สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่นักร้องหนุ่มแดนปลาดิบ “มาโกโตะ โคชินากะ” และผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง”กอล์ฟ ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์” รวมถึงทีมนักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง “ฟินสุโค่ย” พร้อมใจกันใช้พื้นที่สื่อเพื่อทวงถามถึงเงินค่าตัวจากบริษัทภาพยนตร์ “ฟิน โปรเจกต์ จำกัด” หลังมีแนวโน้มว่าจะถูกเบี้ยวกันแบบยกทีม จนกลายเป็นกระแสดราม่าที่หลายคนหยิบขึ้นมาพูดถึงตลอดทั้งสัปดาห์!!
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. เช้าวันนี้ (29 เม.ย.) ทีมผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวซึ่งนำโดย “นางสาวภัคกมล วิทยารางสกุล (กบ)” , “นางสาวปุณยนุช วรนิธิพงศ์ (ตุ๊กตา)” และ “นายจิตติ แซ่แต่ (ที่ปรึกษากฏหมาย)” ก็ได้ถือโอกาสร่อนจดหมายเชิญสื่อมวลชนเพื่อร่วมฟังคำชี้แจงทุกข้อสงสัยให้เราฟังว่า
กบ – “ก่อนอื่นเราอยากชี้แจงว่าบริษัทฟินโปรเจกต์มีกรรมการทั้งหมด 3 ท่าน ซึ่งมีดิฉัน คุณตุ๊กตา และคุณ ย. ซึ่งสาเหตุที่คุณ ย. มาร่วมงานในวันนี้ไม่ได้ก็เป็นเพราะว่ากำลังถูกดำเนินคดีทุจริตบริษัท ฟิน โปรเจกต์ เป็นเช็คเงินจำนวน 5,000,000 บาท และฉ้อโกงอีก 550,000 บาท และดิฉันขอยืนยันนะคะว่าพฤติกรรมอื่นๆ ของกรรมการท่านนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัทฟิน โปรเจกต์ เพียงแต่ว่าเรามีกรรมการทั้งหมด 3 คน รวมเขาด้วยค่ะ”
“ส่วนกรณีที่ทางบริษัท เค โปรเจกต์ ต้นสังกัดของหนุ่มมาโกโตะออกมาโพสต์ถามถึงเงิน เราต้องเล่าว่าจริงๆ แล้วเงินก้อนนั้นคือเงินค่าสัญญาจ้าง ซึ่งเป็นมูลค่าสัญญา 3,050,000 บาท ซึ่งตอนนี้ทางบริษัทฟินโปรเจกต์ของเราได้ชำระไปแล้วเป็นจำนวนเงินกว่า 2,197,600 บาท แต่ทำไมเราถึงยังไม่ชำระเงินจำนวนที่เหลือไปเลยทีเดียวก็เป็นเพราะเราถูกหนึ่งในกรรมการซึ่งเป็นคุณ ย. ฉ้อโกงเงินไป ซึ่งเรื่องนี้เราเองก็ได้มีการชี้แจงไปทางบริษัท เค โปรเจกต์ เช่นเดียวกันเพื่อบอกกล่าวว่าคุณ ย. คนนี้จะไม่เกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นกับบริษัทอีกและทางบริษัทก็จะไม่รับผิดชอบการกระทำของคุณ ย. นับตั้งแต่นี้ ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานเราก็ได้มอบเงินไปให้เขาอีกและเขาก็ส่งตัวแทนมารับอีกรวมแล้ว 2 ครั้ง เป็นจำนวน 300,000 บาท ซึ่งเบ็ดเสร็จเป็นเงิน 2,497,600 บาท และมียอดค้างชำระอีก 552,400 บาท แต่เราต้องบอกก่อนนะคะว่าจริงๆ แล้วเรามีเงินอีกจำนวน 274,500 บาท ที่จ่ายไปแล้วและมันหายไป ซึ่งเงินหายไปไหนและยังไงนั้นเราจะให้คุณตุ๊กตาเป็นคนชี้แจงต่อ”
