“เต๋า-ภูศิลป์ วารินรักษ์” นักแสดงคุณภาพ-นักร้องลูกทุ่งหมอลำขวัญใจแฟนๆ เปิดเผยถึงบทบาท “บักเคน” ผู้ชายบ้านๆ อาชีพตลกอยู่ในคณะหมอลำที่เสียงเพี้ยนขั้นสุดจนคนที่ผ่านไปมายกมือปิดหูแทบไม่ทัน แต่ดันมีฝันอยากจะอัพเลเวลตัวเองเป็นพระเอกหมอลำ ในผลงานภาพยนตร์ “ฮักเจ้าอีหลี” ผลงานภาพยนตร์ที่ทิ้งห่างจากเรื่องที่แล้วของเจ้าตัว ถึง 6 ปีเต็ม ว่าเป็นบทบาทที่เติมเต็มความโหยหาครั้งวัยเยาว์กับความฝันที่อยากยืนบนเวทีในฐานะนักร้องหมอลำ แต่ถูกหักเหให้มาเป็นนักร้องลูกทุ่งในทุกวันนี้

 

เต๋า ภูศิลป์

 

“จริงๆ แล้วผมเกิดและเติบโตกับวงหมอลำนะครับ เมื่อตอน 8 ขวบ ผมเคยได้มีโอกาสขึ้นร่วมงานกับแม่นกน้อย-อุไรพร แต่ว่าพอโตเส้นทางสายชีวิตผมมันก็มาจับพลัดจับผลู ได้เข้ามาในวงการด้วยการร้องเพลง Cover แล้วก็เล่นละครมา 13 เรื่องแล้ว แต่ว่าลึกๆ แล้วเราโหยหาความเป็นหมอลำ โหยหาความเป็นอีสานบ้านเฮาอยากที่จะเป็นหมอลำ แต่ว่าเราไม่มีโอกาสได้ไปทำตรงนั้น เพราะว่าเส้นทางของเราก็คือเหมือนมาทางแกรมมี่ปุ๊บ เขาก็จะให้เราไปทำนู่นนี่นั่นผ่านมา ก็เลยเวลาที่เราจะกลับมาเริ่มต้นใหม่ในโพสิชั่นหมอลำแล้วหนังเรื่องนี้ก็เลยทำให้เราได้กลับไปยืนอยู่จุดเริ่มต้น ที่เราอยากที่จะเป็นก็คือหมอลำ เราได้เล่นหนังที่ถ่ายทอดความเป็นหมอลำ แต่ชีวิตจริงแล้วอ่ะ เราไม่ใช่หมอลำ แต่มันอยู่ในสายเลือดเรา เราอยากจะเป็น แต่ว่าเราไม่ได้เป็น เราได้มาเป็นอีกสายนึง แต่ว่าเราก็ยืนมองดูความเป็นหมอลำอยู่ตลอดเวลา จนได้มีโอกาสเข้ามาช่วยงาน คุณแก๊ปเปอร์ ผู้กำกับ ในเรื่องของประสานงานวงหมอลำ มันมีความสุขมาก ตอนนั้นผมไม่ได้คิดว่าจะได้ร่วมแสดงในเรื่องนี้ด้วยซ้ำ ผมโทรหาพ่อเอ๊ะ ระเบียบวาทะศิลป์โทรหาวงหมอลำต่างๆ ที่มีในภาคอีสาน ช่วยหาน้องๆ หมอลำที่จะมาร่วมงานในภาพยนตร์เรื่องนี้สุดท้ายคุณแก๊ปเปอร์บอกว่าเขียนบทบักเคนมาให้ผม ผมก็แบบ เฮ้ยยยย !! ดีใจมาก และภูมิใจมากที่ได้มีโอกาสประชาสัมพันธ์บอกเรื่องราวความเป็นหมอลำผ่านภาพยนตร์เรื่องนี้ให้กับทุกๆ คนได้รับทราบ” พร้อมฉายในโรงภาพยนตร์ 29 กันยายน 2565

 

 

 

สนใจหาข้อมูลและปรึกษาศัลยกรรมได้ที่นี่

โดดเด่น
ศัลยกรรม
webdodeden

 

เรื่องน่าสนใจ