จากกรณีข่าวของ นางพรพิมล ฤาโอภาส อายุ 60 ปี ซึ่งได้นำ น.ส.รัตนา เกียรติประเสริฐ อายุ 22 ปี ลูกสาวที่ป่วยเป็นโรคดาวน์ซินโดรม ใส่รถเข็นเดินเท้าจาก จ.อุดรธานี เพื่อไปหาญาติที่กรุงเทพฯ หลังถูกญาติฝ่ายสามีรื้อบ้าน ไร้ที่อยู่อาศัย จนชาวบ้านที่พบเห็นเกิดความสงสารจึงได้นำเงินและอาหารมามอบให้ เพื่อให้แม่ลูกใช้ประทังชีวิต ขณะที่นายสถานีรถไฟกุมภวาปี จ.อุดรธานี ก็ได้ช่วยเหลือนำทั้งคู่ขึ้นรถไฟไปส่งให้ถึงกรุงเทพฯ แล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 05.20 น. วานนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพรพิมลและลูกสาวได้เดินทางมาถึงสถานีรถไฟดอนเมืองแล้ว ซึ่งหลังลงจากขบวนรถไฟก็ได้มีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เดินทางมารอรับสองแม่ลูกไปพักผ่อนเพื่อรอประสานติดต่อทางญาติ อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ระหว่างนั้น มีสื่อทีวีช่องหนึ่งพยายามพาตัวสองแม่ลูกขึ้นรถเพื่อไปออกรายการ
โดยมีการอ้างว่าเตรียมที่พักไว้เรียบร้อยแล้ว และจะดูแลเป็นอย่างดี แต่ทางเจ้าหน้าที่ พม. ไม่ยินยอม จึงเกิดการแย่งตัวกัน จนคุณยายเองน้ำตาซึม ตกใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว สุดท้ายต้องประสานตำรวจรถไฟให้เข้ามาช่วยดูแลให้ขึ้นรถไปอยู่ในความดูแลของกระทรวง
ด้านนางพรพิมล เปิดเผยว่า ตลอดการเดินทางตนและลูกได้รับการช่วยเหลืออย่างดีจากชาวบ้าน เจ้าหน้าที่รถไฟ ตำรวจและทหาร ที่ผ่านมาตนมีเงินเก็บอยู่ประมาณ 2,000 บาท แต่ได้นำเงินไปต่อรถเข็น จนทำให้เหลือเพียงแค่ 40 บาท หลังจากนั้นก็พยายามเก็บของเก่าขาย ได้เงินมาวันละ 10-20 บาท
และตั้งใจว่าจะเดินทางมาหาญาติที่กรุงเทพฯ ด้วยรถไฟฟรี แต่ขึ้นไม่ได้จึงเดินเท้ามาเรื่อย กระทั่งได้รับการช่วยเหลือจาก นายอนุชา แสงดอก นายสถานีรถไฟกุมภวาปี ในการดูแลพาขึ้นรถไฟ ซึ่งจากนี้ไปจะไปหาญาติที่พักอาศัยอยู่ย่านปากเกร็ด เพื่อขอทุนทำมาค้าขายต่อไป
เวลาต่อมามีผู้โพสต์คลิปผ่าน Facebook ส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า Thunramon Paisarnsoontornkit โดยระบุเนื้อหา หน้าจอสวยหรู เบื้องหลังโหดร้าย # สงสารคุณยาย#ปรบมือให้เจ้าหน้าที่พม. # ส่วนพี่น้องสื่อมวลชนที่อยู่ในเหตุการณ์ใจเย็นมากค่ะ # คลิปนี้ถ่ายจากหน้าจอคอมพ์ ขอบคุณภาพต้นฉบับจาก ยุรพงษ์ อยู่สุข และทีมข่าวอาชญากรรมTNN24
โดยเนื้อหาภายในคลิปเป็นการดึงตัวแหล่งข่าวคือ คุณยายวัย 60 ปี ที่เข็นลูกสาวพิการมาจากจังหวัดอุดรธานี โดยทางสื่อสีเขียว!! พยายามจะนำตัวยายไปออกรายการที่สถานีตัว โดยพยายามกีดกันไม่ให้สื่อช่องอื่นสัมภาษณ์ยาย และดึกตัวยายไปขึ้นรถตู้ของตัวเอง และยังขัดขวางการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่จากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อีกด้วย
ที่มา: sanook