ตุ๊กตา – “ตุ๊กตาต้องเล่าว่าก่อนหน้านี้ตุ๊กตาเคยเป็นตัวแทนของบริษัท เค โปรเจกต์ เพื่อดูแลคุณมาโกโตะและวงทริกในประเทศไทย ซึ่งตรงนี้มันก็จะต้องมีค่าคอมมิชชั่นที่ตุ๊กตาต้องได้รับ แต่ตุ๊กตาเลือกที่จะหักเงินตรงนี้ออกไปเลยเป็นจำนวนเงิน 274,500 บาท ซึ่งเป็นเงินก้อนแรก และหลังจากนั้นไม่นานตุ๊กตาก็ถูกไล่ออกจากบริษัทโดยให้เหตุผลว่าตุ๊กตาเป็นอุปสรรคต่อกรทำงานในบริษัท ฟิน โปรเจกต์ ซึ่งตุ๊กตางงมากว่าจะเป็นอุปสรรคได้ยังไง เพราะตุ๊กตาก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการของบริษัทเช่นเดียวกัน”
กบ – “สรุปก็คือ ณ ตอนนี้เรายังมียอดค้างชำระอยู่อีก 277,900 รวมทั้งหมดที่เราจ่ายไปแล้วเป็นเงิน 2,772,100 แต่เรายืนยันนะคะว่าถ้าเช็คจากเอกสารแล้วเราจะไม่จ่ายเงินส่วนที่เหลือต่อ เพราะทางบริษัท เค โปรเจกต์ ได้ทำการผิดสัญญาบริษัท ฟิน โปรเจกต์ และหมิ่นคณะกรรมการบริษัทค่ะ ซึ่งในทางกลับกันทางบริษัท เค โปรเจกต์ ก็ยังค้างเงินค่าคอมมิชชั่นกรรมการเราอยู่อีกซึ่งคือคุณตุ๊กตาประมาณ 300,000 บาท ซึ่งถ้าหากเปรียบเทียบกันดูแล้วทางฝ่ายเขาค้างชำระเงินมากกว่าที่เขาค้างชำระเราด้วยซ้ำ”
ตุ๊กตา – “จริงๆ คุณพ่อของคุณมาโกโตะยืมเงินของหนูด้วยนะคะเป็นจำนวนเงิน 30,000 บาท แล้วก็ยังมีค่าใช้จ่ายบางส่วนที่เขายังไม่ได้จ่ายซึ่งคนที่ทำงานกับหนูเขาก็มาทวง”
คุณตุ๊กตาพอจะบอกได้ไหมว่าทำไมจู่ๆ เขาถึงได้ส่งข้อความมาด่าเรา ?
ตุ๊กตา – “งงเหมือนกันค่ะเพราะก่อนหน้านี้ที่ตุ๊กทำงานกับเขาทุกอย่างราบรื่นหมดจนกระทั่งมี ฟิน โปรเจกต์เกิดขึ้น ส่วนสาเหตุที่เขาส่งข้อความมาด่าอันนี้หนูก็เคยถามเขาค่ะ แต่เขาก็แจกแกงฟักให้หนูกินตอนตี 4 จากนั้นหนูก็เลยเลิกคุยไม่อยากรู้คำตอบแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเองก็พูดกับหนูดีนะคะ แต่เหมือนว่าเขาไปได้ยินอะไรจากคนอื่นมาแล้วมาตัดสินหนูโดยไม่ฟังความจริงจากหนูก่อน หนูก็เลยพอดีกว่า”
เงินค่าใช้จ่ายในส่วนของนักแสดงไทยยังมีอีกเท่าไหร่ที่จ่ายไม่หมด ?
กบ – “อันนี้ไม่สามารถบอกได้ค่ะว่าเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ แต่ก็ยอมรับนะคะว่ายังมีอยู่”
เราได้มีการติดต่อ คุณ ย. ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ?
กบ – “เขาไม่รับสายดิฉันมาเป็นปีแล้วค่ะ แต่ก็ไม่อยากพูดมากเพราะมันจะเป็นการละเมิด ซึ่งถ้ามองตามกฏหมายสำหรับตัวเขาเองตอนนี้ก็มีหมายจับออกมาแล้วค่ะ”
ทางด้านของ มาโกโตะ เรายังได้ติดต่อพูดคุยอยู่ไหม ?
