ขนาดว่าบ้านเราร้อนแล้ว แต่รู้หรือเปล่าว่ามีบางประเทศที่ได้รับอิทธิพลความร้อนจากดวงอาทิตย์ มากกว่าประเทศไทยเสียอีก ไม่ว่าจะเป็นภูมิอากาศ ภูมิประเทศ ทั้งร้อนทั้งแห้งแล้ง (เขาอยู่กันได้ยังไง?) เอาเป็นว่าถึงอากาศจะร้อน ก็อย่าใจร้อนตามอากาศแล้วกัน หันมาส่องสำรวจดูประเทศอื่นๆ กันดีกว่า ว่ามีประเทศไหนบ้างที่ร้อนแล้งยิ่งกว่าบ้านเรา แอบกระซิบว่าบางประเทศติดอันดับเป็นเมืองร้อนที่สุดในโลกเลยนะ
1. ประเทศเม็กซิโก
ตามที่เคยเห็นในหนังฮอลลีวูด ฉากของประเทศเม็กซิโกในหนังมักจะแสดงให้เห็นถึงความร้อน แล้ง แห้ง ระอุ ไปทั่วทุกหนแห่ง และน่าเศร้าจริงๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว สภาพมันก็ไม่ต่างจากในหนังเลย แม้ว่าพื้นที่บริเวณอเมริกากลางแห่งนี้ดูจะเป็นดินแดนแห่งมรดกทางวัฒนธรรม ที่อุดมไปด้วยอาหารรสเลิศและชายหาดสวยๆ แต่ที่นี่เป็นประเทศที่มีอุณหภูมิสูงแทบทั้งปี ยิ่งในบริเวณทุ่งหญ้าอันแห้งแล้งในวันที่ร้อนที่สุดของฤดูร้อนพบว่า อุณหภูมิไต่ไปได้ถึง 50 องศาเซลเซียส
แน่นอนว่าชาวเม็กซิกันก็ต้องหาวิธีดับร้อน และไม่มีอะไรดีไปกว่าการไปหลบร้อนที่ชายหาดพร้อมด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ หลายแก้ว ที่น่าแปลกใจคือมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่อยู่ในประเทศแถบหนาว นิยมเดินทางมาเที่ยวเม็กซิโกแบบไม่กลัวร้อน พวกนักท่องเที่ยวแห่กันมามากมายทีเดียวเพียงเพื่อมาอาบแดดจนตัวชุ่มเหงื่อ ที่ชายหาดของเม็กซิโก ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องหาดทรายที่ขาวเนียนละเอียด และมีน้ำทะเลที่ใสแจ๋วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่ละปีตามชายหาดจะคับคั่งไปด้วยผู้คนที่หลบร้อนมาเสริมไอเย็นจากริมชายทะเล
2. ประเทศอินเดีย
แม้แต่เทือกเขาหิมาลัยอันยิ่งใหญ่ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือและทอดยาวไปยัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ก็ไม่สามารถที่จะหยุดยั้งลมร้อนจากมหาสมุทรอินเดียได้ ซึ่งส่งผลให้ชมพูทวีปแห่งนี้มีอุณหภูมิสูงแบบนี้เป็นปกติ ในช่วงฤดูร้อนอินเดียจะมีอุณหภูมิแตะอยู่ที่ 50 องศาเซลเซียสในภาคกลางบางพื้นที่ ภาคตะวันตก และภาคใต้ของประเทศ
แต่อย่างไรก็ตามอินเดียก็ยังเป็นประเทศที่มีฤดูหนาวที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะทางตอนเหนือ (หนาว ได้มากอย่างสมน้ำสมเนื้อกับช่วงที่ร้อนเลยทีเดียว) บางช่วงในหน้าร้อนมีฝนตกทำให้อากาศชื้น ไม่แห้งแล้งจนเกินไป
ฤดูร้อนของที่นี่มีเพียงชั่วระยะหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นในช่วงฤดูหนาวของปี คนอินเดียมักจะหลบหนาวมาเที่ยวทะเล ซึ่งที่นี่ก็มีชายฝั่งที่สวยงาม เป็นศูนย์กลางแห่งการท่องเที่ยว ทะเล เช่น เมืองกัวและเมืองเกรละ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอินเดีย
