ชีวิตติดสมาร์ทโฟน ที่ทุกวันนี้เรารู้กันแล้วว่า แม้กระทั่งเด็กอนุบาลยังพกมือถือ ยิ่งเป็นเด็กวัยรุ่นยิ่งไม่ต้องพูดถึง พวกเขาอาจโทรเมาธ์เอาเป็นเอาตายกว่าคน ทํางานซะด้วยซ้ำ ที่น่าเป็นห่วงก็คือ มีงานวิจัยจากสวีเดนที่ชี้ว่า คนอายุต่ำกว่า 20 ปี ที่ชอบเมาธ์ผ่านมือถือนั้น มีความเสี่ยงเกิดเนื้องอกสูงถึง 5 เท่า (และถ้าเมาธ์ผ่านโทรศัพท์บ้านแบบไร้สาย จะมีความเสี่ยง 4 เท่า) แถมการเมาธ์มือถือยังเชื่อมโยงกับการเกิดลูคีเมียในเด็กด้วย
ถ้าแก็ดเจ็ตสุดเลิฟของพวกเราอันตรายขนาดนั้น ทําไมถึงไม่มีใครเตือนให้พวกเราวางสายเลิกคุยล่ะ? ขอบอกว่าเรื่องนี้มันมีเหตุผลลึกลับซับซ้อนมากกว่าเรื่องกําไรขาดทุนของบริษัทมือถือนะคะ เราอยู่บนโลกที่ถูกทําให้เชื่อว่ามือถือเป็นเรื่องสําคัญในการใช้ชีวิต เราเลยพร้อมจะละเลยข้อความที่ส่งมาว่า รังสีจากมือถืออาจเป็นอันตราย อีกอย่าง อาการเนื้องอกในสมองส่วนใหญ่กว่าจะปรากฏก็ใช้เวลานานอาจถึง 25 ปีโน่นแน่ะ และอย่าลืมว่า พวกเราเพิ่งใช้มือถืออย่างจริงจังในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้เอง เราอาจต้องใช้เวลาเพื่อตรวจสอบความเกี่ยวพันระหว่างมือถือและโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งมากกว่านี้ ตอนนี้เราทําได้แค่เพียงหลีกเลี่ยงความเสี่ยงให้มากที่สุดเท่านั้น
แม้ว่าคลื่นวิทยุที่ปล่อยจากมือถือ จะมีความถี่สูงตอนที่คุณกําลังคุยหรือส่งเมสเซจ แต่มือถือไม่ได้ปล่อยรังสีแค่ตอนใช้งานเท่านั้น (ตอนไม่ใช้มันก็ปล่อยรังสีอยู่ดี) มือถือจะปล่อยรังสีทุกครั้งเวลาเราเปิดเครื่อง เพื่อทําการรับสัญญาณกับแหล่งส่งสัญญาณนั่นเอง
อย่าเก็บมือถือไว้ใกล้ตัว ควรวางห่างอย่างน้อย 8-10 เซนติเมตร ยิ่งวางไว้ห่าง เรายิ่งห่างไกลรังสีได้มากเท่านั้น
เพราะการถือโทรศัพท์เคลื่อนที่ไว้ห่างจากหูนั้น ปลอดภัยต่อสุขภาพมากกว่า
อย่าใช้มือถือแนบหหรือเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง หรือที่ไหนที่ใกล้ตัวคุณ ใช้ลําโพงหรือแฮนด์ฟรีดีกว่า เลือกใช้แฮนด์ฟรีแบบมีสาย แต่อย่าใช้แบบไวร์เลสนะคะ และให้ถือห่างจากตัวราวๆ 20 เซนติเมตร เวลาใช้แฮนด์ฟรี
มันเป็นการสร้างความเสี่ยงอีกแบบหนึ่ง เพราะการใช้บลูทูธต้องใช้คลื่นวิทยุ (RF) เท่ากับว่าคุณได้รับรังสีสองต่อ ทั้งจากบลทธและมือถือของคุณเอง
ความเสี่ยงของการเกิดเนื้องอกในสมองจะสูง ถ้าใช้โทรตรงบริเวณที่ห่างไกลจากจุดส่งสัญญาณ เพราะว่ายิ่งไกลมากเท่าไหร่ มือถือก็ยิ่งต้องหาสัญญาณและ ยิ่งต้องส่งรังสีออกมามากขึ้นเท่านั้น
ปิดมือถือเวลานอนซะสาวๆ เพราะถ้ายังเปิดอยู่ เท่ากับคุณวางมะเร็งร้ายไว้ใกล้ตัวทีเดียว เพราะรังสีจะรบกวนเวลาที่คุณนอน ถ้าอยากตั้งปลุกไม่ให้ไปทํางาน สาย แนะนําให้ใช้นาฬิกาปลุกแบบคลาสสิกดีกว่าตั้งเยอะ
การใช้มือถือเล่นเน็ตระหว่างขับรถ นอกจากจะเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุแล้ว คุณยังต้องผจญรังสีทั้งร่างกาย เพราะในรถนั้นแสนคับแคบและจะเก็บกักรังสีไว้นั่นเอง
••••••••••••••••••
นอกจากนี้ การที่รังสีสัมผัสตัวอ่อนในมดลูกนั้น มีโอกาสเสี่ยงที่จะทําให้ตัวอ่อนในท้องพัฒนาเป็นมะเร็งได้เท่ากับผู้ใหญ่ แน่นอนว่า ระดับรังสีของระเบิดปรมาณูกับมือถือนั้นต่างกัน (ไม่ได้อยู่ในคลื่นความถี่เดียวกัน) แต่เราแนะนําให้จํากัดการใช้มือถือระหว่างท้องจะดีกว่า
เนื้อหาโดย Dodeden.com