“เมนูอาหาร ทางร้านจะกำหนดไว้เลยว่าแต่ละวัน มื้อเช้า กลางวัน เย็น มีเมนูอะไรบ้าง แต่จะสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนตลอดทุกสัปดาห์ สิ่งสำคัญคนทานต้องได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่ในรสชาติที่อร่อย ปริมาณที่เหมาะสม”
นับตั้งแต่อาหารคลีนเข้ามามีบทบาทในชีวิต สุขภาพของใครหลายคนก็เปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น ปัจจุบัน เลยมีธุรกิจอาหารคลีนเกิดขึ้นมากมาย รวมถึง “Fit Food Always” ที่เป็นมากกว่าอาหารคลีน เพราะเป็นอาหารที่ถูกปรุงขึ้นเพื่อสุขภาพของแต่ละคนที่มีความแตกต่างกัน ทุกๆ เมนูครีเอตโดย คุณอภินันต์ เศวตวรรณกุล หรือ เชฟเอฟ เชฟรุ่นใหม่ที่จัดสรรอาหารให้ถูกกับร่างกายและความต้องการอย่างแท้จริง
ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ กระแสยังดี แต่ต้องแตกต่าง
ประวัติเชฟเอฟ หลังจบปริญญาตรี สาขาวิชาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ภาคภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เขาเริ่มต้นทำงานที่แรกในแผนกต้อนรับของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง จากนั้นไปประเทศสกอตแลนด์ ไปเป็นเด็กล้างจาน สักพักได้เข้าไปทำงานครัว จากนั้นเขยิบไปเป็นกุ๊กที่ร้านอาหารไทย พอวีซ่าหมด กลับมาไทย มาเรียนทำอาหารที่โรงแรมโอเรียนเต็ล ได้ฝึกงานครัวอาหารไทยที่โรงแรมแห่งนี้
จนกระทั่งมีร้านอาหารชื่อร้าน “น้ำ” (nahm) ร้านที่ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก มาเปิดในเมืองไทย เชฟเอฟ เล่าว่า ไปเป็นเชฟร้านน้ำได้ 1 ปี ต่อมาย้ายไปทำงานที่ร้านอาหารของคุณตัน ภาสกรนที 2 ปี ก่อนจะย้ายมาทำที่โรงแรมดับเบิ้ลยู จากนั้นไม่นานได้ไปเป็นผู้ช่วย คุณพล ตัณฑเสถียร ทำรายการอาหารทางทีวี ช่วงเวลานี้เองมีโอกาสเรียนรู้หลักโภชนาการอาหารที่ถูกต้องจากอาจารย์มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งทางคุณพลเชิญมาสอนในรายการทีวี และยังได้รู้จักน้องคนหนึ่งซึ่งเป็นโภชนากรประจำโรงพยาบาลอีกด้วย ตรงนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้สนใจอาหารเพื่อสุขภาพ
“นอกจากจะได้รู้จักนักโภชนากร เมื่อ 2 ปีที่แล้วแฟนผมไปสั่งอาหารลดน้ำหนักมาทาน ทำให้ผมเริ่มสนใจอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารลดน้ำหนัก เลยลองปรุงให้แฟนทานวันละ 3 มื้อทุกวัน เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ระหว่างนั้นมีเพื่อนๆ มาชิม ทุกคนต่างชมว่าอร่อย เลยบอกปากต่อปาก ช่วยถ่ายรูปโพสต์ลงโซเชียลเน็ตเวิร์ก คราวนี้เลยมีลูกค้าติดต่อเข้ามา”
จากความต้องการของกลุ่มเพื่อน อีกทั้ง 2 ปีที่แล้ว อาหารลดน้ำหนักในรูปแบบกล่องส่งดีลิเวอรี่ ยังไม่ค่อยมีใครทำ ประกอบกับเชฟเอฟรู้จักโภชนากรเป็นทุนอยู่แล้ว ชายหนุ่มมองว่า หากตั้งใจทำจริง ก็สามารถยึดเป็นอาชีพได้ จึงตัดสินใจทำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ และอาหารลดน้ำหนักออกจำหน่าย ในรูปแบบของดีลิเวอรี่ เมื่อราวปี 2556
จัดเมนูตามสรีระ ราคาต่อเซต 3,000-4,500 บาท
สำหรับหลักการจัดเมนูอาหาร ชายหนุ่ม เผยว่า จัดตามสรีระ คำนวณสารอาหารและปริมาณแคลอรีต่อวันที่ควรจะได้รับ โดยจะถามน้ำหนัก ส่วนสูง สิ่งที่ทานได้ ทานไม่ได้ของลูกค้า จากนั้นนำไปประมวลผล แล้วจัดอาหารให้ตรงกับความต้องการของผู้ทาน ยกตัวอย่าง ผู้หญิงวัย 30 ปี พลังงานจากอาหารที่ควรได้รับต่อวัน อยู่ที่ 1,500 แคลอรี ทาง Fit Food Always จะจัดอาหารให้ 1,200 แคลอรี เพื่อให้ร่างกายดึงส่วนที่เก็บไว้มาใช้ ทานแบบนี้ต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ กระเพาะจะปรับขนาดเล็กลง ทานน้อยลง รูปร่างมีการเปลี่ยนแปลงดีขึ้น
