ที่มา: talontv

มันเป็นสิ่งที่พูดยากเมื่อพูดถึงอาหาร หรือของกิน มักจะไม่มีใครเกิดคำถามว่ามันมาจากไหน และใครเป็นคนทำขึ้นมาเป็นครั้งแรก วันนี้โดดเด่นได้สาระความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเจ้า “เสลอปี้” ที่มีขายใน 7-11 จากเว็บไซต์ talontv ว่ามันเป็นมายังไง และมาอยู่ใน 7-ELEVEN ได้อย่างไร

coke-Slurpee-History-in-7-eleven-summer-0002

เรื่องนี้เริ่มขึ้นที่ 7-Eleven ครับ 7-11 เริ่มขายแฟรนไชส์ ในปี 1928 ในปี 1946 ประสบความสำเร็จมากมีถึง 100 สาขา ผู้คนติดใจแวะเวียนมาใช้บริการจนประสบความสำเร็จสูงมาก ในขณะที่ขายสินค้าให้สินค้าเจ้าต่างๆ มากมาย ระหว่างนั้น ก็เริ่มมองหา “original” products ในที่สุดก็บรรลุข้อตกลงกับบริษัท ICEE ทำสัญญากันภายใต้เงื่อนไข 2 ข้อ คือ 1.ทาง 7-Eleven จะใช้ชื่อผลิตภัณฑ์แตกต่างกัน โดยจะเป็นชื่อที่ตั้งขึ้นของตนเอง และ 2. สินค้าตัวนี้จะต้องขายเฉพาะในพื้นที่ 7-11 เท่านั้น

คนที่ตั้งชื่อ Slurpee ก็คือ Bob Stanford, 7-Eleven’s agency director ในเวลานั้น

coke-Slurpee-History-in-7-eleven-summer-0003Coke กับ Slurpee อยู่คู่กันมาตั้งแต่เริ่มต้นวันแรกๆ สังเกตแก้วใบที่ 3 ครับ

รสชาติเริ่มต้น ของ Slurpee ในตอนนั้นมีหลายตัว รสชาติหลักตัวหลักตัวแรก หนีไม่พ้น Coke เครื่องดื่มสุดฮิปในยุคนั้น นอกจากนั้นก็มี Mountain Dew และ เชอรี่ ต่อจากนั้นก็มีอีกหลายๆ ตัวออกมาสลับๆ กันสร้างสีสัน แต่ตัวหลักที่ยืนพื้นเสมอก็คือ Cocacola หรือ โค้ก ที่อยู่คู่กันมาทุกยุคทุกสมัยตั้งแต่ปลายยุค 60 จนถึงปัจจุบัน

จริงๆแล้ว พูดง่ายๆ ได้ว่า “Slurpee” เป็น “original products” ของ 7-Eleven และต่อมาเป็นสินค้าที่ เรียกว่า ฮิป (Hip Produsts) เพราะชายคนที่ชื่อ John Ryckevic ตำแหน่ง 7-Eleven’s one-time category manager for Slurpee and fountain beverages เป็นคนวางแผน จน เสลอปี้ กลายเป็นสินค้าที่มีความสนุกสนานในการดื่ม ดึงดูดความสนใจของชายหนุ่มและหญิงสาว กลายเป็นสินค้าที่มีวัฒนธรรมและบุคลิกภาพของตัวเองอย่างเด่นชัด

Slurpee มีท่วงทำนองดนตรีของตัวเอง แถมยังทำแผ่นเสียงขึ้นมาสำหรับแจกให้ฟรีในร้าน 7-Eleven แถมได้รับการตอบรับดี ปัจจุบันกลายเป็นของสะสมหายาก แถมยังมีดีเจรุ่นใหม่ที่มีชื่อเสียง อย่าง Cut Chemist and DJ Shadow เอามารีมิกซ์ ด้วย

