สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นาย ฮิซาโอะ ทานากะ ประธานและหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัท โตชิบา ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้ว หลังจากผลการสืบสวนของคณะกรรมการอิสระที่โตชิบาแต่งตั้งพบว่า บริษัทนี้เปิดเผยผลกำไรเกินจริงถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดช่วง 6 ปีที่ผ่านมา โดยนาย มาซาชิ มุโรมาจิ ประธานกรรมการจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนชั่วคราว
บริษัท โตชิบา ซึ่งมีธุรกิจหลากหลายตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าจนถึงโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ ออกแถลงการณ์เมื่อวันอังคารที่ 21 ก.ค. ว่า “เป็นที่เปิดเผยแล้วว่าได้มีการจัดทำบัญชีอย่างไม่เหมาะสมขึ้นเป็นเวลานาน และเรารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงเช่นนี้ต่อบรรดาผู้ถือหุ้นของเราและผู้ถือผลประโยชน์ร่วมอื่นๆ และเพราะเหตุนี้ ฮิซาโอะ ทานากะ ประธานบริษัทของเรา และนาย โนริโอะ ซาซากิ รองประธานกรรมการ จะลาออกในวันนี้ (21 ก.ค.)”
ขณะที่นายทานากะ กล่าวในงานแถลงข่าวซึ่งจัดขึ้นในวันเดียวกันว่า “พวกเราต้องรับผิดชอบอย่างร้ายแรง” และกล่าวเสริมด้วยว่า บริษัทนี้จำเป็นต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ เพื่อปฏิรูปตัวเอง
ทั้งนี้ นายทานากะ อายุ 64 ปี และนายซาซากิ อายุ 66 ปี เข้าทำงานกับโตชิบาตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษที่ 1970 โดยนายซาซากิเคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของโตชิบาระหว่างเดือน มิ.ย. 2009 ถึงเดือนมิ.ย. 2013 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเกือบทั้งหมดที่เกิดการแต่งบัญชีกำไรเกินจริง โดยนอกจากทั้งคู่แล้ว ผู้ที่ประกาศลาออกจากตำแหน่งยังรวมถึงนาย อัตสึโตชิ นิชิดะ ที่ปรึกษาและอดีตซีอีโอของโตชิบา กับผู้บริหารระดับสูงคนอื่นอีก 5 คน
เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการแต่งบัญชีของโตชิบาเริ่มถูกเปิดเผยออกมา หลังจากคณะกรรมการตรวจสอบอิสระพบกับปัญหาหลายอย่างระหว่างการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของบริษัทเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยหนึ่งในปัญหาเจ้าหน้าที่มุ่งประเด็นตรวจสอบคือ มีผู้บริหารหลายคนตั้งเป้าหมายสำหรับแผนปฏิบัติการต่างๆ เกินความเป็นจริง เนื่องจากกังวลว่าหายนะที่ฟูกูชิมาเมื่อปี 2011 จะส่งผลกระทบต่อแผนกพลังงานนิวเคลียร์ของโตชิบา
รายงานของคณะกรรมการอิสระพบการรายงานกำไรผิดปกติเริ่มขึ้นหลังจากเกิดวิกฤติทางการเงินเมื่อ 7 ปีก่อน หมายความว่า โตชิบาต้องเริ่มแต่งบัญชีกำไรระหว่างเดือน เม.ย. 2008 ถึงเดือนมี.ค. 2014 ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเรื่องนี้จะส่งผลต่อตัวเลขผลประกอบการประจำปีงบประมาณ 2014 ของโตชิบาที่จะประกาศในเร็วๆ นี้หรือไม่
คณะกรรมการอิสระยังระบุด้วยว่า ภายในบริษัทโตชิบามีธรรมเนียมปฏิบัติที่พนักงานและเจ้าหน้าที่ไม่สามารถขัดคำสั่งของผู้มีตำแหน่งสูงกว่าได้ และเมื่อคณะผู้บริหารระดับสูงสั่งมา ประธานฝ่าย, ผู้จัดงานในสายงาน และลูกจ้างที่ตำแหน่งต่ำกว่าก็ต้องจัดการทำบัญชีที่ไม่ถูกต้องเพื่อให้ได้ตามเป้าหมายที่ผู้มีตำแหน่งสูงกว่าในสายงานนั้นๆ ต้องการ
อีกด้านหนึ่ง หลังเรื่องการแต่งบัญชีของโตชิบาถูกเปิดเผยออกมา นายทาโร อาโสะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแห่งญี่ปุ่น ก็ได้ออกมาแสดงความเสียใจโดยระบุว่า ความผิดปกติของบัญชีของโตชิบาเป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง และกรณีนี้จะบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของการกำกับดูแลกิจการในญี่ปุ่น ที่พยายามจะฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติกลับมา หลังเกิดกรณีบริษัท โอลิมปัส ผู้ผลิตกล้องถ่ายภาพและเครื่องมือแพทย์รายใหญ่ ปกปิดยอดขาดทุนถึง 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปี 2011