เรียบเรียงเนื้อหาโดย Dodeden.com
แผลเป็นนูน ชนิดคีลอยด์ (Keloid) นี่อยู่คู่กับวงการศัลยกรรมมาอย่างยาวนานค่ะ เชื่อว่าหนุ่มๆ สาวๆ อาจจะเคยมีแผลเป็นชนิดนี้ปรากฏขึ้นบนร่างกายแน่ๆ ทั้งจากการทำศัลยกรรมตา จมูก คางแผลนอก ซึ่งล้วนเเล้วเเต่เป็นเรื่องที่กระทบจิตใจทั้งสิ้น บางคนก็เป็นแค่นิดหน่อย ทาแผลไม่กี่เดือนอาการด็ขึ้น แต่บางคนก็เป็นหนัก ถึงกับต้องใช้วิธีทางการแพทย์รักษากันเลยทีเดียว
แผลเป็นนูน ชนิดคีลอยด์ (Keloid) คือ แผลเป็นที่มีลักษณะนูนและมีสีแดง ซึ่งเกิดจากความผิดปกติเมื่อร่างกายของเรามีบาดแผล ชั้นผิวก็จะเริ่มสร้างเนื้อเยื่อเพื่อมาซ่อมแซม แต่ในบางครั้งอาจจะมากเกินไป จนทำให้เกิดการขยายตัวกว้างขึ้น จนกลืนกินเนื้อเยื่อรอบๆ จนกว้างกว่าแผลเดิม และจะขยายขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ส่วนในวัยที่มักจะพบรอยแผลเป็นชนิดนี้ได้มากที่สุดนั้น จะเป็นช่วงวัยรุ่นและวัยเจริญพันธุ์ค่ะ พบในสาวๆ มากกว่าคุณผู้ชาย และมักจะพบในคนที่มีผิวคล้ำมากกว่าคนที่มีผิวขาว หากคนในครอบครัวมีประวัติการเกิดคีลอยด์ โอกาสเสี่ยงที่จะเกิดแผลเป็นชนิดนี้ก็จะยิ่งสูงตามไปด้วย
ลักษณะของแผลเป็นชนิดนี้ จะมีขนาดใหญ่กว่าแผลเป็นธรรมดา นูน แข็ง ผิวมัน มองเห็นชัดเจนจากผิวหนังปกติ ตัวแผลมีสีแดง เนื่องจากบริเวณนั้นจะมีเส้นเลือดมาเลี้ยงเป็นจำนวนมาก ในบางคนก็อาจจะมีอาการเจ็บ คัน ร่วมด้วย เป็นแผลเป็นที่มักพบได้ทั่วร่างกาย บ่อยที่สุดก็จะเป็นบริเวณหลัง ไหล่ แขน ขา คอ หน้าอก และหลังหู ซึ่งเป็นบริเวณที่ผิวหนังตึงที่สุด เกิดแผลเป็นชนิดนี้ได้ง่ายที่สุดค่ะ
เเล้วเราจะรักษาแผลเป็นชนิดนี้ได้ยังไงกันนะ ?
การรักษารอยแผลเป็นชนิดนี้ ส่วนใหญ่เเล้ว จะใช้ยาทาแก้แผลเป็น เช่น ยากลุ่มสเตียรอยด์ ยาที่มีวิตามิน E หรือ A เป็นส่วนประกอบ ในกรณีที่แผลเพิ่งเกิดใหม่ๆ ถ้าขยันทาบ่อยๆ แผลก็จะนุ่มลงและจางหายไปได้ค่ะ แต่ในกรณีที่แผลเกิดมานานเเล้ว หรือมีทีท่าว่าจะขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ต้องพึ่งเจ้าแผ่นซิลิโคนเจล เพื่อนำมาปิดบริเวณแผลเป็น เพื่อช่วยลดการขยายตัวของแผล ในบางรายอาจจะต้องใช้วิธีการการฉีดยาสเตียรอยด์ เพื่อให้ยุบลง แต่วิธีนี้จะต้องฉีดหลายครั้งจนกว่าแผลจะยุบและเรียบลงไป วิธีการสุดท้าย นั่นคือวิธีการผ่าตัดเพื่อเอาแผลเก่าออก แล้วทำการเย็บแผลใหม่อีกครั้ง วิธีนี้จะใช้กับแผลเป็นที่สมบูรณ์เต็มที่แล้วเท่านั้น
ในปัจจุบันนี้ ยังไม่มีวิธีไหนที่จะช่วยรักษารอยแผลเป็นนูนให้หายไปแบบไร้ร่องรอยได้ แต่จะเป็นการบรรเทาให้รอยแผลเป็นมีขนาดเล็กลง สีจางลงเท่านั้น แต่ก็ยังมีหลายๆ คลินิกที่มีวิธีการรักษารอยแผลเป็นนูนในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งก็เป็นซิ่งที่เราจะต้องเรียรู้และศึกษาหาข้อมูลถึงวิทยาการใหม่ๆ ด้วยค่ะ