นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยผลการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด 19 ในประเทศไทย โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับเครือข่ายห้องปฏิบัติการว่า จากข้อมูลการเฝ้าระวัง ระหว่างวันที่ 10 กรกฎาคม ถึง 16 กรกฎาคม 2564 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทั้งหมด จำนวน 1,745 ราย เป็นสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) จำนวน 1,335 ราย (76.5%) ส่วนสายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) จำนวน 410 ราย (23.5%) ส่วนสายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) ไม่พบผู้ติดเชื้อ โดยสายพันธุ์เดลตามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว
ส่วนภูมิภาค เฝ้าระวังจากตัวอย่างผู้ติดเชื้อทั้งหมดระหว่างวันที่ 10 กรกฎาคม ถึง 16 กรกฎาคม 2564 จำนวน 1,595 ราย เป็นสายพันธุ์เดลตา 755 ราย (47.3%) สายพันธุ์อัลฟา 729 ราย (45.7%) และสายพันธุ์เบตา 111 ราย (7.0%) โดยสายพันธุ์เดลตามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และขณะนี้พบ 71 จังหวัดแล้ว ส่วนสายพันธุ์อัลฟา มีแนวโน้มลดลง ส่วนสายพันธุ์เบตาส่วนใหญ่ยังพบในพื้นที่ภาคใต้มากที่สุดที่จังหวัดนราธิวาส และพบในจังหวัดใกล้เคียงเช่น ปัตตานี ยะลา สงขลา พัทลุง ชุมพร และมีพบที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดบึงกาฬสำหรับสายพันธุ์เบตาที่พบที่จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งสัปดาห์ที่แล้วพบ 1 ราย เป็นคนงานที่กลับมาจากไต้หวันแต่ตรวจใน สถานที่กักกันไม่เจอ พอกลับถึงบ้านมีอาการป่วยจึงตรวจอีกครั้งพบเป็นสายพันธุ์เบตา และตรวจคนใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงพบเป็นสายพันธุ์เบตาอีก 3 ราย ซึ่งขณะนี้หน่วยงานในพื้นที่ได้ดำเนินการติดตามเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
แนวโน้มในภาพรวมของประเทศระหว่างวันที่ 10 กรกฎาคม ถึง 16 กรกฎาคม 2564 ที่ตรวจไปทั้งหมด 3,340 ราย พบว่าเป็นสายพันธุ์เดลตา 62.6% ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นค่อนข้างรวดเร็ว และสายพันธุ์อัลฟา 34.1% สายพันธ์เบตา 3.3% ดังนั้นข้อมูลการเฝ้าระวังทั้งประเทศระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2564 ถึง 16 กรกฎาคม 2564 สายพันธุ์อัลฟา จำนวน 12,406 ราย (66.68%) สายพันธุ์เดลตา จำนวน 5,762 ราย (31.06%) และสายพันธุ์เบตา จำนวน 382 ราย (2.06%) ส่วนการติดเชื้อร่วม 2 สายพันธุ์ (Mix infection) ขณะนี้ยังไม่พบรายใหม่เพิ่มแต่อย่างใด
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับประเด็นการตรวจโควิด 19 ด้วยชุดทดสอบนั้น มีชุดทดสอบแอนติเจน และชุดทดสอบแอนติบอดี ซึ่งการตรวจด้วยชุดทดสอบแอนติบอดี ด้วยการเจาะเลือด เป็นการตรวจหาภูมิตอบสนอง ในขณะนี้มีประชาชนคนไทยที่ได้รับวัคซีน และมีคนที่ติดเชื้อและมีภูมิแล้ว หากนำชุดทดสอบแอนติบอดีไปตรวจก็จะพบผลบวกซึ่งไม่เกี่ยวกับการติดเชื้อไวรัส ดังนั้นจึงขอย้ำว่าชุดทดสอบที่ใช้ในขณะนี้คือ ชุดทดสอบแอนติเจน (Antigen Test Kit) ซึ่งเป็นชุดทดสอบหาโปรตีนของเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด 19 และในอนาคตอันใกล้นี้จะมีการจำหน่ายที่ร้านขายยาที่มีเภสัชกร ยังไม่อนุญาตให้ขายที่ตลาดนัด หรือร้านสะดวกซื้อ หรือซื้อขายออนไลน์ เหตุที่ต้องขายในร้านขายยาที่มีเภสัชกรก็เพื่อที่จะให้มีการพูดคุยแนะนำทำความเข้าใจเพื่อให้การตรวจที่ถูกต้อง
กรณีที่ตรวจเองแล้วผลเป็นลบ แปลได้ 2 อย่างคือ ไม่ได้ติดเชื้ออะไรเลย และอันที่ 2 คือเชื้อยังน้อยอยู่ กรณีที่ท่านสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ให้ตรวจซ้ำอีกใน 3-5 วัน หรือหากมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก ให้ตรวจทันที การตรวจต้องตรวจให้ถูกต้องตามคำแนะนำที่มากับชุดทดสอบ กรณีที่ตรวจแล้วเป็นบวกให้แจ้งหน่วยงานบริการใกล้บ้านที่ติดต่อได้เพื่อเข้าระบบต่อไป
สนใจหาข้อมูลและปรึกษาศัลยกรรมได้ที่นี่