เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา ทางสำนักข่าวอมรินทร์ทีวี และข่าวสดออนไลน์ ได้มีการเปิดเผยข่าวของนางสาวเอ อายุ 29 ปี ที่ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสาร พร้อมกับนายไพศิษฐ์ ชาครานนท์ ทนายความ เพื่อให้ดำเนินคดีกับคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง หลังเข้าทำศัลยกรรมลดขนาดหน้าอก แต่สุดท้ายเกิดปัญหาหน้าอกเน่า ต้องตัดหัวนมทิ้ง หน้าอกไม่สามารถกลับมามีสภาพได้ตามปกติ
โดยนายไพศิษฐ์ได้เผยว่าทางผู้เสียหายนั้นได้เดินทางเข้าไปผ่าตัดยกกระชับทรวงอก แต่แผลเกิดเน่า แล้วทางแพทย์ผู้ผ่าตัดรวมถึงคลินิกนั้นไม่รับผิดชอบ และไม่เยียวยาใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้ผู้เสียหายมีสภาพจิตใจที่แย่ลง โรคซึมเศร้าที่เคยเป็นก็กลับมาอีกครั้ง ถึงขนาดเคยคิดฆ่าตัวตายเพราะความเครียดสะสม ตนจึงต้องใช้กระบวนการทางกฎหมายทั้งทางแพ่ง และอาญา เพื่อช่วยเหลือเยียวยาเหยื่อในสิ่งที่ควรจะได้รับเท่านั้น
นายไพศิษฐ์ยังได้เผยอีกว่า วันนี้ได้เข้ามารวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดีในข้อหากระทำการโดยประมาทกับแพทย์ผู้รักและทางคลินิก โดยการเรียกร้องค่าเสียหายงการแพ่งนั้นเป็นจำนวนที่ไม่ได้เยอะมากจนสามารถไปตั้งตัวได้ น่าจะสมเหตุสมผลกับการสูญเสียอวัยวะ ในส่วนคดีอาญาฐานกระทำการโดยประมาท ส่วนนี้ตนขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
ทางด้านนางสาวเอ ผู้เสียหายได้เล่าว่า เธอนั้นประกอบอาชีพค้าขายออนไลน์ ก่อนหน้านั้นเมื่อประมาณปี 2558 เธอได้เคยทำศัลยกรรมหน้าอกมาแล้วที่คลินิกย่านเพชรบุรี ก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคมเธออยากจะลดขนาดหน้าอกลง จึงตัดสินใจเข้ามาทำที่คลินิกนี้เพราะจากการหาข้อมูลพบว่าคุณหมอมีความเชี่ยวขาญและเป็นศัลยแพทย์ที่มีรายชื่อในฐานข้อมูลจากแพทยสภา และมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมตั้งแต่ปี 31 รวมทั้งมีการรีวิวทั้งก่อน-หลังทำ จนเกิดความเชื่อมั่น และเชื่อใจจึงเข้าไปทำ
โดยขณะผ่าตัดนั้นแพทย์ได้ลงมือผ่าตัดอย่างมีท่าทีเร่งรีบ แต่ตนไม่ได้สนใจแต่อย่างใด โดยใช้เวลาผ่าตัดประมาณชั่วโมงนิดๆ ถือว่าเร็วผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด ก่อนให้เธอนั้นกลับไปพักฟื้นที่บ้าน ต่อมาเมื่อไปตัดไหม เธอได้สังเกตเห็นว่าบริเวณหัวนมนั้นเป็นแผลและมีรอยดำคล้ำ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าเป็นปกติ หลังจากนี้จะลอกแล้วเข้ารูป จนเมื่อวันที่ 27 สิงหาคมได้เดินทางเข้าไปอีกครั้ง เพราะบริเวณหน้าอกเริ่มแข็ง ทางหมอได้แกะแผลบริเวณหัวนมออก แล้วก็แสดงนีหน้าตกใจ ก่อนนำน้ำเกลือและเบตาดีนใส่ผ้าพันแผลมาปิดบริเวณหัวนมอีกครั้ง พร้อมกำชับให้เธอนั้นส่งรูปมาดูอาการทุกวัน
จนเมื่อวันที่ 3 กันยายน เธอได้เดินทางเพื่อไปแกะแผลบริเวณหน้าอกออก แต่หมอกลับสั่งให้ไปนอนบนเตียง และนำผ้ามาปิดใบหน้า ก่อนจะฉีดยาชาบริเวณหน้าอก จากนั้นตนรู้สึกเหมือนหมอกำลังแกะแผล และเย็บบริเวณหน้าอก เมื่อผ่านไปได้สักระยะตนพบว่าหน้าอกฝั่งขวาไม่มียอดปทุมถันแล้ว แต่ด้านซ้ายมีโผล่ออกมานิดหน่อย ซึ่งโดยรวมอยู่ในสภาพยับเยินทั้งหมด
เมื่อเธอเห็นเช่นนั้นจึงได้ขอคุยกับหมอเป็นการส่วนตัว เพราะรู้สึกแย่และได้รับความเสียหาย จึงได้ขอค่าเยียวยาประมาณ 5 แสนบาท แต่ทางคลินิกพูดเพียงว่าตนเรียกร้องมากเกินไป ถ้าอยากได้เยอะขนาดนั้นให้ไปแจ้งความเอา ไม่มีการขอโทษหรือแสดงความรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หลังเกิดเรื่องเจ้าของคลินิกประสานมาสอบถามอาการว่าเป็นอย่างไรบ้าง และยินดีที่จะชดใช้ค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดอยู่สักพัก ก่อนหายเงียบไปเช่นกัน
เธอจึงได้เข้ามาแจ้งความเพื่อดำเนินคดี ตอนนี้รู้สึกแย่มาก ยิ่งไปกว่านั้นตนไปพบจิตแพทย์สถาบันประสาทวิทยา ซึ่งจิตแพทย์ก็ปรับยากล่อมประสาทให้แรงขึ้น และหลังจากนี้จะต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ย่านฝั่งธน ซึ่งแพทย์ประเมินค่าใช้จ่ายในการรักษาประมาณ 3 แสนบาท