งงกันอีกรอบ…ผู้เชี่ยวชาญการบินหลายคนเสนอทฤษฎีใหม่ โบอิ้ง 777 ของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH 370 ถูกใครคนหนึ่งบังคับให้มุ่งหน้าไปยังมหาสมุทรแอนตาร์กติก หลังขาดการติดต่อกับหอควบคุมการบิน ขณะที่หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญการบิน ชี้เป็นอุบัติเหตุที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน นับตั้งแต่ทำงานมานานนับ 40 ปี
เมื่อวันที่ 24 ก.พ. สื่อต่างประเทศรายงานความคืบหน้าของการติดตามค้นหาเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH 370 ที่หายไปอย่างไร้ร่องรอยมานานเกือบปี หลังทะยานขึ้นจากท่าอากาศยานกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงมาเลเซีย เมื่อ 8 มี.ค.57 นั้น ล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินหลายคน ได้มีความเห็นตรงกันว่า มีใครคนหนึ่งอยู่ในห้องนักบินและต้องการให้เครื่องบินมุ่งหน้าไปยังมหาสมุทรแอนตาร์กติก อันหนาวเหน็บในขั้วโลกใต้
สำหรับความเห็นดังกล่าวของเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน อยู่ในรายการสารคดี ซึ่งจะมีการเปิดเผยข้อมูลจากดาวเทียม ที่แสดงให้เห็นว่า MH 370 ได้บินต่อไปอีกหลาย ชม. หลังจากนักบินได้ขาดการติดต่อกับหอควบคุมการบินแล้ว โดยผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้เชื่อว่า เครื่องบินได้บินเลี้ยวเปลี่ยนทิศถึง 3 ครั้ง นับตั้งแต่ขาดการติดต่อ และได้มุ่งหน้าไปยังตะวันตก สู่มหาสมุทรแอนตาร์กติก
ญาติผู้โดยสาร MH 370 พยายามทำใจกับความสูญเสียอย่างไม่คาดคิด
ข่าวแจ้งว่า สารคดี ‘เกิดอะไรขึ้นกับ มาเลเซีย แอร์ไลน์ส 370?’ ซึ่งเป็นทฤษฎีหรือความเป็นไปได้ใหม่ ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญการบิน ที่เชื่อว่า เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777 ได้มุ่งหน้าไปยังมหาสมุทรแอนตาร์กติกนั้น จะถูกนำมาออกอากาศเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง ‘National Geographic’ (เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก) ในวันที่ 8 มี.ค. ที่จะถึง ซึ่งเป็นวันครบรอบหนึ่งปีที่เครื่องบินได้หายไปพอดี
นายมัลคอล์ม เบร็นเนอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินคนหนึ่ง กล่าวว่า อุบัติเหตุที่เกิดกับ MH 370 ที่ได้รับความสนใจจากชาวโลกอย่างมากนั้น เป็นอุบัติเหตุของเครื่องบิน ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลยนับตั้งแต่ทำงานด้านการบินมานานถึง 40 ปี
เรือค้นหา MH 370 ในมหาสมุทรอินเดีย
ทั้งนี้ เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777 ของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH 370 กัวลาลัมเปอร์-ปักกิ่ง พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน ได้หายไปอย่างลึกลับไร้ร่องรอย และถึงแม้นานาชาติจะมาช่วยระดมกำลังกันค้นหาซากชิ้นโบอิ้ง ที่คาดว่าประสบเหตุตกในมหาสมุทรอินเดีย นอกชายฝั่งออสเตรเลีย มานานเกือบปี แต่ก็ยังไม่พบแต่อย่างใด โดยขณะนี้ สำนักงานความปลอดภัยด้านการบินของออสเตรเลีย ยังคงเป็นหัวหน้าทีมค้นหาซากโบอิ้ง 777 ในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเข้าสู่เฟสหรือขั้นตอนที่ 2