Slurpee กระโดดลงไปในงานศิลปะ ทีมกีฬา ตัวละครในหนังสือการ์ตูน วงร็อค วิดีโอเกม เอาทุกอย่างที่ฮิปมาลงใส่แก้ว จนแก้วเสลอบี้กลายเป็นของสะสมที่มีคุณค่า กลยุทธนี้ยังมีอยู่จนถึงปัจจุบัน ที่บ้านเราน่าจะรู้จักก็อย่างเช่น Men in Black II หรือ Iron Man และ The Simpsons Movie

coke-Slurpee-History-in-7-eleven-summer-0004“Slurpee is a perennially young drink. It appeals to kids, teens and young adults and everyone else who remembers the fun of drinking a Slurpee. It is probably the most recognized 7-Eleven brand, and it has a culture and personality all its own.”

coke-Slurpee-History-in-7-eleven-summer-0005-1024x762By the early 1970s, the Slurpee’s marketers began to realize that cups were prized ad space. Throughout the decade, they were festooned with sponsored artwork — sports teams, comic book characters, rock bands, video games — and became highly-valued collectibles.

ทีสนุกสนานกว่านั้น คือ ตั้งแต่ปี 2002 ทุกวันที่ 11 เดือน กค. จะเป็นวัน Free Slurpee Day ใครจะขนอะไรมาก็ได้ ถ้าอยู่ในไซส์ที่กำหนดแล้วจะใส่เสลอปี้เท่าไหร่เท่าที่จุได้ไปทานที่บ้านต่อ ได้เลย อันนี้กำลังคิดว่า ในเมืองไทยจะจัดมั่งไหม หรือถ้าจัดพิเศษในหน้าร้อนก็จะดีมาก บรรยากาศใช่เลย

Free-Slurpee-Dayวัน Free Slurpee Day จัดทุกเดือน 7 วันที่ 11 หรือ 11 กค. ในบ้านเรา

coke-Slurpee-History-in-7-eleven-summer-0006เครื่องทำเสลอบี้ ซัพพอร์ตโดยโค้ก ในหลายประเทศ รวมถึงในประเทศไทย

coke-Slurpee-History-in-7-eleven-summer-0007เครื่องทำเสลอบี้ ซัพพอร์ตโดยโค้ก ในแทบทุกที่ รวมถึงในประเทศไทย

ว่ากันว่า ต้นกำเนิด ของ Slurpee เกิดขึ้นมาโดยบังเอิญในปี 1958 โน่น โดย Omar Knedlik เจ้าของร้านเดลี่ควีนส์ ในรัฐแคนซัส เอาเอาโซดาไปแช่ในตู้เย็นจนเป็นวุ้นนิดๆ และเอามาเสิร์ฟลูกค้า เป็นความบังเอิญที่ลูกค้าชอบใจ อาจเพราะความเย็นชื่นใจ มันทำให้รู้สึกดี ต่อจากนั้นก็ไปอยู่ในมือของ The ICEE Company ก่อนที่ 7-Eleven จะมองเห็นทางของสินค้าตัวนี้และบรรลุข้อตกลงสัญญาลิขสิทธิ์ในปี 1965 และตั้งชื่อเป็น Slurpee อย่างที่เล่าๆ กัน

Slurpee ประสบความสำเร็จทั่วโลก มาจนถึงปัจจุบัน เคยเข้ามาเมืองไทยตั้งแต่สมัยผมรุ่นหนุ่ม หายไปพักใหญ่เป็น 10 ปี แต่ตอนนี้ Slurpee กลับมาแล้ว ใน 7-Eleven ในรุ่นลูกชาย ซึ่งเค้าชอบมาก และผมก็ชอบ เพราะมันกลายเป็นรสนิยมของคน 2 รุ่นที่มาบรรจบกัน ฟินมากครับ พ่อลูก เดินคู่กันไปกินอะไรอร่อยๆ เย็นๆ ด้วยกัน

เรื่องน่าสนใจ