ทุกครั้งที่เวลาเราเห็นลูกหมาน่าตาน่ารักน่าเอ็นดูตามร้านขายสัตว์เลี้ยง เราก็คงไม่ได้นึกอะไรไปมากกว่าลูกหมาพวกนี้น่ารัก น่าเอ็นดู เห็นแล้วน่ารัก น่าพากลับไปเลี้ยงที่บ้านเสียเหลือเกิน … แต่ทราบไหมว่า ภายใต้ฉากหน้าที่เต็มไปด้วยความน่ารักของเหล่าลูกหมาตัวน้อย ความจริงที่อยู่ด้านหลังอาจเต็มไปด้วยความโหดร้ายชวนหดหู่จนเราคาดไม่ถึงเลยก็ได้!!!
ธุรกิจฟาร์มสุนัขนั้นถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับความนิยมและสร้างรายได้เป็นอย่างดี ลูกสุนัขสายพันธุ์ดีมีราคาแพงจากฟาร์มจะถูกส่งต่อไปยัง ร้านขายสัตว์เลี้ยงต่าง ๆ และส่งไปถึงมือผู้เลี้ยง … การซื้อลูกสุนัขจากร้านขายสัตว์เลี้ยง เราจะได้เห็นเพียงความน่ารักของเจ้าลูกสุนัขตัวนั้น แต่เราจะไม่มีทางรู้เลยว่าพ่อแม่ของเจ้าลูกสุนัขเหล่านี้จะมีรูปร่างหน้าตาเป็นยังไง
เรื่องน่าเศร้าของเหล่าพ่อพันธุ์แม่พันธุ์สุนัข
ความจริงที่โหดร้ายอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นกับพ่อพันธุ์แม่พันธุ์สุนัขก็คือ ในปัจจุบันมีฟาร์มสุนัขที่ไม่ได้มาตรฐานจำนวนมากที่ปลดระวางพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่มีอายุเยอะเกินว่าที่จะให้ผลผลิตลูกสุนัขที่สร้างรายได้ให้กับฟาร์ม โดยหลังจากปลดระวางก็จะเลี้ยงดูอย่างทิ้งๆ ขว้างๆ ทำให้มีพ่อพันธุ์แม่พันธุ์จำนวนมากที่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างทรมาน ขาดสวัสดิภาพ ป่วย พิการเป็นโรคร้ายที่ไม่ได้รับการรักษา
พวกเขาต้องมีชีวิตอยู่ในกรงแคบ ๆ ไม่ได้รับวัคซีน และไม่ได้รับการดูแลที่อย่างถูกต้องและเหมาะสมอย่างที่สุนัขสูงวัยควรได้รับ … สุนัขพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ถูกปลดระวางเหล่านี้ ส่วนใหญ่แล้วก่อนหน้านี้จะถูกใช้เป็น “เครื่องจักรผลิตลูกสุนัข” โดยฟาร์มที่ไม่ได้มาตรฐานมักจะเร่งผลิตลูกสุนัขปีละ 2 ครอกต่อแม่พันธุ์หนึ่งตัว ทำให้แม่พันธุ์มีร่างกายที่ทรุดโทรม ส่วนพ่อพันธุ์เองก็จะโดนเร่งให้ผสมพันธุ์กับแม่พันธุ์จำนวนเยอะเกินไปทำให้ร่างกายของพ่อพันธุ์ขาดความสมบูรณ์
เมื่อสุนัขพ่อพันธุ์แม่พันธุ์เริ่มมีอายุมากขึ้น ฟาร์มก็จะเริ่มประเมินดูความคุ้มค่าว่าสุนัขมีสภาพร่างกายเป็นอย่างไร สามารถมีลูกได้อีกเท่าไหร่ จะคุ้มค่ากับค่าอาหาร ค่ายา ค่าวัคซีน ค่าดูแลต่าง ๆ หรือไม่ ถ้าไม่คุ้มค่าก็อาจจะปลดระวางหรือในฟาร์มที่มีจรรยาบรรณอยู่บ้างก็อาจจะทำหมันแล้วขายให้ผู้ที่อยากเลี้ยง
ด้วยพฤติกรรมของผู้เพาะพันธุ์สุนัขที่ไร้จรรยาบรรณเหล่านี้ ทำให้ร่างกายของสุนัขที่เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์เสื่อมสภาพและทรุดโทรมเร็ว และเมื่อให้ผลผลิตลูกสุนัขไม่ได้เท่าที่ต้องการ หรือสุนัขเหล่านี้เกิดการเจ็บป่วยจนไม่สามารถผสมพันธุ์ได้ ก็จะถูกปลดระวางและเลี้ยงดูอย่างอนาถา เนื่องจากเป็นสุนัขที่ไม่ทำรายได้แล้วจึงไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ … จากชีวิตสุนัขที่เคยได้รับการดูแลอย่างดี เมื่อหมดประโยชน์ไม่สามารถสร้างกำไรให้กับผู้เลี้ยงได้ จึงได้เป็นแค่สุนัขแก่ที่ไร้ค่าตัวหนึ่งเท่านั้น
