“ภูเขาหัวโล้น เพราะ … คนไม่กินผัก”
สโลแกนสั้นๆ หน้าร้าน โอวีโอสลัด ในเมืองน่าน ดึงดูดให้ก้าวเข้าร้านด้วยความสนใจ นอกเหนือไปจากเมนูที่เรียงราย หน้าตาหน้ากิน ด้วยการจัดจาน แน่นอนขึ้นชื่อเป็นร้านสลัด เพราะอย่างงั้นอาหารส่วนใหญ่แม้ไม่ใช่สลัด ก็มีผักเป็นส่วนประกอบโดยเฉพาะผักสดๆ
พูดคุยถึงได้รู้ว่า “จิม” ภานุพงศ์ รัตนะศิลา หนุ่มเมืองน่าน กับ “น้องส้ม” พวงผกา จอมปัญญา สาวเชียงใหม่ มาช่วยกันสร้างร้านนี้ขึ้นมา โดยจุดมุ่งหมายยิ่งใหญ่ นอกจากสร้างรายได้จากการทำมาหากินด้วยลำแข้งตัวเองแล้ว ยังฝันว่า สักวันเขาต้องช่วยให้ชาวบ้านให้มีรายได้ และทางเดียวที่จะช่วยรักษาป่าได้นั่นก็คือ ช่วยกันรับประทานผักที่ชาวบ้านปลูกเพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องทำลายป่าเพื่อปลูกพืชไร่อีกต่อไป
จิมเล่าว่า ไปเรียนที่เชียงใหม่ จบ ม.6 ออกมาทำขนมขาย แต่เห็นว่า ที่เชียงใหม่ค่าใช้จ่ายต่างๆ แพง จึงกลับมาอยู่บ้านโดยชักชวนส้มมาเปิดร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม โดยไปเรียนทำอาหารกับพ่อครัวที่บ่อเกลือวิว รีสอร์ทบนเขาที่ อ.บ่อเกลือ แต่สิ่งที่เป็นมากกว่าร้านอาหารก็คือ การสร้างรายได้ให้ชาวบ้านบนเขา ที่หันไปถางป่าปลูกข้าวโพด ปลูกพืชไร่ จนเป็นที่มาของ “เขาหัวโล้น”
“เขาหัวโล้น ไม่เกี่ยวกับคนน่านทั้งหมด แต่เป็นเรื่องของคนที่อยู่บนดอยและนายทุน เขาทำไร่ขายผลผลิต เพื่อมีรายได้มาซื้อสิ่งของปัจจัยต่างๆ ทำไปเรื่อย โดยไม่เกี่ยวกับคนข้างล่างเลย ทั้งที่ทรัพยากรเป็นของคนทั้งหมด เลยคิดว่า ถ้าเราไปห้ามเขาเผาป่าคงเป็นไปไม่ได้ ก็ใช้วิธีไปพูดคุยให้เขาปลูกผัก เอาเมล็ดผักไปหย่อนข้างบ้าน ข้างแปลง พอขึ้นมาได้ผลผลิต เราก็ไปรับซื้อ”
ร้านโอวีโอสลัดของจิม ร่วมกับ บ่อเกลือวิว เป็นตัวตั้งตัวตีเรื่องให้ชาวบ้านปลูกผัก โดยเอาเมล็ดพันธุ์ผักพื้นบ้านเท่าที่หาได้ เช่น ฟักทอง ผักกาด ฯลฯ ไปปลูกบ้านละเล็กละน้อย ปลูกไว้กินเองด้วย ที่เหลือร้านอาหารเข้าไปรับซื้อ และรณรงค์ไปยังร้านอาหารอื่นในเมืองน่านให้ร่วมกันรับซื้อผักจากชาวบ้าน จนวันนี้ทุกร้านร่วมมือกันเป็นอย่างดี
“เราที่เป็นคนข้างล่างมีหน้าที่ช่วยกันกินผัก เพื่อให้เขามีรายได้ พอรายได้จากการขายพืชผักแซงหน้าปลูกพืชไร่ ปีหน้าเขาก็ไม่ขึ้นไปถางป่า ถางเขา ปลูกพืชไร่จากนายทุนที่เข้าไปสนับสนุน
จิมยังบอกด้วยว่า อยากให้เมืองน่าน คงความเป็นเมืองของวัดวาอาราม บ้านเรือนดั้งเดิม มากกว่าเป็นเมืองรีสอร์ท หรือเมืองโรงแรม ไม่ต้องเป็นเมืองใหญ่โตทันสมัย เพียงแต่พัฒนาให้สะอาดสะอ้านขึ้น หรือถ้าจะรับนักท่องเที่ยว ก็ควรเป็นคนเมืองน่านที่เป็นเจ้าของ แล้วใช้บ้านของตัวเองเป็นรีสอร์ต รองรับนักท่องเที่ยว และยังฝันว่า อนาคต อยากจะทำห้างสรรพสินค้าที่ขายของพื้นบ้านจริงๆ ชาวบ้านปลูกไป เพราะทุกวันนี้ จะเห็นว่า ชาวบ้านมีผัก มีผลไม้ที่ปลูกเองมาวางขาย เราแค่มีตลาดให้เขามาขาย ไม่ต้องไปโก่งราคา
“ผมไม่พูด แต่จะทำให้เห็น ว่าหากลงมือทำอย่างจริงจัง เมืองน่านก็อยู่ได้สบาย … สบาย”
คุยกันเสร็จ ฉันนั่งกินข้าวต่อได้อย่างสบายใจ และดีใจที่เมนูเที่ยงนี้ สั่งสลัดผักมาจานใหญ่ด้วย อย่างน้อยฉันก็ช่วยเขาหัวโล้นได้ที่ปลายทาง…
ขอบคุณข้อมูลจาก komchadluek