รายการ “โหนกระแส” คืนนี้เป็นเรื่องราวของพ่อท่านหนึ่งที่ออกมาโพสต์ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมกรณีลูกชายถูกรถพุ่งชนเสียหลักพลิกคว่ำ ก่อนที่จะโดนคนร้ายเอามีดมาแทงซ้ำ ทั้งๆ ที่นึกว่าจะเป็นผู้ที่มาช่วยเหลือ ในเขตพื้นที่ สถานีตำรวจ เมืองอุตรดิตถ์
แต่ลูกชายกลับรอดปาฏิหารย์ แต่เรื่องราวยังไม่จบ เพราะมีคนแฉว่าสองพ่อลูกดังกล่าวมีคดีติดตัวรวม 21 คดี เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นยังไง “หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” ในพิธีกร “โหนกระแส” เชิญ คุณสุรเชษฐ์ บำเพ็ญ (โดม) ซึ่งเป็นประสบเหตุ และ คุณอุดมพร บำเพ็ญ (พ่อ) มาเปิดใจถึงเรื่องนี้
คุณพ่อได้ลงในเฟสว่าลูกชายได้โดนทำร้ายเกือบตาย
โดม “วันนั้นเป็นวันที่ 26 มิถุนายน 5 โมงเย็น แฟนผมเลิกงานก็ชวนกันไปเอารถผมที่ซ่อมอยู่ ที่ อ.ท่าปลา พอไปเอารถเสร็จผมก็ขี่รถกลับกับแฟนคนละคัน มาถึงแยกผมก็บอกแฟนให้เลี้ยวกลับบ้านไปก่อน ส่วนผมจะไปเติมน้ำมัน ผมเติมน้ำมันเสร็จก็ขี่เข้าเมืองอุตรดิตถ์ พอไปถึงที่เกิดเหตุรถก็เสียหลักขึ้นเกาะกลาง ตอนนั้นผมไม่รู้ ลอยขึ้นเกาะกลาง ไปพลิกคว่ำอีกฝั่งนึง จนมันยุบ มีช่องออกได้นิดเดียว
ผมก็ตะเกียกตะกายออกมา ลุกออกมาจากรถ ผมก็เห็นรถอยู่อีกฝั่งหนึ่ง รถเขาจอดอยู่ ผมไม่รู้ว่ามีรถมาชนท้าย ก็ไม่คิดว่าเป็นรถคนร้าย ก็ขอให้เขาช่วย ก็บอกว่าพี่ช่วยได้ด้วยครับ เขาก็วิ่งมาตอนแรกวิ่งมาคนเดียวแล้วตามมาอีก 2 คน เขาก็เอามีดเข้ามาแทงตรงช่องท้อง ตอนนั้นตกใจมาก พอเขาแทงเพื่อนเขาเข้ามาอีกสองคนรุมกระทืบ ผมก็แกล้งนิ่งไป หลังจากนั้นเขาเดินไปเพื่อจะไปขึ้นรถเขา
ผมก็วิ่งไปใก้ลถึงบ้านคนแล้ว ก็ได้ยินเสียงว่า มึงหยุด เขาตามอีก พอถึงหน้าบ้านคนผมก็เคาะประตูได้ 2 ครั้งแล้วบอกว่าช่วยด้วยครับ แต่มันไม่มีคนได้ยินหรอกครับ เขาวิ่งตามมาทันแล้วล็อคคอผม เอามือปิดปาก แล้วพาผมเข้าซอยไป ผลักผมล้มลง แล้วเอามีดแทงที่หัว ตอนแรกแทงแล้วเหมือนเขาดึงไม่ออก ติดหัวอยู่ แล้วเขาก็มาดึงจนออกแล้วเสียบกลางกระหม่อมอีกทีนึง เสร็จเขาก็รุมกระทืบกัน จนผมนิ่งอีกรอบนึง แล้วก็มีกู้ภัยผ่านมาพอดี เขาเลยวิ่งหนีไป ผมร้องให้กู้ภัยช่วย”
พ่อ “รอดมาได้อย่าปฎิหารย์มาก ตอนที่ผมไปเห็น เลือด สภาพที่กู้ภัยไปเจอ แล้วที่ผมถ่ายรูป เลือดพุ่งเลย เขาบอกผมว่าเขาไม่ยอมหลับ เพราะถ้าเขาหลับเขาจะไม่ตื่น”
