เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเรื่องฮือฮาระหว่างไก่ชน อายุ 1 ปีเศษ กับเจ้าของที่มีความผูกพันกันตั้งแต่มีชีวิตกระทั่งตายไปยังเฝ้าไม่ห่าง โดยกระโดดขึ้นไปยืนเฝ้าปราสาทผึ้งของเจ้าของที่เพิ่งเสียชีวิตไม่ยอมห่างไปไหน โดยเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 436 หมู่ 9 บ้านเชียงพิณ ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี
เมื่อผู้สื่อข่าวไปถึงงานศพพบว่าบ้านหลังดังกล่าวกำลังทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้าของบ้านที่เพิ่งเสียชีวิตไป ทราบชื่อคือ นายดี มีชั้นช่วง อายุ 74 ปี โดยมีกิจกรรมการนำคณะหมอลำซิ่งมาแสดงให้ญาติๆ ได้รับฟัง
นอกจากนี้ยังมีการชนไก่ชน เพื่อเป็นการรำลึกถึงผู้ตาย ซึ่งสมัยมีชีวิตอยู่ชอบไก่ชน โดยที่หน้าบ้านพบไก่ชนเพศผู้พันธุ์ประดู่หางดำ ยืนอยู่บนเก้าอี้สีขาวข้างปราสาทผึ้ง หรือบ้านจำลอง สำหรับอุทิศส่วนกุสลให้ผู้ล่วงลับ
ผู้สื่อข่าวจึงรีบเข้าไปสำรวจให้รู้ถึงความแปลก ที่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว พบเรื่องราวสุดแปลก เมื่อบริเวณปราสาทผึ้งซึ่งบรรดาญาติๆ ของนายดีเจ้าของบ้านได้จัดทำขึ้นเพื่ออุทิศส่วนกุศลไปยังผู้ตาย ซึ่งนอกจากปราสาทผึ้งที่เป็นรูปบ้านก็ยังพบกับไก่ชนเพศผู้อายุ 1 ปีเศษ ยืนเกาะอยู่บนเก้าอี้พลาสติก ซึ่งอยู่หน้าปราสาทผึ้งของนายดี ซึ่งญาติๆ บอกว่าไก่ชนตัวนี้นายดีรักมาก
โดยมาเกาะที่หน้ารูปของผู้ตายตั้งแต่ตี 5 ของวันนี้ จนถึงขณะนี้ไม่ยอมไปไหน ขณะที่บรรดาคนที่มาร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับนายดีหลังทราบข่าวว่าไก่ชนตัวนี้เกาะอยู่หน้ารูปศพของเจ้าของต่างนำธนบัตรมาคล้องคอไก่ชนเอาไว้
นายนิยม มีชั้นช่วง อายุ 59 ปี สมาชิก อบต.เชียงยืน และเป็นน้องชายของผู้ตาย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า นายดี ซึ่งเป็นพี่ชายเสียชีวิตด้วยโรคชราเมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา และญาติๆ ได้ทำพิธีฌาปนกิจศพไปเมื่อวันที่ 27 พ.ย. ช่วงที่ตั้งโลงศพในบ้าน มีคนสังเกตเห็นไก่ชนตัวนี้เดินวนเวียนที่ข้างโลงศพ แต่ก็ไม่มีใครสนใจ บางคนก็บอกว่า ไก่มันคิดถึงเจ้าของ เพราะเคยให้อาหารทุกวัน จึงเดินมาขออาหาร และในวันนี้พวกตนซึ่งเป็นญาติได้เตรียมทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ผู้ตาย โดยจัดคณะหมอลำซิ่งมาแสดงและจัดชนไก่ที่หลังบ้าน โดยมีการขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่เพื่อรำลึกถึงผู้ตาย
เนื่องจากนายดีชอบหมอลำซิ่ง และไก่ชนมาก ช่วงเวลาตีห้าของวันนี้ หลังจากเผาศพเสร็จ ตนเองและญาติๆ ได้จัดสถานที่ทำปราสาทผึ้ง เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตายตามประเพณีปรากฎว่าไก่ชนตัวนี้เดินมาจากเล้า เดินตรงมาที่รูปศพของผู้ตายจากนั้นก็พยักหัวสองครั้ง แล้วก็กระโดดขึ้นไปเกาะบนเก้าอี้พลาสติกที่อยู่ตรงข้างหน้าปราสาทผึ้ง
ตั้งแต่เช้าโดยไม่ยอมหนีไปไหน ใครไล่ก็ไม่ไป ทำให้พวกตนงงมาก เพราะปกติไก่ชนตัวนี้จะชนไม่ยอมให้คนจับได้ง่ายๆ แต่ปรากฎว่าไก่ชนตัวนี้มายืนหน้ารูปศพ และปราสาทผึ้งตั้งแต่เช้ายันบ่าย สร้างความประหลาดใจให้กับผู้มาร่วมงานอย่างมาก
ส่วนตัวคิดว่าเป็นเพราะไก่ชนมีความผูกพันกับผู้ตาย เมื่อรู้ว่าเจ้าของเสียชีวิตแล้ว คงจะมาเคารพศพเป็นครั้งสุดท้าย ตนในฐานะน้องชายได้บอกกับลูกๆ ของนายดีว่าไก่ชนตัวนี้จะไม่ให้ขายให้เลี้ยงเอาไว้จนกว่าจะตายเอง
ที่มา http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE56RTNNems1TVE9PQ==&subcatid=