จากกรณีที่มีการเผยแพร่ว่าหน่วยงานในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ย่านอนุสวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้ติดประกาศว่า “ตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค.57-31 ธ.ค.58 เจ้าหน้าที่ผู้หญิงทุกท่าน ให้กินยาคุมกำเนิด(ห้ามท้อง) ถ้าท้องให้ลาออกไปเลย”
ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 พ.ย. นพ.อุดม เชาวรินทร์ ผอ.โรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว และพบว่าเป็นการตกลงกันภายในแผนกๆ หนึ่งของโรงพยาบาล แต่ไม่ได้ออกเป็นประกาศของโรงพยาบาล ซึ่งได้เรียกหัวหน้าหน่วยงานมาทำความเข้าใจและสอบถามแล้ว
ทราบว่าแผนกดังกล่าวมีบุคลากรเป็นผู้หญิงเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ และในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีบุคลากรตั้งครรภ์พร้อมๆ กันหลายคน ทำให้เกิดปัญหาคนขาดแคลน จึงมีการทำความเข้าใจกันในหน่วยงาน แต่เชื่อว่าเกิดการสื่อสารกันภายในผิดพลาด ทำให้เกิดความไม่พอใจและขยายความต่อ จนทำให้เกิดกรณีดังกล่าวขึ้น
“วันนี้ได้เรียกมาทำความเข้าใจแล้วว่า หากจะห้ามในลักษณะดังกล่าว ไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นการลิดรอนสิทธิมนุษยชน ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นการทำโดยพลการไม่ได้มีการปรึกษาฝ่ายบุคคล และเป็นเพียงความหวังดี อยากแก้ปัญหาความขาดแคลนภายในหน่วยงาน ซึ่งได้ให้ยกเลิกข้อตกลงดังกล่าว และตักเตือนหัวหน้าส่วนงานดังกล่าวแล้ว โดยต่อไปหากเกิดความขาดแคลนบุคลากรฝ่ายบริหารก็จะช่วยแก้ปัญหาเอง” นพ.อุดมกล่าว
นพ.อุดม กล่าวว่า ในฐานะผู้บริหาร คิดว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหญ่ และไม่ได้กระทบกระเทือนสิทธิของประชาชน หรือ ทำให้กระทบต่อการให้บริการประชาชนแต่อย่างใด ส่วนที่จะมีการนำเรื่องนี้ไปขยายว่าเป็นเรื่องของสีเสื้อนั้น ตนคงไม่จำเป็นต้องชี้แจง เพราะไม่ใช่สาระสำคัญ และมีการทำความเข้าใจกับบุคลากรของโรงพยาบาลให้เข้าใจตรงกันแล้ว และไม่ได้มีการปิดกั้นสิทธิของพนักงานแต่อย่างใด
ทั้งนี้กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 9 พ.ย. มีการวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ว่า มีโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้มีการติดประกาศที่สร้างความงุนงงให้แก่เจ้าหน้าที่และผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง โดยประกาศดังกล่าวติดไว้ที่ แผนกจ่ายยาของโรงพยาบาลดังกล่าว
มีใจความว่า “ประกาศ…. ตั้งแต่ 30 ต.ค.57- 31 ธ.ค.58 เจ้าหน้าที่ผู้หญิงทุกท่านให้กินยาคุมกำเนิด (ห้ามท้อง) ถ้าท้องให้ลาออกไปเลย” โดยในประกาศดังกล่าว ยังให้เจ้าหน้าที่เซ็นชื่อรับทราบในแผ่นประกาศด้วย ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงเซ็นชื่อรับทราบกว่า 30 คน พร้อมกำกับวันเดือนปีที่ลงชื่อรับทราบไว้ด้วย
สำหรับคำสั่งดังกล่าวก็เกิดวิพากษ์วิจารณ์ และแสดงความเห็นกันกว้างขวาง บางคนเห็นว่าหน่วยงานดังกล่าว อาจอยู่ในช่วงขาดแคลนบุคคลกร จึงจำเป็นต้องบังคับไม่ให้เจ้าหน้าที่ผู้หญิงตั้งครรภ์ในช่วงนี้ ไม่เช่นนั้นจะทำให้ขาดแคลนเจ้าหน้าที่อีก แต่ส่วนใหญ่เห็นว่าการออกคำสั่งดังกล่าว เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจน อีกทั้งขัดกับกฏหมายแรงงานที่อนุญาตให้ลาคลอดได้
ที่มา ข่าวสด