น อินสตาแกรมปัจจุบันมีคนไทยใช้งานประมาณ 1.5ล้านบัญชี ช่วงเวลาที่มีการใช้งานมากที่สุดคือ กลุ่มธรรมดา 23.00 น. กลุ่มเซเล็บ 21.00น. และคนที่มีอิทธิพล 18.00 น. ยูทูปคนไทยนิยมใช้งานเพื่อฟังเพลงมากที่สุด รองลงมาคือบริการดูทีวีออนไลน์ และไลน์จากผลการสำรวจคนไทย688 คน พบว่า ใช้สำหรับพูดคุย 87% ใช้ถ่ายภาพและแชร์ 47% เล่นเกมไลน์เกม 45%
นอกจากนี้ยังพบว่าปัจจุบันคนไทยมีอัตราการใช้อินเตอร์เน็ตผ่านมือถือเพิ่มมากขึ้น โดยผ่านระบบแอนดรอย33.15% แอปเปิ้ล 26.95% ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์พีซี 23.72% ผ่านมือถือสมาร์ทโฟน 16.17%
ขอบคุณที่มา mcot.net