จากคดีสะเทือนขวัญ “น้องพลอย” น.ส.พลอยนรินทร์ ผลิผล อายุ 28 ปี หายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่ปี 2557 จากที่ทำงาน อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งครอบครัวพยายามตามหา
กระทั่ง ตำรวจจึงรื้อคดีนี้ขึ้นมาสอบสวนอีกครั้ง กระทั่งพบผู้ต้องสงสัย คือ ส.อ.พลกฤต วิเศษ หรือ เอส อดีตทหารสังกัดศูนย์การทหารปืนใหญ่ลพบุรี ถูกให้ออกจากราชการเมื่อปี 2557 จนสามารถจับกุมตัวได้และรับสารภาพอุ้มฆ่าเผาน้องพลอยทิ้งศพไว้ที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
รวมทั้ง ข้อมูลชวนช็อค ว่า หลังก่อเหตุ นายพลกฤต ได้ออกจากราชการ ไปทำศัลยกรรมใบหน้าอำพราง และไปสมัครงานเป็นนายแบบในบาร์แห่งหนึ่งที่พัทยา
โดยผู้จัดการบาร์ดังกล่าว ระบุว่านายเอสเป็นคนนิ่งเงียบ ไม่สุงสิงกับใคร ไม่เคยบอกว่าเป็นทหารมาก่อน โดยช่วงที่มาสมัครงานได้แจ้งชื่อว่า ชื่อ เอส มาจากต่างจังหวัด ไม่เคยทำงานประเภทนี้มาก่อน แต่มั่นใจในรูปร่างและหน้าตาจึงได้มาขอสมัครทำงาน
ส่วนใหญ่จะดูแลลูกค้าต่างชาติ ไม่พบพิรุธแต่อย่างใด ต่อมาได้แจ้งลากิจไป 3 วัน ช่วงปลายเดือน ก.ค. ก่อนโทรมาลาออกในเวลาต่อมา ซึ่งทางผู้จัดการร้านรู้สึกตกใจเมื่อทราบข่าวว่าเป็นผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมน้องพลอย
ล่าสุด พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้รับตัว ส.อ. พลฤกต วิเศษ หรือเอส ผู้ต้องหาฆ่านางสาวพลอยนรินทร์ ผลิผล หรือน้องพลอย จากทหารที่คุมตัว ไปสอบสวนยัง มทบ.11
จากนั้นให้นางพัชรี ปั้นทอง แม่ของน้องพลอย ชี้ตัวยืนยันอีกครั้ง ซึ่งนางพัชรีก็ชี้ตัวได้อย่างแม่นยำ ส่วนผู้ต้องหามีสีหน้าเรียบเฉยและก้มหน้า
จากนั้น พล.ต.อ. ศรีวราห์ ได้กล่าวว่า ผู้ต้องหาให้การสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยบีบคอน้องพลอยจนสิ้นใจ และเอาศพไปเผานั่งยาง ส่วนจะมีผู้ร่วมก่อเหตุอีกหรือไม่ ก็ต้องสืบสวนและตามจับเพิ่ม
สำหรับสาเหตุที่จับกุมตัวได้ช้าถึง 3 ปี เป็นเพราะผู้ต้องหาย้ายที่อยู่ตลอด ทำให้ตามตัวยาก อีกทั้งการสืบสวนจับกุมแล้วแต่จังหวะและโอกาส ส่วนสาเหตุที่ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว เพราะถูกเจ้าหน้าที่กดดัน
เปิดคลิปแฉ “ไอ้เอส” ผันชีวิตทำศัลยกรรม ฟิตหุ่น สมัครทำงานบาร์เกย์พัทยา หลังฆาตกรรม “น้องพลอย”
ภาพจาก ข่าวสด บรรจงชงข่าว