ความสัมพันธ์ของโรคหนังศีรษะอักเสบและรังแค กับปัญหาผมร่วง (seborrheic dermatitis and dandruff) เป็นปัญหาที่พบบ่อย แต่ความรุนแรงนั้นอาจแตกต่างกันไป และมักมีความสัมพันธ์กับภาวะผมร่วง เพราะรังแคเกิดจากการอักเสบของหนังศีรษะ ทำให้เกิดปัญหาผมร่วงตามมาได้
และรังแคยังสร้างความหงุดหงิดรำคาญจากอาการคัน สิ่งสำคัญ คือ ทำให้สูญเสียบุคลิกภาพและความมั่นใจ เพราะอาจมีขุยร่วงหลุดอยู่ตามเสื้อผ้า หรือรังแคอาจจะเกาะติดอยู่ตามเส้นผม ทำให้มองเห็นได้ แต่อย่างไรก็ตามปัญหาเหล่านี้ล้วนมีทางแก้
รังแค (dandruff) เป็นอาการแสดงของการมีการอักเสบของหนังศีรษะ (seborrheic dermatitis) ซึ่งมีลักษณะเป็นผื่นแดง ขอบเขตไม่ชัดเจน และมีขุยขาวๆ ที่เราเรียกว่ารังแค ซึ่งจริงๆ แล้ว คือส่วนของหนังศีรษะที่หลุดลอกออกมานั่นเอง
มีความสัมพันธ์กับการเพิ่มจำนวนของเชื้อรา Malassezia บนหนังศีรษะ ซึ่งจะกระตุ้นให้หนังศีรษะเกิดการอักเสบ ทำให้เกิดปัญหาผมหลุดร่วงตามมา ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อราชนิดนี้ไม่ค่อยชัดเจนนัก แต่เชื่อว่าน่าจะมาจากความเครียด อดนอน พักผ่อนน้อย ปกติแล้วในคนทั่วไป ก็มีเชื้อราตัวนี้อยู่ แต่ปริมาณจะไม่มากเท่ากับคนไข้ซึ่งมีปัญหาเรื่องหนังศีรษะอักเสบ ซึ่งปริมาณของเชื้อราจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
เมื่อมีหนังศีรษะอักเสบและมีรังแค มักทำให้เกิดภาวะผมร่วงมากกว่าปกติ เช่น เคยร่วงวันละ 20-30 เส้น อาจจะเพิ่มมากขึ้นเป็น 50-60 เส้น (เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า) และนอกจากนี้ รังแคยังอาจทำให้โรคผมบางจากพันธุกรรมและฮอร์โมนเกิดเร็วขึ้นด้วย คนที่มีปัญหารังแคจึงควรรีบรักษาอย่างเร่งด่วนค่ะ นอกจากนี้ ก็ควรสระผมให้สัมพันธ์กับลักษณะกิจกรรมที่ทำด้วย เช่น คนที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง มีการออกกำลังกาย เล่นกีฬามาก หนังศีรษะมัน อาจจะต้องสระผมถี่บ่อยกว่าคนที่ไม่ค่อยได้ออกไปไหน เช่น อาจต้องสระทุกวัน ส่วนคนที่อยู่แต่ในห้องแอร์ หรือมีหนังศีรษะแห้ง อาจจะสระวันเว้นวันก็ได้ (ในคนที่มีปัญหารังแคในช่วงแรกอาจจะต้องสระผมทุกวัน เพื่อให้ตัวยาเข้าไปออกฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบได้)
การรักษา
คนที่ปัญหาหนังศีรษะอักเสบและรังแคเรื้อรัง ช่วงแรกอาจจะเริ่มจากการใช้ยาในกลุ่มของแชมพูขจัดรังแคดูก่อน เพื่อทำให้เชื้อราเกิดน้อยลง เช่น 2% Ketoconazole shampoo,Tar shampoo, Selenium sulfide shampoo, 1.5% Ciclopirox shampoo, 1% Zinc pyrithione shampoo เนื่องจากหนังศีรษะอักเสบและรังแค เป็นปัญหาเรื้อรังบางครั้งอาจจะเป็นๆ หายๆ ในช่วงที่เป็น อาจใช้แชมพูขจัดรังแคทุกวัน แต่ถ้าดีขึ้นแล้ว อาจจะลดลงเหลือสัปดาห์ละ 2 ครั้งก็ทำได้ เพื่อป้องกันปริมาณของเชื้อราไม่ให้เป็นมากขึ้น และในการสระแต่ละครั้ง ควรหมักไว้ประมาณ 5 นาที
หากใช้แชมพูแล้วอาการดีขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ แต่ถ้าไม่ดีขึ้น ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ เพื่อรับตัวยาที่ช่วยลดการอักเสบของหนังศีรษะ โดยยาที่ใช้ในการรักษาปัญหารังแคส่วนใหญ่ จะเป็นยาทา สำหรับยาทานนั้น ควรใช้ในกรณีที่เป็นมากๆ คือ ใช้ยาทาแล้วไม่ได้ผลเท่านั้น เพราะผลข้างเคียงของยาที่ใช้ทานอาจเกิดได้มากกว่า ควรได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และส่วนใหญ่แล้วการใช้แค่ทายาก็มักจะทำให้รังแคดีขึ้นแล้ว
••••••••••••••••••••
นอกจากนี้การดูแลรักษาสุขภาพโดยทั่วไปให้ดี เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน ทานอาหารที่ดีให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายให้เพียงพออย่างน้อยประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง สิ่งเหล่านี้จะช่วยชะลอภาวะผมร่วงให้เกิดช้าลงได้ เพราะเป็นการทำให้ร่างกายไม่เสื่อมหรือแก่เร็วเกินไป ไม่ว่าจะเป็นปัญหารังแค หรือปัญหาผมร่วง ผมบาง ล้วนเป็นโรคที่รักษาได้ ไม่ควรที่จะเก็บปัญหาไว้คนเดียว ควรรีบเข้ามาปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพื่อที่จะรีบรักษาให้หายเร็วขึ้น ไม่ต้องมานั่งเสียสุขภาพจิต เสียสุขภาพกายค่ะ
เนื้อหาโดย Dodeden.com