Fractional Repair Laser (FRL) สร้างผิวใหม่เหมือนวัยแรกรุ่น

80-yr-old

ปัญหาหน้าหลุมสิว ผิวไม่เรียบเนียนถือเป็นปัญหาความงามที่ใหญ่อีกปัญหาหนึ่งเลยก็ว่าได้ หากผิวหน้าเกิดปัญหาสิว ฝ้า ริ้วรอย หรือมีรอยแผลเป็นควรได้รับการการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี มิเช่นนั้นแล้วอาจเกิดการสะสมเรื้อรัง ทำให้การรักษาครั้งต่อไปนั้นทำได้ยากขึ้น

Fractional Repair Laser (FRL) ปฏิวัติการรักษาหลุมสิว (Acne Scar) รอยแผลเป็น ริ้วรอย โดยใช้หลักการ Fractional Photothermolysisโดยการปล่อยเลเซอร์คลื่นแสงในช่วง mid infrared ลงไปใต้ผิวเป็นจุดเล็กๆ นับพันจุดต่อตารางเซนติเมตร ลงไปยังบริเวณผิวหนังในระดับที่พอดีกับการสร้างเซลล์ผิวใหม่ (Resurfacing) ซึ่งจะลึกถึงระดับชั้นโครงสร้างคอลลาเจน

หลักการทำงานของ Fractional Repair Laser (FRL)

 FRL สามารถส่งผ่านแสงเลเซอร์ลงไปลึกถึง 1400 ไมครอน เมื่อแสงสัมผัสกับผิวจะเกิดประกฎการณ์ Fractional Photothermolysis และทำให้เซลล์เก่าซึ่งมีสภาพเป็นเซลล์ที่ตายผลัดหลุดออกไป พร้อมกับสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทน ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ในระหว่างที่เซลล์ผิวเก่ายังไม่ผลัดหลุดออกไป ผิวหน้าจะมีสีเข้มเรียกว่า Bronzing และจะค่อยๆหลุดออกไปเองภายใน 7-10 วัน คุณก็จะมีเซลล์ผิวใหม่ที่มีสุขภาพดีเกิดขึ้นมาแทนที่ เทคนิคนี้เหมาะกับคนไข้ทุกสีผิวและทุกสภาพผิว โดยเฉพาะคนไข้คนที่มีสีผิวคล้ำอย่างคนไทย

1. ทำความสะอาดผิวหน้าก่อนที่จะทำการรักษา จากนั้นทายาชาทิ้งไว้ 30 นาที แล้วเช็ดออก

2. รักษาด้วยเลเซอร์ FRL ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที

3. เพื่อให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด การรักษาด้วย FRL ควรทำต่อเนื่องประมาณ 3-5 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 3-4สัปดาห์

 

ผลที่ได้จากการรักษาด้วย  FRL

  • รักษารอยแผลเป็นจากสิว หลุมสิว รอยแผลเป็นจากการผ่าตัด
  • ผลัดเซลล์ผิวเก่า และสร้างผิวใหม่ (Resurfacing)
  • รักษาริ้วรอยเหี่ยวย่นโดยเฉพาะรอบดวงตา (Periorbital Wrinkles) ปรับสภาพผิวให้ดูสดใส
  • กระชับรูขุมขนที่กว้างให้เล็กลง
  • รักษาผิวหน้าหยาบกร้านไม่เรียบเนียน ให้กลับมาชุ่มชื้น สดใสขาวอย่างเป็นธรรมชาติ

 

ข้อแนะนำในการรักษา

หลังการรักษา คุณจะมีสีผิวอมชมพูระเรื่อๆประมาณ 2-3 วัน ซึ่งในขณะนั้น จะเป็นกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ระหว่างนี้สามารถดูแลผิวและแต่งหน้าได้ตามปกติ แต่ข้อควรระวังที่สำคัญคือควรเลี่ยงแสงแดดจัดอย่างน้อย 1สัปดาห์ พร้อมทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 มี PA+++ ขึ้นไป และควรใช้ครีมบำรุงที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นสูง

 

รับรองความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา (US. FDA.) จึงได้รับมาตรฐานสูงและเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการรักษา

Credit : www.themedclinic.com ,www.drpersky.com

เรื่องน่าสนใจ