ปรับแต่งรูปคาง ให้สวยงามได้ดั่งใจ ด้วยการศัลยกรรมเลื่อนกระดูก เพราะการเสริมหรือผ่าตัดเพื่อปรับแต่งรูปคางนั้น เป็นการศัลยกรรมที่เน้นปรับแต่งโครงสร้างใบหน้า ให้มีเส้นโค้งที่สมมาตร และมีความสมดุลมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น คนที่มีจมูกสวยอยู่แล้ว แต่จมูกกลับดูใหญ่โต เพราะมีคางที่สั้นเกินไป หรือมีคางยื่นหรือหนาเกินไป ทําให้จมูกดูเล็กลง
เมื่อสัดส่วนของใบหน้าดูแปลกๆ ส่องกระจกทีไรก็ทําให้อดหงุดหงิดใจไม่ได้ทุกที ซึ่งโดยทั่วไป คนจะนิยมเสริมคางด้วยซิลิโคนแข็ง ที่เหลาให้ได้รูปหน้าตามต้องการ
ซึ่งวิธีนี้ แพทย์จะฉีดยาชาให้ แล้วสอดซิลิโคนไว้บนคางบริเวณที่ต้องการเสริม ข้อดีของวิธีนี้ คือการผ่าตัดทําได้ง่าย มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า เพราะไม่ต้องวางยาสลบ ซิลิโคนที่เสริมเข้าไป สามารถปรับแต่ง หรือถอดออกได้ภายหลัง ข้อเสียคือ เป็นสิ่งแปลกปลอมที่เข้าไปอยู่ในร่างกาย และอาจเกิดการบิดเบี้ยวได้ เมื่อเกิดกระทบกระทั่งแรงๆ
คนที่เข้ารับการผ่าตัด ต้องมีกระดูกคางใหญ่ พอที่จะให้เลื่อยตัดได้ เนื่องจากบริเวณคาง มีเส้นประสาทเป็นเส้นขอบเขตอยู่ ไม่สามารถตัดกระดูกเกินเส้นประสาทนี้เข้าไปได้ แม้จะดูน่ากลัว แต่เป็นวิธีที่ถาวร เมื่อแผลหายสนิทดีแล้ว จะได้รูปหน้าที่เป็นธรรมชาติมากกว่า เพราะเป็นกระดูกของตัวเอง ไม่ต้องกังวลถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การบิดเบี้ยว หรือเกิดพังผืด ฯลฯ แต่ข้อเสียคือ หากทําแล้วต้องแก้ไข เป็นเรื่องยุ่งยาก
ควรดูแลสุขภาพให้ดีสมบูรณ์แข็งแรง และดูแลความสะอาดของช่องปากให้ดี เพื่อไม่ให้มีโอกาสติดเชื้อง่ายหลังผ่าตัด ส่วนข้อจํากัดอื่นๆ เหมือนการผ่าตัดทั่วไป ที่ต้องใช้การวางยาสลบ
การผ่าตัดทําได้ 2 วิธี คือผ่าตัดในช่องปาก (ตรงซอกเหงือกกับริมฝีปากล่าง) วิธีนี้มีข้อดีคือ แผลจะซ่อนอยู่ในปาก แต่ข้อเสียคือ การผ่าตัดทําได้ยากกว่า เพราะต้องเลาะเข้าไปด้านใน อีกวิธีหนึ่ง จะผ่าจากด้านนอกบริเวณใต้คาง ซึ่งข้อเสียคือ หลังผ่าไปแล้ว อาจสังเกตเห็นแผลเป็นได้ แต่ข้อดีคือ การผ่าตัดวิธีนี้ แพทย์ทําได้ได้สะดวกกว่า เพราะจะเห็นบริเวณที่ผ่าชัดเจน และการรักษาความสะอาดแผลทําได้ง่ายกว่า แต่คนส่วนใหญ่ มักจะเลือกผ่าจากด้านในปาก เพราะกลัวแผลเป็น
การผ่าตัดปรับแต่งรูปคางด้วยการเลื่อนกระดูก ต้องมีการวางยาสลบ ลงแนวผ่าตัดประมาณ 5-6 ซม. (ไม่ว่าจะผ่าจากด้านนอกหรือด้านในปาก) หลังจากนั้น จึงเลาะเยื่อหุ้มกระดูกเข้าไป เพื่อให้เห็นแนวคางตลอดแนว โดยกันเส้นประสาทบริเวณคางไว้ (การตัดกระดูก ต้องไม่เกินแนวของเส้นประสาทนี้) แล้วจึงเริ่มตัดกระดูกคาง ให้ทะลุจากด้านหน้าไปถึงด้านหลัง เพื่อตัดแยกกระดูกออกจากกัน แล้วเลื่อนหรือปรับแต่งกระดูกคางให้ได้รูปลักษณะตามที่ต้องการ
สําหรับการตัดกระดูกคางนั้น บางคนมีกระดูกคางอยู่ด้านหลัง ที่เรียกว่าคางหลบ แต่ยาว ก็อาจจะตัดแล้วเลื่อนออก หรือจะตัดบางส่วนออกไปด้วย เพื่อให้คางสั้นลงก็สามารถทําได้ บางคนที่มีคางยื่นมากเกินไป ก็สามารถเหลาตกแต่งบริเวณปลายคางออกไปได้ หรือผู้ที่มีลักษณะคางเหลี่ยม ก็สามารถตัดมุมคางทั้ง 2 ข้าง แล้วฝนออกได้ จากนั้นแพทย์จึงนําเพลทกับสกรูมายึดไว้ เพื่อรอให้กระดูกเชื่อมติดกัน แล้วเย็บปิดปากแผล ต้องนอนโรงพยาบาล 1 วัน แล้วกลับไปพักฟื้นที่บ้านอีกประมาณ 3 วัน ประมาณ 6 อาทิตย์ กระดูกจะติดแข็งแรงดี
••••••••••••••••••••••••••••••
การศัลยกรรมตกแต่งเสริมสวย เป็นเรื่องของความงาม นอกจากจะะต้องคํานึงถึงความปลอดภัยสูง เราควรทําความเข้าใจก่อนว่า กระบวนย้อนกลับทําได้ยาก เกิดผ่าไปแล้วไม่พอใจ อยากจะทําให้กลับไปเหมือนเดิมเลยคงยาก จะมาลองดูก่อน เหมือนเสริมคางด้วยซิลิโคนไม่ได้ และกระดูกมีข้อจํากัดในการตัดแต่งรูปทรง ซึ่งต่างจากซิลิโคน ที่จะเหลาให้เป็นทรงไหนก็ได้ และเป็นการผ่าตัดที่รุนแรงกว่า แต่ข้อดีคือ การผ่าตัดวิธีนี้ หากผลเป็นที่น่าพอใจ ก็จะอยู่อย่างนั้นตลอดไป ไม่มีข้อเสีย หรือผลข้างเคียงในระยาว
เนื้อหาโดย Dodeden.com