เตรียมรถ เตรียมคนให้พร้อมลุยหน้าฝน
หน้าฝนแล้ว ทำให้รถขับยากและทัศนวิสัยไม่ดี ถนนก็ลื่นเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ มีข้อควรปฎิบัติดังนี้
1. เปลี่ยนที่ปัดน้ำฝน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับรถยนต์ ปกติที่ปัดน้ำฝนจะมีอายุประมาณ 1-2 ปี จะเริ่มหมดสภาพ ยางเริ่มเสื่อม แข็ง รีดน้ำได้ไม่ดี วิธีที่เปลี่ยนที่ดีที่สุดคือ เปลี่ยนทันทีเมื่อฝนแรกของหน้าฝนเริ่มปรอยลงมา ซึ่งอยู่ในช่วงเดือนกรกฎาคม ที่สำคัญรถเก่าต้องมีกาาตรวจสอบมอเตอร์กับสปริงที่ก้านปัดว่ามีแรงกดและโบกสะบัดได้ดีพอหรือไม่
2. น้ำยาฉีดกระจก ทำได้เองง่าย ๆ เพียงหยดน้ำยาล้างจานลงในถังน้ำยาเช็ดกระจกสัก 2-3 หยด สารลดความตึงผิวจะช่วยขจัดคราบไขมัน ฝุ่นละอองที่จับกระจกให้หลุดออกได้ดีขึ้น ตรวจสอบว่าน้ำฉีดกระจกพุ่งได้แรงและกระจายได้ดีหรือไม่ ถ้าอุดตันก็ใช้ปลายเข็มหมุดแทงเข้าไปในรู เพื่อเขี่ยสิ่งสกปรกออกมา แตุ่ถ้าแรงดันน้ำยังอ่อนอยู่ อาจจะเสียมาจากที่มอเตอร์ รีบส่งซ่อมทันที
3. ตรวจสอบไฟหน้ารถ และแตรรถให้พร้อมใช้
4. เตรียมระบบเบรกให้สมบูรณ์ เพราะเวลาฝนตกประสิทธิภาพการเบรกของรถจะลดลงไปอีกพอสมควร ถ้าเบรกของรถคุณไม่ดีพอ อาจทำให้รถลื่นไถล และเป็นเหตุให้อุบัติเหตุร้ายแรงได้ ผ้าเบรกที่มีประสิทธิภาพไม่ควรจะมีเสียงขณะเบรกบนถนนแห้ง และเมื่อขับรถระหว่างฝนตก หรือล้อรถแ่ช่น้ำอยู่ เบรกจะลื่นมากขึ้น ให้เพิ่มระยะเบรกมากกว่าเดิมอีก 30% และแก้ไขให้กลับมาปกติได้โดยการแตะเบรกเบา ๆ ค้างไว้สักพักขรณะรถวิ่ง เพื่อให้ผ้าเบรกร้อนและกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
5. ตรวจเช็คยางรถยนต์ ถ้ายางมีอายุการใช้งานมากกว่า 4-5 ปีควรเปลี่ยนใหม่ หรือถ้าวัดความลึกของร่องรอยตอกยางได้ต่ำกว่า 1.6 มิลลิเมตรก็ควรเปลี่ยนเช่นกัน อย่ากังวลว่าจะต้องหายางสำหรับถนนเปิยกมาใส่ เพราะยางทุกยี่ห้อที่ขายอยู่ในท้องตลาด มีร่ีองดอกยางสำหรับรีดน้ำเพียงพออยู่แล้ว
6. ตรวจสอบรูรั่วต่าง ๆ ที่ใต้ท้องรถ ซึ่งในการออกแบบจะมีจุดที่สามารถเปิดออกได้เพื่อระบายน้ำที่ขังในตัวรถ ทำด้วยจุดยางหรือพลาสติกที่อุดไว้ ตรวจดูใ้ห้ดีว่าอุดแน่นดีหรือเปล่า มิฉะนั้นน้ำจะเข้ามาเยี่ยมในรถได้
7. สเปรย์ไส่ความชื้น เชือกลากรถ สายพ่วงแบตเตอรี่ เบอร์โทรฉุกเฉิน พกติดไว้ในรถ ถึงคุณจะใ้ช้ไม่เป็น แต่คนที่เขามาช่วยเหลือคุณจะได้หยิบมาใข้ได้
8. หลีกเลี่ยงขับรถเข้าไปในแอ่งน้ำด้วยความเร็วสูง อาการเหินน้ำจะทำให้ล้อไม่สามารถควบคุมได้ และจะทำให้รถเสียหลัก แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นให้ตั้งสติ จับพวงมาลัยให้มั่น ถอนคันเร่ง ห้ามเหยียบเบรกเด็ดขาด
9. แว่นกันแดด ในแว่นกันแดดที่มีคุณภาพจะมีการเคลือบเลนส์เพื่อตัดแสงสะท้อน และกรองแสงฟุ้งที่เกินความจำเป็น แสงเหล่านี้เกิดจากละอองน้ำเล็ก ๆ ที่กระจกหน้ารถซึ่งทำหน้าที่กระจายแสงออกไปรอบทิศทาง เมื่อเราสวมแว่นตากันแดดที่ตัดแสงฟุ้ง ก็จะทำให้การมองชัดเจนขึ้นเมื่อฝนตก ถ้าให้เหมาะลองหาแว่นตาที่เคลือบเลนส์แบบ POLARIZED มาใช้ก็ได้ แต่กรณีนี้ใช้เฉพาะกลางวันเท่านั้น ถ้าฝนตกตอนกลางคืน ก็จอดรถพักก่อนจะปลอดภัยกว่า
10. ไปไม่ไหวอย่าฝืน ไม่ว่ารถคุณจะดีแค่ไหน สุดท้ายต้องประเมินสถานการณ์ ฝนตกหนักบางครั้่งเปิดความเร็วที่ปัดน้ำฝนจนสุดแล้ว ก็ยังมองไม่เห็นถนน ให้จอดรถชิดไหล่ทางที่สุดแล้วเปิดไฟฉุกเฉิน หรือไปจอดในปั๊ม ในซอยให้พันจากทางหลัก เพราะยังมีรถอีกหลายคันที่อยู่บนท้องถนน ที่เราไม่รู้ว่า รถคันไหนอยู่ในสภาพพร้อมหรือไม่พร้อม
ขอขอบคุณที่มา : Q Magazine
ขอขอบคุณภาพ : agogang, mazdaclub, thaicartrick, learner.in.th