“บางคนไม่ชอบหรือแพ้วัตถุดิบอะไร ผมจะจัดอาหารให้ถูกกับเขา การใส่ใจรายละเอียดของลูกค้า ถือเป็นสิ่งสำคัญ เทคนิคคือ คุยกับลูกค้าให้ชัดเจน พูดกันตรงไปตรงมา ชอบไม่ชอบอะไร แพ้อะไร ซึ่งหลักการนี้ใช้จนถึงปัจจุบัน เข้มงวดเรื่องการแพ้อาหารของคนมาก”
ทางด้านเมนู Fit Food Always เป็นอาหารฟิวชั่นโฮมเมด สไตล์มิกซ์แอนด์แมตช์ เชฟเอฟจะไม่ใส่สารปรุงรสที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เน้นวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติ ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง ปรุงสดใหม่วันต่อวัน โดยรสชาติยังคงมีความจัดจ้าน เจาะกลุ่มคนดูแลสุขภาพ กลุ่มลูกค้าต้องการลดน้ำหนัก
“เมนูอาหาร ทางร้านจะกำหนดไว้เลยว่าแต่ละวันมื้อเช้า กลางวัน เย็น มีเมนูอะไรบ้าง แต่จะสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนตลอดทุกสัปดาห์ สิ่งสำคัญคนทานต้องได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่ในรสชาติที่อร่อย ปริมาณที่เหมาะสม เช่น แกงส้มทานคู่กับสปาเกตตี ไข่ดาวเมอแรงก์ ยำกระเจี๊ยบเขียว ไก่อบผักโขม ข้าวไรซ์เบอร์รี่ยำปลากะพง สลัดอกไก่ม้วนผักโขม ราดซอสเพสโต้ เป็นต้น”
สำหรับรายละเอียด “Fit Food Always” จะมีอาหารส่งมาที่บ้าน โดยลูกค้าสามารถเลือกว่าจะรับกี่มื้อ ต่อวัน มีตั้งแต่ 2-5 มื้อ ต่อวัน โดยทุกเช้าเชฟเอฟจะตื่นขึ้นมาปรุงอาหาร ครัวอยู่ที่ถนนพระราม 9 กรุงเทพฯ เสร็จราวตี 5 ก็เริ่มทยอยส่ง อาหารจะถึงมื้อผู้รับ 6 โมงเช้า รอบกรุงเทพฯ ทางเหนือคือ มหาวิทยาลัยรังสิต ทางใต้คือ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา พระราม 2 ทางด้านตะวันออกถึงวงเวียนพระราม 5 อัตราค่าบริการจัดส่งคิดตามระยะทาง 1-10 กิโลเมตรแรก 400 บาท ต่อสัปดาห์ ราคาเมนูอาหารจัดเป็นเซต 1 สัปดาห์ ราคา 3,000-4,500 บาท
พลังโซเชียลเน็ตเวิร์กยังดี อนาคตเล็งทำอาหารผู้ป่วย
ปัจจุบัน Fit Food Always เปิดบริการมาได้ 2 ปี ด้านกระแสการตอบรับ เจ้าของธุรกิจ บอกว่า เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากเมื่อก่อน 3 เดือนแรก มีลูกค้า 10 คน ทุกวันนี้สัปดาห์หนึ่งมีลูกค้าที่สั่งอาหารราว 70 คน กลุ่มลูกค้าอายุตั้งแต่ 30-40 ปี เกือบทั้งหมดเป็นผู้หญิง 50 เปอร์เซ็นต์ของลูกค้าทั้งหมดเป็นกลุ่มรักษาสุขภาพ อีก 50 เปอร์เซ็นต์เป็นกลุ่มที่ต้องการลดน้ำหนัก
ด้านช่องทางการทำตลาด เชฟเอฟ ระบุว่า เลือกใช้สื่อออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊ก ไลน์ และอินสตาแกรม ไว้สื่อสารกับลูกค้า โดยแต่ละวันจะส่งเมนูอาหารให้ลูกค้าดูก่อน ดูฟีดแบ็กจากลูกค้าว่าชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไร พยายามใกล้ชิดกับลูกค้าให้เหมือนเพื่อน
ทุกวันนี้ Fit Food Always ค่อนข้างมีชื่อเสียงในกลุ่มคนที่สรรหาอาหารเพื่อสุขภาพในรูปแบบกล่องส่งดีลิเวอรี่ นั่นเป็นเพราะคุณภาพอาหารเสมอต้นเสมอปลาย เมนูมีการครีเอตใหม่ๆ และใกล้ชิดลูกค้า
แผนงานต่อจากนี้ ชายหนุ่ม เผยว่า จะขยายกลุ่มเมนูอาหารเป็นขนมไม่มีส่วนผสมของแป้ง น้ำผัก ผลไม้สกัดเย็นแยกกาก รวมถึงเปิดร้านอาหารที่จัดเซตอาหารที่เหมาะกับลูกค้า และเจาะตลาดกลุ่มผู้ป่วยโรคต่างๆ ที่ต้องการอาหารเฉพาะ
“ผมสนใจทำอาหารเพื่อสุขภาพให้กับคนที่เป็นโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไต โรคมะเร็ง ด้วยการไปเรียนเพิ่มเติม ชื่อคอร์สว่า หลักสูตรโภชนาการบำบัดและบริหาร ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นหลักสูตรระยะสั้น 3 เดือน เรียนเพื่อให้เข้าใจหลักของอาหารมากยิ่งขึ้น เพราะจริงๆ แล้วโภชนาการสำคัญต่อมนุษย์ทุกวัยตั้งแต่อยู่ในท้อง”
สำหรับคนที่อยากชิมอาหารฝีมือเชฟเอฟ ติดต่อได้ที่ โทรศัพท์ (086) 359-3795
ติดตามข่าวสารอื่นๆได้ที่ sentangsedtee