3. ประเทศอิรัก
ประเทศที่มีความเสียหายจากสงครามอย่างประเทศอิรัก ไม่ได้ประสบปัญหาเฉพาะเรื่องสงครามเท่านั้น แต่ยังต้องเผชิญปัญหาใหญ่กว่าในเรื่องการอยู่รอดจากความร้อนอีกด้วย ในช่วงหน้าร้อนของประเทศในแถบตะวันออกกลาง อุณหภูมิมักจะไต่สูงถึง 48-54 องศาเซลเซียส และสำหรับประเทศอิรัก อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วไปในทุกพื้นที่มักจะสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส
แม้ว่าทางตอนเหนือของที่นี่จะมีภูเขาสูงที่ปกคลุมไปด้วยหิมะในฤดูหนาว แต่นั่นก็เป็นพื้นที่บริเวณไม่มาก และส่วนที่เหลือของประเทศก็ไม่มีโอกาสได้หลบลี้หนีจากความร้อนแล้งนี้ได้เลย
4. ประเทศซาอุดีอาระเบีย
ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องผืนทะเลทรายร้อนระอุที่แผ่ขยายไปกว้างไกลสุดลูกหู ลูกตา ทั้งยังเต็มไปด้วยวิถีชีวิตของผู้คนที่แตกต่างหลากหลาย ซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศที่ไม่เหมือนใคร เนื่องจากเป็นประเทศที่ได้ชื่อว่าร้อนที่สุดและเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุด ประเทศหนึ่งของโลก
พระมหากษัตริย์ของซาอุดีอาระเบียทรงเห็นถึงความทุกข์จากสภาพอากาศที่ร้อน ทะลุปรอท จึงทรงให้ประชาชนในประเทศได้รับการบริการจากสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างที่ จะช่วยให้พวกเขาเอาชนะปัญหาความร้อนแล้งนี้ไปได้
อุณหภูมิที่สูงที่สุดที่เคยได้รับการบันทึกในซาอุดีอาระเบียในฤดูร้อนไต่ ระดับไปอยู่ที่ประมาณ 54 องศาเซลเซียส และด้วยความที่พื้นที่ของประเทศส่วนใหญ่ประกอบด้วยทะเลทรายอาหรับ ทำให้แห้งแล้งและไร้ประโยชน์สำหรับทำการเกษตร
5. ประเทศลิเบีย
ดินแดนที่ขึ้นชื่อว่าร้อนที่สุดในโลกต้องที่นี่เลย ประเทศลิเบีย เป็นประเทศที่มีอุณหภูมิร้อนแรงสุดๆ จนทำให้ผู้คนจากทั่วโลกรู้กันว่าลิเบียเป็นหนึ่งในประเทศที่ประชากรได้รับผล กระทบจากสภาพอากาศร้อนอย่างหนักหน่วง เช่น แผลพุพองหรือโรคผิวหนัง อุณหภูมิสูงที่สุดที่โลกเคยบันทึกไว้ก็อยู่ในพื้นที่ของประเทศลิเบียนี่เอง โดยระบุว่าในปี 1922 ลิเบียมีอุณหภูมิสูงถึง 57.8 องศาเซลเซียส
สิ่งที่ตามมาคือผู้คนไม่สามารถจะทำมาหากินได้อย่างปกติสุข และเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ด้วยความที่ประเทศนี้มีทะเลทรายครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ จึงส่งผลให้สภาพภูมิอากาศแห้งแล้ง
ดังนั้นอย่าบ่นอะไรให้มากเลยเวลาที่คุณได้อยู่อาศัยในที่ที่ซึ่งอาจจะไม่ ได้หรูหราหรือดีที่สุดในโลก เพราะยังมีคนอีกจำนวนมากในหลายประเทศที่กำลังต่อสู้เพื่อให้ตัวเองได้มี หลังคาซุกหัวนอนพร้อมๆ กับต้องต่อสู้กับความร้อนอันโหดร้ายนี้ด้วยเช่นกัน
ที่มา : listcrux