ตับเป็นอวัยวะช่วยขจัดความเป็นพิษออกจากร่างกาย เช่น พวกสารตกค้างจากยาฆ่าแมลง ยา alcohol สารเคมีที่เป็นพิษอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นจากการรับประทาน หรือการสูดดม สัมผัส เข้าสู่ร่างกาย ตับคอยขจัดพิษต่างๆเหล่านี้ออกจากร่างกาย โดยกระบวนการดังกล่าวจะเกิดขึ้นในช่วงขณะที่ร่างกายนอนหลับสนิท เวลา 5 ทุ่ม ถึง ตี 1 ฉะนั้นควรนอนหลับในช่วงนี้เพื่อให้ตับได้ทำงานอย่างเต็มที่
หากตับ มีการทำงานได้ดี และมีประสิทธิภาพ ก็จะสามารถผลิต กลูต้าไธโอนได้เอง เมื่อนำกลูต้าไธโอนไปใช้ในจะช่วยให้ มีการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายมากขึ้น , มีการกำจัดสารพิษที่ผ่านเข้ามาในร่างกาย , ช่วยต้านอนุมูลอิสระ , ช่วยกระตุ้นการสร้างและซ่อมแซม เซลล์ และ DNA ที่สึกหรอ และจะทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น และที่สำคัญร่างกายจะสดใสขึ้น รู้ใช่มั้ยล่ะ ว่าสารกูลต้าไธโอนนั้นทำให้ผิวขาวขึ้นได้ จริงๆแล้วสารกลูต้าไธโอนนี้ร่างกายสามารถผิดได้เอง แต่จะผลิตได้มากหรือน้อยนั้น ก็ขึ้นอยู่กับตับ ว่ามีสภาพดีแค่ไหนด้วย
หากรู้เช่นนี้แล้วก็ควรจะหันมาดูแลตับ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำลายตับ มีหลายสาเหตุดังนี้ นอนดึก ตื่นสาย / ไม่ปัสสาวะในตอนเช้า / ทานจุเป็นประจำ / ไม่รับประทานอาหารเช้า / บริโภคยามากเกินไป / บริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของวัตถุกันเสียมาก
และตับคือ การรักษาระดับน้ำตาลในเลือด โดยการเปลี่ยนฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ชื่อไทร็อกซิน ไปเป็นรูปแบบอื่นที่มีความว่องไวกว่า หากตับทำการเปลี่ยนได้อย่างไม่เพียงพอแล้ว จะทำให้เกิดโรคต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย คือ ไฮโปไทรอยด์ (hypothyroidism) ตับสร้าง GTF (กลูโคสโทลีแรนส์แฟคเตอร์ : Glucose Tolerance Factor) จากโครเมียม และกลูต้าไธโอน อินซูลินต้องการ GTF เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้เหมาะสม การรับประทานน้ำตาลมากเกินไป น้ำตาลส่วนเกินจะสะสมในร่างกายในรูปของไกลโคเจน และเปลี่ยนกลับไปเป็นน้ำตาล เมื่อต้องการพลังงาน
ตับนั้นมีความสำคัญกับร่างกายเป็นอย่างมาก ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมทำร้ายตับ และดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอเพื่อสุขภาพที่ดีตั้งแต่วันนี้กันเถอะ
เครดิต BAAC Clinic http://www.bangkok-antiaging.com/index.php/th/
