เสือมเหศวร หรือ นายศวร เภรีวงษ์ จอมโจรชื่อดังของเมืองไทย ได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยโรคชรา รวมอายุ 101 ปี ญาติตั้งศพบำเพ็ญกุศลอยู่ที่บ้านเลขที่ 204 หมู่ 5 ต.ไพรนกยูง อ.หันคา จ. ชัยนาท มีกำหนดสวดอภิธรรมเป็นเวลา 7 วัน และจะมีพิธีฌาปนกิจในวันที่ 22 พ.ย. นี้ ที่วัดไพรนกยูง หมู่ 5 ต.ไพรนกยูง อ.หันคา
นายสันติสุข เภรีวงษ์ อายุ 49 ปี บุตรชายคนเล็กของนายศวร และเป็นสมาชิก อบต.ไพรนกยูง เล่าว่า เมื่อประมาณ 40 ปีก่อน หลังจากที่บิดาเลิกเป็นเสือแล้ว ก็ได้มาประกอบอาชีพทำไร่มันสำปะหลังอยู่ที่จังหวัดชัยนาท
โดยบิดามีโรคประจำตัว คือ โรคหัวใจโตและโรคไต ต้องพาไปรักษาเข้าออกโรงพยาบาลเป็นประจำ แต่ในระยะหลัง เพราะความชราที่มีมากขึ้น ทำให้บิดาไม่ค่อยยอมกินอาหาร และเมื่อเช้าวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา เมื่อบิดาตื่นนอนมา ได้เรียกให้นำน้ำมาให้ เพื่อที่จะล้างหน้า หลังจากล้างหน้าทาแป้งแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว บิดาก็มีอาการเป็นลมฟุบไป จึงรีบนำส่ง รพ.หันคา แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้
นายสันติสุข ยังกล่าวอีกว่า ก่อนที่พ่อจะเสียชีวิต ได้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลากว่า 2 เดือน ทุกครั้งที่หมอจะฉีดยา ต้องขออนุญาตพ่อก่อน เนื่องจากถ้าพ่อไม่อนุญาต เข็มหักหมดฉีดยาไม่เข้า และช่วงที่พ่ออายุได้ 100 ปี ได้ทำตะกรุด “ปู่เสือมเหศวร 100 ปี” จำนวน 100 องค์ ปลุกเสกหลายครั้ง โดยมีปู่ศวร อยู่ในพิธีด้วย นำออกให้เช่าเพื่อนำเงินมาเป็นค่ารักษาตัวพ่อด้วยโรคประจำตัว
สำหรับประวัติของนายศวร หรือ ”เสือมเหศวร” เกิดเมื่อปี พ.ศ.2457 ที่ จ.สุพรรณบุรี เป็นจอมโจรชื่อดังในแถบภาคกลาง ในยุคที่มี เสือฝ้าย เสือดำ เสือใบ โดยเสือมเหศวรอยู่ซุ้มของเสือฝ้าย เคยรับราชการทหาร หลังปลดประจำการ ถูกอำนาจรัฐรังแก จึงได้ไปเป็นเสือปล้นตามหมู่บ้าน เมื่อปล้นได้เงินมาก็จะไปแบ่งให้คนจนใช้
เสือมเหศวร ถูกปราบโดยขุนพันธรักษ์ราชเดช ซึ่งขุนพันธ์ฯ เป็นผู้เกลี้ยกล่อมให้เสือมเหศวรมอบตัว หลังจากได้รับโทษในเรือนจำแล้ว มาอยู่ในป่าเขาราวเทียนทอง ในท้องที่ ต.ไพรนกยูง อ.หันคา จ.ชัยนาท มาประกอบอาชีพทำไร่มันสำปะหลังกับครอบครัว
เสือมเหศวร ยังเป็นบุคคลที่ถูกเล่าลือว่าเป็นจอมขมังเวทย์ ได้ร่วมปลุกเสกเครื่องรางของขลังร่วมกับพระเกจิอาจารย์ นำเงินทะนุบำรุงพระศาสนา และเคยร่วมแสดงภาพยนตร์ร่วมกับพระเอกมิตร ชัยบัญชา ในภาพยนตร์อัตชีวะประวัติของตนเอง โดยรับบทเป็นพ่อของเสือมเหศวรที่แสดงโดยมิตร ชัยบัญชา
ที่มา http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE5qRTBNREl5TWc9PQ==&subcatid=
