“น้ำ” ถือเป็นองค์ประกอบสําคัญของร่างกายคนเรา โดยถูกนําไปใช้ในระบบลําเลียงเลือด รวมถึงเป็นส่วนประกอบของทั้งภายในและภายนอกเซลล์ จึงกล่าวได้ว่า ในร่างกายคนเรามีปริมาณน้ำมากถึง 2 ใน 3 ส่วน แต่จะจริงหรือไม่ที่ว่า การดื่มน้ำ ยิ่งเยอะยิ่งดีต่อร่างกาย ไปหาคําตอบพร้อมๆ กันเลย!
การดื่มน้ำในปริมาณมากๆ ทําให้เสียชีวิตได้จริงหรือ?
การดื่มน้ำมากจนเกินปริมาณที่เหมาะสม สามารถทําให้เสียชีวิตได้นั้นเป็นเรื่องจริง ซึ่งภาวะที่เกิดขึ้นนี้ถูกเรียกว่า “ภาวะน้ำเป็นพิษ” ซึ่งเป็นการดื่มน้ำที่สูงถึง 6- 7 ลิตรต่อวัน และเกินความต้องการของร่างกายต่อวัน เมื่อดื่มน้ำมากจนเกินไป ก็อาจทําให้เลือดมีการเปลี่ยนแปลงสารอาหารต่างๆ ทําให้แร่ธาตุบางอย่างถูกขับออกจากเลือดมากเกินไป นอกจากนี้ ยังอาจทําให้เกิดภาวะน้ำท่วมปอด หรือสมองบวมขึ้นได้ จนนําไปสู่การเสียชีวิตได้ในที่สุด
แล้วดื่มน้ำปริมาณเท่าไหร่จึงจะเรียกว่าดีต่อสุขภาพ?
ถ้าถามถึงปริมาณน้ำที่เหมาะสมหรือพอดีของแต่ละบุคคลนั้นไม่เท่ากัน โดยขึ้นอยู่กับเพศ อายุ หรือแม้กระทั่งกิจกรรมต่างๆ ที่ทําในแต่ละวัน ซึ่งโดยปกติแล้วการดื่มน้ำ 8 แก้ว/วัน ถือว่าเป็นปริมาณอย่างน้อยที่ทุกคนควรจะดื่มในแต่ละวัน เพราะร่างกายจะมีการสูญเสียน้ำออกไปในปริมาณ 2 – 25 ลิตร/วัน การที่เราดื่มน้ำ 8 แก้วเป็นอย่างน้อย ก็เหมือนเป็นการทดแทนน้ำในส่วนที่หายไปให้กลับมาสมดุลอีกครั้ง
ดื่มน้ำอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด?
การดื่มน้ำให้ได้ประโยชน์สูงสุด ต้องเลือกน้ำที่สะอาด ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป ซึ่งน้ำอุ่นหรือน้ำที่อยู่ในอุณหภูมิห้องจะเหมาะสมต่อร่างกายมากที่สุด โดยช่วงเวลาของการดื่มน้ำก็ให้ประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น ช่วงเช้าควรดื่มน้ำประมาณ 2-5 แก้วก่อนแปรงฟัน เพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถขับของเสียที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เรานอนหลับออกไปจากร่างกายได้ นอกจากนี้ ยังควรดื่มน้ำทั้งก่อนและหลังทานอาหาร 1 ชั่วโมง เพื่อให้ระบบย่อยอาหารทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
จะเห็นได้ว่า สิ่งที่เราคิดว่าจําเป็นต่อร่างกายมากอย่าง “น้ำ” จริงๆ แล้วก็ยังต้องคํานีงถึงความพอดี ไม่ให้มากหรือน้อยเกินไป จนเป็นการทำลายสุขภาพด้วย
เนื้อหาโดย Dodeden.com