กบ – “จริงๆ เรากับนักแสดงทุกท่านเรามีการติดต่อพูดคุยกันมาตลอดนะคะ และดิฉันก็ยอมรับด้วยว่าเป็นเพราะเรื่องที่เราจ่ายเงินช้าจริงๆ แต่ว่าสาเหตุหลักเลยที่ทำให้ดิฉันยุติการติดต่อกับเขาได้ก็เป็นเพราะเขาเบี้ยวงานพรีเมียร์ภาพยนตร์ ฟินสุโค่ย แถมยังโพสต์ข้อความหมิ่นประมาณบริษัทของเราในโลกโซเชียลอีก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ยังตั้งคำถามอยู่นะคะว่าใช่โมโกโตะโพสต์จริงหรือเปล่า แต่ชื่อที่เขาใช้โพสต์มันก็คือชื่อของเขาอีกเหมือนกัน”
ตุ๊กตา – “จริงๆ เรื่องที่เขาโพสต์ด่าอันนี้ไม่ใช่ครั้งแรกนะคะ เพราะที่ผ่านมาเขาก็โพสต์ด่าหนูมาตลอด ซึ่งหนูก็ไม่ได้สนใจอยากจะด่าอะไรก็ด่าไป”
กบ – “เรื่องนี้ต้องขอเล่าค่ะเดี๋ยวหาว่าเราพูดลอยๆ เพราะก่อนถึงวันพรีเมียร์ภาพยนตร์ทางคุณมาโกโตะเขาได้ขอค่าตัวพิเศษเพิ่มในการโชว์ตัววันพรีเมียร์ แต่เรายืนยันว่าเราไม่มีให้แถมดารานักแสดงทุกคนก็มาตามหน้าที่ไม่ได้มีใครขออะไรพิเศษ ซึ่งเขาก็ถามมาอีกว่าถ้าไม่มีเงินค่าตัวให้จะมีอะไรซัพพอร์ทเขาได้บ้าง เราก็บอกว่าเรามีเงินแค่ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายระหว่างอยู่เมืองไทยให้ เนื่องจากมันเป็นเงินของทีมพีอาร์ซึ่งก็คือบริษัทสหมงคลฟิล์ม พอมาโกโตะเขาทราบแบบนั้นเขาก็ถามกลับมาว่าเรามีงบขนาดนี้ทำไมไม่จ่ายค่าตัวให้เขาซะเลย ดิฉันก็เลยงงมากแล้วบอกเขาไปว่าเงินมันคนละวัตถุประสงค์จึงไม่สามารถทำแบบนั้นให้เขาได้ สุดท้ายเขาก็เลยตัดสินใจไม่มาร่วมงานค่ะ (ยิ้ม)”
อยากให้สรุปเรื่องราวทั้งหมดที่เรากล่าวมา ?
กบ – “สรุปนะคะในเรื่องของเงินค่าใช้จ่ายทั้งหมดตอนนี้ต่างฝ่ายต่างติดค้างกัน และที่สำคัญทางเขาติดค้างเรามากกว่าที่เราติดเขาด้วยซ้ำ แต่อันนี้เขาจะยอมรับหรือไม่เราไม่รู้นะเพียงแค่เรามีเอกสารที่พร้อมจะดำเนินการทุกอย่างเท่านั้นเอง หลักฐานเรามีพร้อมหมดค่ะ”
“ส่วนกรณีที่ทางอินสตาแกรมชื่อมาโกโตะโพสต์ข้อความเกี่ยวกับบริษัทและมีชื่อดิฉันกับคุณตุ๊กตาเขียนอยู่บนนั้นแค่ 2 คน ดิฉันอยากทราบว่าเจตนาของคุณคืออะไรและมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องด้วยไหม เพราะถ้าคุณให้คำตอบได้เรื่องนี้ก็จะเป็นประโยชน์แก่ตัวคุณเอง”
“อีกเรื่องคือกรณีที่ชื่อของ คุณ ย. ไปโผล่ว่าทำละครหรือไปทำอะไรก็แล้วแต่มันไม่เกี่ยวข้องกับเราเลยนะคะ ถ้าจะพูดถึงชื่อเขาก็ขอให้พูดถึงชื่อนามสกุลเขาไปเลยค่ะ”
ณ ตอนนี้ทางบริษัทมีเงินในการชำระนักแสดงรวมถึงทีมงานในภาพยนตร์ไหม ?
