เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ รายงานว่า วีรกรรมของ สวีเฉียนข่าย พนักงานขับรถไฟวัย 29 ปี นั้นสมควรถูกยกย่องให้เป็นฮีโร่ เพราะเขายอมเสี่ยงชีวิตตัวเอง กระโดดลงไปช่วยดึงหญิงชราวัย 65 ปีออกจากรางรถไฟ ทำให้เธอรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด แต่เขากลับเป็นฝ่ายถูกรถไฟทับเสียเอง
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองฉงชิ่ง ในช่วงบ่ายของวันที่ 5 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยขณะที่เฉียนข่ายปฏิบัติหน้าที่ขับรถไฟอยู่ตามปกตินั้น เขาสังเกตเห็นหญิงชราคนหนึ่งกำลังเดินข้ามทางรถไฟในระยะอันตราย เขาบีบแตรเสียงดังและดึงเบรกฉุกเฉินทันที แต่แทนที่หญิงชราจะกระโดดหลบ เธอกลับยืนนิ่งเฉยอยู่บนรางรถไฟแบบนั้น
ในวินาทีนั้นเฉียนข่ายคิดขึ้นมาในหัวว่า เขาน่าจะช่วยหญิงชราได้ทันก่อนรถไฟถึงตัวแน่ ๆ เขาจึงกระโดดลงจากรถไฟที่กำลังวิ่ง แล้ววิ่งเข้าไปหาเธอโดยมีรถไฟแล่นตามมาติด ๆ เฉียนข่ายพุ่งไปถึงตัวหญิงชราแล้วผลักเธอออกไปจากรางรถไฟ เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในเวลาไม่เกิน 10 วินาทีเท่านั้น เฉียนข่ายเร็วพอที่จะช่วยชีวิตคุณยายเอาไว้ได้ แต่เขาช้าเกินไปในการช่วยชีวิตตัวเอง เขาหลบออกจากรางรถไฟไม่ทัน จึงถูกรถไฟแล่นทับ
เฉียนข่ายได้รับการช่วยเหลือและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที เนื้อตัวเขามีรอยฟกช้ำหลายแห่ง ที่เลวร้ายที่สุดคือขาขวา มันอยู่ในสภาพแหลกละเอียดเพราะถูกรถไฟทับแบบเต็ม ๆ แพทย์จำต้องตัดมันทิ้งเพื่อช่วยชีวิตเฉียนข่ายเอาไว้
ส่วนคุณยายคนที่เฉียนข่ายช่วยชีวิตนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร รายงานเผยว่า เธอมีปัญหาด้านการได้ยิน จึงทำให้ไม่ได้ยินเสียงรถไฟและข้ามรางไปแบบนั้น เธอเดินทางมาเยี่ยมเฉียนข่ายที่โรงพยาบาล และก้มลงคุกเข่า หมอบลงหน้าเตียงเฉียนข่าย เพื่อแสดงความขอบคุณที่เขาช่วยชีวิตเธอเอาไว้
ด้านเฉียนข่ายกล่าวเปิดใจในภายหลังว่า ถึงแม้ว่าเขาจะเสียขาไป แต่เขาก็สามารถช่วยชีวิตคนเอาไว้ และถ้าเขาต้องทำแบบนี้อีกครั้ง เขาก็จะตัดสินใจทำโดยไม่ลังเลเลย การกระทำของเฉียนข่ายครั้งนี้นับว่าน่ายกย่องสรรเสริญเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็นับเป็นอุทาหรณ์สำคัญว่าการข้ามรถไฟต้องระวังเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนชราที่หูตาไม่ค่อยดี เพราะอันตรายถึงชีวิต มันแค่เสี้ยววินาทีจริง ๆ
