โลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์ กรณี นายชลวิทย์ หรือ เสี่ยเอ็ม ผู้ก่อเหตุขับรถปอร์เช่ชนสามีภรรยาคู่หนึ่ง เมื่อเดือนเมษายน 2560 จนทำให้ภรรยาต้องเข้ารับการรักษาตัว ฟันหัก 11 ซี่ กรามหัก ได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งเมื่อสืบย้อนหลังไป พบว่าเมื่อปี 2555 เคยมีคดีขับรถมินิคูเปอร์ชน 4 นักศึกษาเอแบค จนหนึ่งในผู้บาดเจ็บเกือบเป็นอัมพาต ต้องผ่าตัดกระดูกสันหลังและรักษาตัวนานกว่า 6 เดือน แต่ไม่ได้รับการเยียวยาจากผู้ก่อเหตุเท่าที่ควร
ซึ่งในเวลาต่อมา อาม่า ของเสี่ยเอ็ม ก็ได้มาออกรายการ ต่างคนต่างคิด และบอกว่าหากฟ้องศาลเรียกเงินจริง ก็คงไม่มีเงินพอจะไปชดใช้ให้ใครอีก “เรียก 20 กว่าล้าน เอาฉันไปฆ่าดีกว่า ฉันจะไปเอาที่ไหน” จนทำให้เสี่ยเอ็มกลายเป็นที่รู้จักในนาม เสี่ยเอ็ม หลานอาม่า และถูกโจมตีอย่างหนักในโลกโซเชียล
ล่าสุด (23 ก.ค.) เฟซบุ๊กเพจ Social Hunter ก็ได้ออกมาแฉพฤติกรรมเสี่ยเอ็มอีกครั้ง โดยพี่ชายของภรรยาเสี่ยเอ็มแฉว่า น้องเขยได้ทำร้ายภรรยา ทั้งที่รู้ว่าผู้หญิงกำลังตั้งครรภ์ 2 เดือน ซ้อมหนักจนฝ่ายหญิงทนไม่ไหว ต้องโทรศัพท์ไปหาพี่ชายให้มาช่วย ซึ่งพี่ชายนั้นสุดเจ็บปวดเมื่อเห็นสภาพน้องสาวที่ได้รับบาดเจ็บ มีแผลฉีกบริเวณขมับใกล้คิ้วและตาขวา แขนและนิ้วช้ำ โชคดีที่เด็กในท้องปลอดภัย โดยผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับตำรวจแล้ว
นอกจากตัวน้องสาวจะเจ็บ ยังมีทรัพย์สินที่เสียหายอีกมากทั้งโทรศัพท์มือถือที่หน้าจอแตกละเอียด รวมถึงไอแพดที่เปื้อนเลือดเกรอะกรัง ซึ่งฝ่ายหญิงยังบอกว่า เสี่ยเอ็มได้เอาเงินไปอีก 150,000 บาท พร้อมกับบอกว่าจะไม่คืนให้ ถ้าอยากได้ให้ไปฟ้องเอา
หลังเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ไปบนโซเชียล ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์มากมายถึงพฤติกรรมของเสี่ยเอ็ม ที่ก่อคดีทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ยังไม่ถูกดำเนินคดีใดๆ
