ปัจจุบันได้มีการนำรกพืชมาสกัดใช้กันอย่างแพร่หลาย เรามาทำความรู้จักกับรกพืชกันดีกว่า
รกพืชคือส่วนของหน่ออ่อน ซึ่งมีเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell) อยู่ มีความสามารถแยกตัวแล้วเจริญเติบโตเป็นเซลล์ใหม่ ดังนั้นคำว่า รกพืชและสเต็มเซลล์พืช อันหมายถึงเซลล์ต้นกำเนิดนั้นเอง เซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell) มีคุณสมบัติหลายอย่าง เช่น กระตุ้นการสร้าง Collagen ซ่อมแซมเซลล์ผิวที่สึกหรอเสื่อมสภาพ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ลง ลดริ้วรอยร่องลึก ลดฝ้า กระ สิว จุดด่างดำ ผิวกระจ่างใส กระชับรูขุมขน เสริมสร้างชั้นผิวให้แข็งแรง เพิ่มพลังงานให้แก่เซลล์ผิว เพิ่มความกระชับเปล่งปลั่ง ลบเลือนรอยแผลเป็น หลุมสิว เร่งการสร้างเนื้อเยื่อใหม่
เปรียบเทียบข้อดี – ข้อเสีย
ระหว่าง Stem cell จากพืช (Phyto Stem Cell) และ Stem cell ที่สกัดจากรกเด็กและรกสัตว์
กาลเวลาที่หมุนผ่านทำให้เราต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงและความร่วงโรยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ มลภาวะ ความเครียด สารพิษยังช่วยเร่งให้เกิดความชราของเซลล์อีกด้วย สัญญาณแห่งวัย เช่น ริ้วรอย สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ จุดสี ผิวที่หย่อนคล้อยเหี่ยวย่น สายตาที่พร่าเลือน ฮอร์โมนที่ลดลง เข้าสู่วัยทอง ไม่กระชุ่มกระชวยเหมือนก่อน…
สิ่งเหล่านี้เกิดจากเซลล์ที่ไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่ให้ทันกับเซลล์ที่เสื่อมและตายไป เซลล์ใหม่ที่เกิดขึ้นนั้นก็ยังไม่เหมือนเซลล์ต้นแบบอีกด้วย เหมือนประทับตราจากตรายางที่ไม่คมชัด เมื่อเซลล์เสื่อมสภาพนี้รวมกันมากๆ เข้า จึงเกิดเป็นริ้วรอยและสัญญาณแห่งวัย
เทคโนโลยีเพื่อความงามในปัจจุบันส่วนใหญ่ ล้วนมีวิธีการที่ให้ผลเพียงชั่วคราว หรือมีผลแค่ปิดบังหรือเติมเต็มแต่เพียงภายนอกเท่านั้น ทั้งนี้เพราะเซลล์ที่ผิวหน้าของเรายังคงเป็นเซลล์เก่า การกระตุ้นการทำงานโดยเครื่องมือต่างๆ ก็เป็นการกระตุ้นเซลล์ที่อ่อนล้าเท่านั้น การใช้สารฉีดลดริ้วรอยหรือเติมเต็มร่องต่างๆ ก็ไม่ได้มีผลในการปรับปรุงโครงสร้างของผิวให้อ่อนเยาว์ลงแต่อย่างใด
เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอย ปัญหาผิวหย่อนคล้อย โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ที่มีอายุเลย 60 ปี ซึ่งการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนโดยเครื่องมือต่างๆ ไม่สามารถให้ประสิทธิภาพการรักษาได้เต็มที่ เนื่องจากอายุของเซลล์
ขอบคุณ SK Clinics