ปฏิบัติการไถ่ตัวพ่อพันธุ์แม่พันธุ์สุนัข จึงเกิดขึ้น
… เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โครงการเพื่อนข้างถนน ได้ทำการเข้าซื้อตัวพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ สุนัขที่ถูกปลดระวางจากฟาร์มที่ไม่ได้มาตรฐานแห่งหนึ่ง โดยสามารถซื้อมาได้ทั้งหมดจำนวน 9 ตัวในราคา 17,000 บาท สภาพของสุนัขพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ถูกซื้อมานั้น สร้างความหดหู่ให้แก่ผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก โดยแต่ละตัวนั้นมีสภาพตาบอด เป็นโรคผิวหนังขนหลุดร่วง เป็นขี้เรื้อน บางตัวขนพันกันชนิดที่ถ้ามองผ่านๆ อาจคิดว่าเป็นผ้าขี้ริ้วที่ไม่ใช้แล้วสุนัขบางตัวฟันโยกฟันหลุดเกือบหมดปาก หลังได้รับการช่วยเหลือ สุนัขเหล่านี้ถูกส่งตัวไปสู่โรงพยาบาลสัตว์เพื่อวางแผนการรักษา ตรวจสุขภาพ อาบน้ำ ตัดขน ทำหมัน และทำวัคซีน
หนึ่งในสุนัขที่ได้รับการช่วยเหลือมานั้น เป็นสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน ซึ่งเป็นสุนัขที่ยังมีอายุไม่มาก แต่ฟันของเขาหลุดเกือบหมดปากแล้ว และขนพันกันเป็นก้อนผิดธรรมชาติไปจากสุนัขปอมเมอเรเนียนทั่วไปที่มีขนฟู
ใครจะเชื่อว่าสุนัขเหล่านี้ ซึ่งเป็นสุนัขสายพันธุ์ดีมีราคาแพง แต่ไม่มีแม้กระทั่งชื่อ … ความจริงข้อนี้เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความน่าหดหู่ของชีวิตสุนัขพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่อยู่ในฟาร์มที่ไร้จรรยาบรรณได้เป็นอย่างดี พวกเขาแทบจะไม่มีค่าอะไรเลย มีประโยชน์เพียงแค่ผลิตลูกสุนัขสร้างรายได้ให้กับฟาร์มเท่านั้น
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผสมพันธุ์สุนัข
หมอต้น สัตวแพทย์ประจำเว็บไซต์ Dogilike ได้ให้ความรู้ถึงการผสมพันธุ์สุนัขว่า โดยปกติแล้วสุนัขตัวเมียจะเป็นสัดทุก 6 – 8 เดือน ดังนั้นในระยะเวลา 1 ปี สุนัขตัวเมียควรมีลูกปีละครอกเท่านั้น เพื่อไม่ให้ร่างกายทรุดโทรมและขาดความสมบูรณ์ตามสายพันธุ์ ทั้งนี้ สุนัขตัวเมียจะไม่มีช่วงวัยทองเหมือนกับมนุษย์ผู้หญิง ดังนั้น ตราบใดที่สุนัขยังเป็นสัดอยู่ก็สามารถมีลูกได้ไปจนกว่าจะตาย
ส่วนในสุนัขตัวผู้ซึ่งเป็นพ่อพันธุ์นั้น หากจะเพาะพันธุ์สุนัข ไม่ควรให้พ่อพันธุ์ผสมพันธุ์กับแม่พันธุ์ในจำนวนมากเกินไปเพราะจะทำให้พ่อพันธุ์ทำงานหนัก ร่างกายขาดความสมบูรณ์ โดยสัดส่วนที่เหมาะสมในการผสมพันธุ์ระหว่างพ่อพันธุ์กับแม่พันธุ์คือ คือ 1:5 – 1:10
นอกจากนี้ การผสมพันธุ์สุนัขไม่ควรผสมพันธุ์แบบ เลือดชิด (Inbreeding) คือไม่ควรให้สุนัขที่มีสายเลือดเดียวกันและมีความสัมพันธ์กันแบบเครือญาติ ไม่ว่าจะเป็น ญาติสายตรง (พ่อ แม่ ลูก ปู่ ยา ตา ยาย) หรือญาติข้างเคียง(ลุง ป้า น้า อา) เช่น พ่อผสมกับลูก แม่ผสมกับลูก พี่ผสมกับน้องท้องเดียวกัน มาผสมพันธุ์กัน เพราะจะมีอันตรายในหลาย ๆ ด้าน เช่น
