พัดลมไอน้ํา เป็นพัดลมที่ทํางานด้วยการพ่นละอองน้ําออกมา แล้วใช้พัดลมเป่าให้ละอองน้ำกระจายตัว จึงเหมาะสําหรับพื้นที่ที่ต้องการความชื้น เช่น โรงเพาะชํา หรือที่โล่งแจ้ง ไม่เหมาะกับที่อับ เช่น ภายในบ้าน หรือโรงอาหาร การใช้พัดลมไอน้ํา สามารถนําไปใช้ได้ แต่ควรใช้ในพื้นที่เปิดโล่ง มีการระบายอากาศที่ดีพอ และต้องหมั่นดูแลรักษาความสะอาด เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของทุกคน
พัดลมไอน้ำ ใช้ให้ถูกวิธี ดีต่อปอด
- ล้างทําความสะอาดถังบรรจุน้ําเป็นประจํา อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง โดยการขัดถู เพื่อไม่ให้มีตะกอนเมือก หรือตะไคร่น้ําภายในถังบรรจุน้ําของพัดลมไอน้ํา ซึ่งเป็นแหล่งเพาะเชื้อ รวมทั้งส่วนประกอบอื่นๆ โดยเฉพาะท่อน้ํา
- ควรขัดล้างให้สะอาด ไม่ให้อุดตัน หรือเป็นจุดกักเก็บเชื้อโรค และฆ่าเชื้อโรคโดยการแช่น้ําร้อน ที่อุณหภูมิไม่น้อยกว่า 65 องศาเซลเซียส นาน 5 นาที หรือแช่ในสารละลายคลอรีน ที่มีความเข้มข้น 10 ppm (ส่วนในล้านส่วน) นาน 5 นาที
- น้ําที่นํามาใช้กับพัดลมไอน้ํา ควรเป็นน้ําที่สะอาด ผ่านระบบการฆ่าเชื้อมาแล้ว เช่น น้ําประปา ซึ่งมีการควบคุมค่าคลอรีนอิสระ คงเหลือไม่ต่ำกว่า 0.2 ppm
หากตรวจพบการปนเปื้อนเชื้อลิจิโอเนลลาภายในถังบรรจุ น้ําของพัดลมไอน้ําต้อง ปฏิบัติดังนี้
- กรณีตรวจพบเชื้อลีจิโอเนลลา น้อยกว่า 100,000 ซี เอฟ ยู (Colony Forming Unit) ต่อลิตร ควรเพิ่มแผนการบํารุงรักษา ตรวจสอบ เฝ้าระวัง และติดตามผลการทําความสะอาดและการใช้น้ําในระบบพัดลมไอน้ํา
- กรณีตรวจพบเชื้อลีจิโอเนลลา ตั้งแต่ 100,000 ถึงไม่มากกว่า 1,000,000 ซี เอฟ ยู (Colony Forming Unit) ต่อลิตร ต้องออกหนังสือตักเตือนให้มีการประเมินผล วิธีการบํารุงรักษาใหม่ รวมทั้งกระบวนการทําลายเชื้อในน้ํา การแก้ไขให้ถูกต้อง การตรวจสอบเฝ้าระวัง ติดตามผล
- กรณีตรวจพบเชื้อลีจิโอเนลลา ตั้งแต่ 1,000,000 ซี เอฟ ยู (Colony Forming Unit) ต่อลิตรขึ้นไป ต้องออกคําสั่งห้ามมีการใช้พัดลมไอน้ําในทันที เพื่อกําจัดสิ่งปนเปื้อน
หากเป็นไปได้ ควรใช้พัดลมแบบธรรมดาในการให้ความเย็น หรือเพิ่มช่องระบายอากาศ เปิดประตู หน้าต่าง เพื่อรับลมจากธรรมชาติ
เนื้อหาโดย Dodeden.com สนใจหาข้อมูลและปรึกษาศัลยกรรมได้ที่นี่