สารพัดวิธีการระงับ “กลิ่นตัว” บางทีอาจจะไม่ช่วยอะไร สำหรับคนที่มีปัญหาตรงนี้อย่างรุนแรง ซึ่งนอกจากจะทำให้ตัวเราเองเสียความมั่นใจแล้ว คนรอบข้างก็ไม่กล้าเข้าใกล้ในระยะประชิด เป็นแบบนี้คงไม่ไหวแน่ต้องหาทางแก้ไขด่วน
พญ.ดวงกมล ทัศนพงศากุล อายุรแพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนัง โรงพยาบาลเวชธานี เผยว่ากลิ่นตัวเกิดจากหลายสาเหตุ เช่นพันธุกรรม การรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ การรับประทานอาหาร เช่น กระเทียม หอม เครื่องเทศ ชะอม สะตอ ผู้ที่มีเหงื่อออกมากผิดปกติ มักพบได้ที่บริเวณใต้รักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า โดยเชื้อแบคทีเรียที่อยู่บนผิวหนังจะเจริญได้ดีในภาวะที่มีเหงื่อออกมาก และทำให้เกิดกลิ่นเหม็นได้
สำหรับคนที่มีเหงื่อออกมากผิดปกติ จนทำให้เกิดกลิ่นตัวได้นั้นมีอยู่หลายสาเหตุ ทั้งพันธุกรรมสิ่งแวดล้อม เป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ คอพอก เบาหวาน วัณโรค โรคหัวใจ โรคทางสมอง โรคอ้วน โรคเครียด และวัยใกล้หมดประจำเดือน
การรักษาในแบบทั่วๆไป เริ่มต้นคงต้องหันมาดูแลรักษาความสะอาด และอาบน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง พร้อมกับใช้สบู่ผอกตามบริเวณที่มีเหงื่อออกมา เพื่อลดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็น และในบางคนอาจจะเกิดอาการแพ้ ระคายเคือง และทำให้เกิดรอยดำได้ หากมีปัญหากลิ่นตัวที่มีสาเหตุจากเหงื่อออกมากก็ควรหาวิธีรักษาเพื่อระงับกลิ่นเหงื่อดีกว่า
วิธีต่อมาอาจจะเลือกการใช้ยาระงับเหงื่อ (Antiperspirant) ซึ่งจะทำให้เกิดการบวมของท่อเหงื่อ แล้วเกิดการอุดตัน ทำให้ลดการไหลของเหงื่อได้ แต่ไม่ควรใช้ยาที่มีส่วนผสมของน้ำหอม เพราะจะทำให้เกิดผื่นผิวหนังอักเสบ และทำให้เกิดรอยดำจากผื่นได้ ซึ่งยาระงับเหงื่อที่มีขายตามท้องตลาดนั้นมักมีส่วนผสมของนำหอม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อจะได้สั่งยาที่มีส่วนผสมของ อลูมิเนียมคลอไรด์ 20% ใช้สำหรับระงับเหงื่อได้
เพื่อรักษาภาวะเหงื่อออกเฉพาะที่ โดยการฉีดท็อกซิน(โบท็อกซ์)เข้าไปบริเวณที่มีเหงื่อออกมาก ท็อกซินจะออกฤทธิ์โดยการไปยับยั้งสาร Acetylcholine ที่หลั่งออกมาควบคุมระบบประสาทที่ทำให้เกิดการหลั่งของเหงื่อ วิธีนี้สามารถลดเหงื่อได้ 83% ซึ่งถ้าอาการเหงื่อออกมากลดลงแล้ว ส่งผลช่วยลดภาวะกลิ่นตัวด้วย เริ่มเห็นผลหลังการฉีดประมาณ 2-4 สัปดาห์ ผลการรักษาจะอยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน
ผลข้างเคียงน้อยมาก อาจจะมีอาการบวม แดง รอยช้ำ ซึ่งเป็นอยู่ไม่นานประมาณ 3-7 วัน ก็หายไป ขึ้นอยู่กับบุคคล หลังฉีดไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
นอกจากนี้ยังมีอีกทางเลือกในการกำจัดกลิ่นเหงื่อที่ได้ผลดี คือ การผ่าตัด เอาต่อมเหงื่อหรือเส้นประสาทที่ควมคุมต่อมเหงื่อออก แต่ก็มีข้อเสียคือ อาจจะทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้
ทั้งนี้แพทย์หญิงดวงกมล กล่าวฝากว่า แนวทางการลดกลิ่นตัวข้างต้น ค่อนข้างได้ผลหากปฏิบัติตาม แต่หากลองปฏิบัติดูแล้วยังไม่สามารถทำให้กลิ่นไม่พึงประสงค์จางหายไปได้ ก็ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่มาแห่งกลิ่น และรักษาได้ตรงจุด
ขอบคุณข้อมูลจาก พญ.ดวงกมล ทัศนพงศากุล
อายุรแพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนัง ศูนย์ผิวหนัง เลเซอร์และความงาม รพ.เวชธานี
เครดิต spokedark.tv