ในด้านร่างกาย … สุนัขที่เกิดจากการผสมเลือดชิด อาจมีลักษณะโครงสร้างร่างกายที่ผิดปกติแต่กำเนิด พบว่าอัตราการเจริญเติบโตจะลดลง (โตช้า) แคระแกร็น มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ เกิดความพิการต่างๆ เช่น ขายาวไม่เท่ากัน หูยาวไม่เท่ากัน หางกุด ปากแหว่ง เพดานโหว่ ตาทั้งสองข้างอาจมีขนาดไม่เท่ากันหรืออยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม มีหัวใจพิการแต่กำเนิด ฯลฯ ลูกสุนัขจะมีโอกาสเสียชีวิตได้ตั้งแต่แรกเกิด หรืออาจแท้งไปตั้งแต่อยู่ในท้อง
ในด้านสุขภาพ … สุนัขที่เกิดจากการผสมเลือดชิดมักจะไม่แข็งแรง เจ็บไข้ได้ป่วยได้ง่าย มีภูมิต้านทานโรคต่ำ ติดโรคง่าย และรักษาให้หายขาดยาก เป็นโรคประจำพันธุ์ตั้งแต่อายุยังน้อย โรคที่มักพบในสุนัขที่เกิดจากการผสมเลือดชิด ได้แก่ โรคข้อสะโพกเสื่อม โรคหัวใจ โรคภูมิแพ้ โรคลมชัก โรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง ฯลฯ ผู้เพาะพันธุ์ที่ขาดความเข้าใจบางราย นิยมที่จะให้สุนัขผสมเลือดชิดเพื่อต้องการรักษามาตรฐานสายพันธุ์และคงลักษณะที่ดีภายนอกของพ่อแม่เอาไว้ แต่กลับทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพภายในร่างกายตามมา อย่างเช่น เกิดปัญหาเรืองตา ข้อสะโพก กระดูกสันหลัง และการหายใจในสุนัขพันธุ์ปั๊ก เกิดปัญหาหัวกะโหลกโต ทำให้ไม่สามารถคลอดได้เองตามธรรมชาติ ต้องช่วยผ่าคลอดในสุนัขพันธุ์บลูด็อก หรือเกิดโรคข้อสะโพกเสื่อมในสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ เป็นต้น
ในด้านพฤติกรรม … การผสมเลือดชิดส่งผลโดยตรงต่อพันธุกรรม และอาจมีส่วนก่อให้เกิดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ได้ เช่น ก้าวร้าว ชอบไล่งับ ชอบวิ่งไล่รถหรือสัตว์ตัวอื่นๆ ชอบเล่นแรงๆ และเป็นสุนัขที่ไม่ฉลาดฝึกให้เข้าใจคำสั่งได้ยาก การเพาะพันธุ์สุนัขที่ประสบความสำเร็จ นอกจากจะได้ลูกสุนัขที่มีลักษณะร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงแล้ว เราควรต้องใส่ใจเรื่องสุขภาพของจิตใจหรืออารมณ์ด้วย
หมอต้นยังได้ให้คำแนะนำอีกว่า หากต้องการจะซื้อหรือรับสุนัขมาเลี้ยง เราควรศึกษาใบเพ็ดดีกรี ดูประวัติการผสมให้ดี ว่าสุนัขตัวนั้นเป็นลูกที่เกิดจากการผสมเลือดชิดในเครือญาติเดียวกันหรือไม่ วิธีนี้จะเป็นลดความเสี่ยงในการได้สุนัขที่ไม่แข็งแรง ซึ่งอาจเกิดปัญหาตามมาภายหลัง และที่สำคัญถ้าหากเพื่อน ๆ เลี้ยงสุนัขรวมกันไว้หลายตัว แล้วแต่ละตัวมีความสัมพันธ์ทางสายโลหิตเดียวกัน แบบนี้เราต้องไม่ปล่อยให้สุนัขผสมพันธุ์กันเอง ควรแยกเลี้ยงในระยะที่สุนัขตัวเมียกำลังเป็นสัด หรือพาสุนัขไปผ่าตัดทำหมัน เพื่อป้องกันการผสมพันธุ์ไปเลยจะเป็นการดีที่สุด
… และนี่ก็คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับชีวิตของพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ที่โชคร้ายต้องใช้ชีวิตอยู่ในฟาร์มที่ไม่มีมาตรฐาน ต้องอยู่กับผู้เลี้ยงที่ไม่มีจรรยาบรรณ เห็นสุนัขซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตเป็นเพียงแค่สินค้าที่สร้างรายได้ให้แต่ตนเองเท่านั้น ไม่ได้ให้ความสำคัญถึงชีวิตจิตใจและสวัสดิภาพของสุนัขแต่อย่างใด เรียกได้ว่าเป็นความจริงอีกด้านที่เราแทบจะไม่รู้และไม่เคยนึกถึงเลยทีเดียว
ที่มา dogilike