โล่งอก! อนามัยโลกไม่ได้ประกาศให้ไทยเป็นพื้นที่เฝ้าระวังอีโบล่า

10599697_614795411969534_1097864317563646595_n

หลังจากที่มีการแชร์กันอย่างแพร่หลายว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้ประเทศไทย กลายเป็นประเทศที่ต้องเฝ้าระวังการติดเชื้ออีโบล่านั้น ล่าสุด ทีมข่าวเ ดลินิวส์ ได้มีโอกาสตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวพบว่า เป็นเพียงสื่อตะวันตกเท่านั้นที่จัดทำแผนที่การระบาด พร้อมระบุว่า ไทยเป็นประเทศที่เฝ้าระวังอีโบลาอย่างแข็งขัน เนื่องจากมีการตรวจสอบนักท่องเที่ยวจำนวน 21 คน ที่เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศแอฟริกาตะวันตกมายังท่าอาศยานในประเทศอย่างเอาจริงเอาจัง อีกทั้งสายการบินแห่งชาติได้มีการตรวจโรคผู้โดยสารและกำจัดเชื้อในเครื่องบินด้วย

 สื่อตะวันตกดังกล่าวคือ “อินเตอร์เนชันแนล บิซซิเนส ไทม์ส” ซึ่งนำเสนอข้อมูลการแพร่ระบาดของอีโบลาในภูมิภาคต่างๆทั่วโลก โดยมีการจัดอันดับการเฝ้าระวังตัวของประเทศต่างๆ 3 ระดับ คือ 1.มีการระบาดและมีผู้เสียชีวิตแล้ว เช่น ประเทศกินี ไลบีเรีย ไนจีเรีย เซียร์ราริโอน ซาอุดิอาระเบีย 2.มีผู้ป่วยอีโบลากำลังรักษาตัว ได้แก่ประเทศ สหรัฐและสเปน 3. ประเทศที่มีการเฝ้าระวังแข็งขัน เช่น ไทย ฮ่องกง ฝรั่งเศส อังกฤษ

    ประกาศของฮู ไม่ได้มีการระบุว่า ประเทศใดถูกประกาศให้เฝ้าระวัง โดยฮูมีมติเห็นชอบเมื่อวันศุกร์ให้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ กรณีการแพร่ระบาดอย่างเลวร้ายของเชื้อไวรัสอีโบลาซึ่งจำเป็นที่ทุกฝ่ายต้อง หามาตรการตอบโต้เป็นกรณีพิเศษเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสมรณะชนิดนี้ โดยฮูกล่าวว่า การแพร่ระบาดของอีโบลาครั้งนี้ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดและยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นความวิตกกังวลมากพอที่จะประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ซึ่งฮูเคยประกาศในลักษณะเดียวกันนี้เมื่อครั้งที่มีการระบาดของเชื้อไวรัส ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009ในปี2552และโปลิโอในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา

    นอกจากนี้ ดร.มาร์กาเรต ชาน ผู้อำนวยการฮู กล่าวว่าการประกาศดังกล่าวถือเป็นข้อเรียกร้องอย่างชัดเจนให้นานาชาติร่วม มือกันอย่างแข็งขันในการต่อสู้กับอีโบลาแม้หลายประเทศอาจไม่มีกรณีการติด เชื้อไวรัสอีโบลาดร.ชานแถลงข่าวในนครเจนีวาประเทศสวิตเซอร์แลนด์ด้วยว่าประเทศ ที่ได้รับผลกระทบในปัจจุบันนี้ไม่มีขีดความสามารถในการบริหารจัดการการแพร่ ระบาดของอีโบลาในระดับนี้ได้ เธอจึงเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศให้การ สนับสนุนอย่างเร่งด่วนเท่าที่จะเป็นไปได้

ที่มา DailyNews

ป้ายกำกับ:

เรื่องน่าสนใจ