ที่คุณพ่อออกมาพูดในเฟสบุ๊คแล้วแชร์ขอความช่วยเหลือจากแหม่มโพธิ์ดำ บอกว่าลูกชายตัวเองกำลังถูกฆาตกรรม ตอนนี้ไปแจ้งความแล้วเป็นยังไงบ้าง
พ่อ “ตอนนั้นผมไปถึงก็บอกให้ลูกนิ่ง ต้องรักษาตัวก่อน แล้วให้แฟนผมกับแฟนของลูกชายไปแจ้งความที่โรงพัก ประมาณตี 4 กว่าๆ ที่โรงพักเมืองอุตรดิตร์ แต่ร้อยเวรบอกว่ามีใบบันทึกแจ้งความแล้ว ไม่ต้องแจ้งใช้ได้ คือ ตำรวจไปบันทึกเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุ แต่เขาบอกตัวนี้ใช้ได้ หลังจากนั้นแฟนก็กลับมา
แต่เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปหลายวันแล้ว เราก็ไปขอใบบันทึกนั้นมาเพื่อให้ทางโรงพยาบาลใช้สำหรับเรียกประกัน ก็เห็นมีข้อความว่า นายอุดมพร บำเพ็ญ ผู้เป็นพ่อให้การว่าลูกชายได้ขับรถเฉี่ยวชนกับผู้อื่น แต่ไม่มีลายเซ็นต์ ผมก็ให้ญาติที่เป็นนักศึกษาและแฟนเขาไปขอถ่ายข้างหลัง เพราะกลัวว่าจะมีเขียนอะไรเข้าไปอีก มันไม่ชอบมาพากล ก็ให้เขาอัดเสียงไว้ด้วย ว่าเป็นยังไงไม่งั้นผมจะไม่เข้าใจ เขาบอกว่าอันนี้ไม่ต้องใช้ เขาก็ถามว่าคดีไปถึงไหนแล้ว
ตำรวจเขาก็บอกว่าคนเจ็บยังให้การไม่ได้เลย หลักฐานอะไรก็ไม่มี ไอ้โดมถ้าเขามาแจ้งความกลับจะโดนข้อหาซะเอง ผมก็อะไรวะ เรากำลังโดนฆ่า เขาจะมาแจ้งความกลับมันคืออะไร หลังจากนั้น 11 กรกฏาคมผมก็ไปอีกครั้งนึงกับแฟนลูกชายและญาติที่เป็นนักศึกษา วันนี้ผู้กำกับฯ ลงมารับเองเลยครับ พาขึ้นไปห้องข้างบน การเบี่บงเบนประเด็น จะบอกว่าลูกชายผมมีเรื่อง ร้อยเวรบอกว่าไอ้โดมเนี่ยปาดหน้าเขา ทั้งที่รถไม่มีรอยเบรก”
แล้วกล้องวงจรปิดหรือกล้องที่ติดในรถมีมั้ย
พ่อ “มีครับ”
โดม “กล้องหน้ารถนี่ ผมจะติดตลอด แต่ตอนรถพลิกคว่ำตำรวจเขาก็เก็บไว้ แล้วเขาก็คืนกับแม่มาแล้ว ผมก็ถามหาการ์ด แม่บอกก็ไม่มีนะ แต่เจ้าหน้าที่บอกคืนมาแล้ว อีกวันหนึ่งผมก็กลับไปถามตำรวจ เขาบอกว่าผมยังไม่คืนหรอก แต่กล้องมันพังแล้วนะ แต่จริงๆ กล้องผมไม่ได้พัก กล้องตัวหลักที่ติดหน้ารถไม่ได้พังอะไร สรุปการ์ดยังอยู่ที่ตำรวจ”
แล้วบริเวณนั้นยังมีภาพอีกมั้ย
พ่อ “เพิ่งได้มา ซึ่งเป็นตอนที่รถกำลังพุ่งเข้าชนเลย มีครับ”
แต่ที่แน่ๆ เรื่องนี้มีประเด็นในสังคม หลังจากคุณส่งเรื่องไปที่เพจแหม่มโพธิ์ดำ ปรากฏว่าหลายคนรวมถึงทางผู้กำกับฯ บอกว่าเรื่องนี้คดีพลิก เพราะคุณโดมมีทั้งหมด 17 คดีนะ คุณพ่ออีก 5 คดี