กบ – “ยังไม่มีค่ะ เพราะตอนนี้ทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการ ซึ่งเราต้องขอขอบคุณทางบริษัทสหมงคลฟิล์มมากที่พยายามขายลิขสิทธิ์หนังให้เราอยู่ และเราก็หวังอีกว่าจากการแถลงข่าวครั้งนี้จะช่วยให้ภาพลักษณ์ของบริษัทเราดีขึ้นมาได้”
ยังติดต่อทางบริษัท เค โปรเจกต์ ได้อยู่ไหม ?
กบ – “ก็หลังจากที่เขาโพสต์ข้อความล่าสุดขึ้นมาเราก็ได้ติดต่อกลับไปค่ะ ซึ่งคำตอบที่ได้ก็คือเขาบอกว่า “เพราะทวงเงินเราแล้วเราไม่จ่าย” ซึ่งสาเหตุที่เราตัดสินใจสอบถามไปก็เป็นเพราะเราอยากรู้ว่าเขาเป็นคนโพสต์จริงหรือเปล่า ซึ่งสรุปก็คือว่าเขาเป็นคนโพสต์จริง”
คิดว่าหลักฐานทั้งหมดจะสามารถทำให้ทุกอย่าลุล่วงไปได้ด้วยดีไหม ?
กบ – “อย่างที่บอกค่ะเรามีข้อมูลและเอกสารสัญญาในการติดต่อที่ผ่านมาตลอดทุกรายค่ะ”
ทนาย – “ยืนยันครับผม โดยเฉพาะคุณ ย. ถ้าหากใครตามตัวได้เมื่อไหร่ก็สามารถแจ้งความจับได้เลยครับ”
สำหรับเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทและชื่อเสียงเรามากน้อยแค่ไหน ?
กบ – “พอมาเจอเรื่องแบบนี้เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสีที่ถูกป้ายเข้ามาจนกลายเป็นตุ๊กแกอย่างทุกวันนี้มันจะทำให้เราสามารถไปทำงานกับคนอื่นได้อีกไหม เพราะแค่เขาโพสต์ข้อความลอยๆ ขึ้นมา 2 ประโยค คนก็ดิ้นพล่านกันทั้งประเทศดิฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม คืออย่าลืมนะคะว่าเหรียญมี 2 ด้าน ถ้าคุณจะพูดคุณต้องพูดให้ครบ คุณติดฉันเท่าไหร่ ฉันติดคุณเท่าไหร่ ทุกอย่างต้องชัดเจนต้องมีที่มาที่ไป อย่ามาอาศัยมือคนไทยทำให้เขาเข้าใจผิดกันเอง เพราะตอนนี้ไมค์ก็ทิ่มหน้าดิฉันอยู่ ดิฉันมีพ่อมีแม่เหมือนกันนะคะ แล้วการที่คุณให้คนไทยมาป้ายสีกันเองคุณมีเจตนาอะไร แล้วการที่คุณทำให้เราถูกคนไทยมองว่าคนไทยทำให้วงการหนังไทยเสื่อมเสียคุณจะรับผิดชอบยังไงดิฉันขอถามนิดนึง และถ้าเอากันแฟร์ๆ คุณก็ถือเงินของคุณมา ดิฉันถือเงินของดิฉันมา แล้วแลกกันเลยไหม แฟร์ๆ แบบลูกผู้ชายค่ะ และกรุณาบอกด้วยว่าข้อความที่ถูกโพสต์ขึ้นมาใครเป็นคนโพสต์ คุณโพสต์เองหรือมีมือที่สามอยู่ข้างหลัง และมือที่สามที่ดิฉันพูดถึงเนี่ยใช่คนที่ตำรวจกำลังตามจับอยู่หรือเปล่า”
ที่เราบอกว่าได้ดำเนินการแจ้งความลงบันทึกประจำวันถึง คุณมาโกโตะ อันนี้มีข้อหาอะไรบ้าง ?
กบ – “ก็คือข้อหาหมิ่นประมาทค่ะ ซึ่งตอนนี้ก็กำลังอยู่ในขั้นตอนของการทำสำนวนส่งอัยการค่ะ”
ทางด้านของคุณ ย. มีการดำเนินคดีอะไรบ้าง ?
กบ – “ของคุณ ย. เป็นคดีฉ้อโกงค่ะ ซึ่งตอนนี้ก็มีหมายจับออกมาแล้วด้วย”