โดม “ไม่จริงครับ ก่อนหน้า 2 ปีให้หลังคือผมจะมีเรื่อง พยายามฆ่าแค่รถเก๋งไปเฉี่ยวชนมอเตอร์ไซด์ แต่มอเตอร์ไซด์คันนั้นแขนขาถลอก ผมโดนข้อหาพยายามฆ่า เพราะว่าเขาหลายเป็นตำรวจ เรื่องอาวรุธปืนผมมีจริง เก็บไว้ในรถ ยาเสพติดไม่มีครับ หนีทหารก็ไม่มี ผมมีหลักฐาน”
ผมถามแบบนี้ใครเป็นกล่าวหาคุณ ข่าวนี้หลุดมาจากไหน
พ่อ “หลุกจากโพสต์ของเจ้าหน้าที่ ผู้กำกับฯ ดิษยเดช พัชรภูวดล”
โฟนอินพันตำรวจเอกดิษยเดช พัชรภูวดล ผู้กำกับการสถานีตำรวจ เมืองอุตรดิตถ์
ผู้กำกับฯ “เรื่องนี้เราไปตรวจสอบจากระบบ เราไม่ได้ระบุชื่อว่าเป็นใคร แต่ชื่อมันขึ้นมาว่ามีคดีอะไรต่างๆ อยู่ แต่ในเขตพื้นที่มีคดีอยู่แล้ว มีคดีพยายามฆ่า คดีอาวุธปืน แต่เรื่องรายละเอียด ผมไม่ได้อยู่ในสถานี บอกรายละเอียด”
ผมขอถามเรื่องคดีล่าสุด เขาไปแจ้งความแต่ตำรวจบอกว่าไม่ใช่พยายามฆ่า เพราะถ้าพยายามฆ่าต้องเอามีดปักไปที่หัวใจ
ตำรวจ “เขาไปแจ้งความตอนไหนละครับ”
พ่อ “จริงๆ ไปแจ้งความตั้งแต่วันที่เกิดเหตุเลย และวันที่ 11 กรกฏาคมก็ไปตามคดี มีอัดคลิปเอาไว้ชัดเจนเลยครับ ยืนยันในคลิปมีชัดเจน ตำรวจบอกว่าไม่ใช่พยายามฆ่า แต่เกิดมาจากในรถ แฟนโดมก็ถามว่าได้ดูในรถมั้ยว่าเลือดหรือเปล่า เพราะเราได้ไปถ่ายในรถมาแล้ว ไม่มี เขาก็อึ้งๆ แล้วตอบ ถ้าเขาอยากจะฆ่าจริงๆ เขาจะแทงที่หัวใจ”
ตำรวจ “คือต้องเข้าใจแบบนี้นะครับ เหตุการณ์แบบนี้ไม่มีพยานบุคคล เหตุเกิดตอนกลางคืน หลังเที่ยงคืน หลังจากเกิดเหตุพนักสอบสวนได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุ และมีผู้บาดเจ็บไปโรงพยาบาล พนักงานสอบสวนก็ไปที่โรงพยาบาล ได้ทราบว่าผู้เสียหายถูกอาวุธมีดแทง และผู้เสียหายก็ไม่สามารถให้ปากคำได้ ณ เวลานั้น วันรุ่งขึ้นผมก็เข้าไปที่เกิกเหตุด้วย และไปสอบปากคำที่โรงพยาบาลด้วย ผมไปด้วยตัวเอง ซึ่งก็ไม่ได้อะไรมากมายนัก ก็เลยเรียกระดมทีมสอบสวน มีกล้องวงจรปิดของเอกชนอยู่ 1 ตัว เห็น 3 คนมารุมทำร้าย”
ณ วันนี้ทราบชื่อผู้ก่อเหตุหรือยังครับ
ตำรวจ “ตอนนี้ทราบชื่อมาสองคนแล้ว ศาลออกหมายจับตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว”
ติดตามชมการเปิดใจแบบหมดเปลือก ได้ในรายการ “โหนกระแส” วันนี้ 20.30-21.00 น. ช่อง 28