ค้นพบว่าสิ่งหนึ่งที่ชอบมากในจักรวาล The Conjuring ก็คือการเป็นหนังย้อนยุค และทุกเรื่องก็ยังพยายามเก็บจังหวะหลอกหลอนแบบที่ James Wan วางเอาไว้ โดยผสมผสานกับบรรยากาศแปลกใหม่แตกต่างกันไปเท่าที่คาแร็คเตอร์ของ “ผี” จะเอื้ออำนวย โดย The Nun ก็เป็นหนึ่งในหนังที่เราชอบมากในจักรวาลนี้ ด้วยการสร้างเส้นเรื่องที่เรียบง่าย แต่เอาอยู่ด้วยทีมนักแสดงมากเสน่ห์ อัดแน่นด้วยฉากผีหลอกแม่ชีหลอน บรรยากาศอันลึกลับน่าขนลุก ปริศนาที่ต้องการคำตอบ และบันเทิงมากทั้งพาร์ตผีและไม่ผี โดยเฉพาะ Choreograph + Costume ของคณะผีแม่ชีนี่เพลิดเพลินมาก สวยมาก ชอบมาก รัก!
เรื่องราวย้อนไปในปี 1952 เมื่อเกิดมีผู้พบศพแม่ชีแขวนคอตายอยู่หน้าวิหารเก่าแก่ อันเป็นที่ตั้งของสำนักนางชีในชนบทของโรมาเนีย ความถึงหูวาติกันจึงได้ส่งตัวบาทหลวงผู้มีหน้าที่ดูแลคดีพิศวงเหนือธรรมชาติมาที่นี่พร้อมกับแม่ชีฝึกหัดนางหนึ่ง และที่นี่เอง การตั้งคำถามถึงการมีอยู่ของพระผู้เป็นเจ้าจึงเกิดขึ้นอีกครั้ง ผ่านการเผชิญหน้ากับซาตานร้ายที่มาในคราบของแม่ชีสุดสะพรึง
เอาจริงๆ เราไม่ได้กลัวความเป็นซาตานผู้ชั่วร้าย หรือสัมผัสได้ถึงความร้ายกาจของซาตาน “วาลัค” เท่าไหร่ แต่กระนั้นเราก็เพลิดเพลินกับการปรากฏตัวของผีแม่ชีในทุกฉากทุกตอน ส่วนหนึ่งเพราะบรรยากาศหลอนแต่งดงามของวิหาร มีดีเทลให้เล่นเยอะดี อีกส่วนเพราะงานดีไซน์ผีแม่ชี การเคลื่อนไหว องค์ประกอบภาพ และการเคลื่อนกล้อง มันมีความ MV ความคอนเสิร์ต และสวยสะพรึงมาก … นี่แหละข้อดีของการมีผีแบบหมู่คณะ จะยืนเรียง สลับแถว จัดวางอย่างไรก็สวย ไม่เหมือนพวกผีศิลปินเดี่ยวๆ (ฮา)
ประเด็นสำคัญอีกประการก็คือการทำให้เราหลงรัก 3 ตัวละครหลักของเรื่องได้ตั้งแต่ฉากแรกๆ Taissa Farmiga ผู้เป็นน้องสาวแท้ๆ ของ Vera Farmiga (ที่รับบท Lorraine Warren ตัวละครสำคัญในจักรวาล The Conjuring) นั้นมีเสน่ห์มาก นอกจากหน้าตาจะสวยแบบสาวโบราณแล้ว การแสดงของเธอในบทแม่ชีฝึกหัดยังดีงาม จนทำให้เราอยากให้ตัวละครของเธอได้ไปต่อ! Jonas Bloquet ในบทหนุ่มลูกครึ่งฝรั่งเศส-แคนาดาที่พบศพแม่ชีเคราะห์ร้ายเป็นคนแรก ก็เสน่ห์ล้นท่วมจอ จังหวะตลก จังหวะโรแมนติกนั้นเข้าท่ามาก และ Demián Bichir ในบทบาทหลวงหนุ่มใหญ่ก็ทำให้เราเชื่อได้อย่างง่ายดายถึงความสามารถและปมในใจของเค้า
ชอบมากที่สุดกับการหาทางเชื่อม The Nun เข้ากับจักรวาล The Conjuring แบบพอเหมาะพอดี ทั้งทึ่ง ทั้งเซอร์ไพรส์ ทั้งเศร้าในเวลาเดียวกัน! The Nun เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 6 กันยายนนี้
ขอบคุณเนื้อหาจาก ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
ชีวิตผมก็เหมือนหนัง นามปากกาของนักเขียนบทวิจารณ์ภาพยนตร์ ละครเวที และเพลง เจ้าของแฟนเพจ “ชีวิตผมก็เหมือนหนัง” ที่ยังคงเขียนบทวิจารณ์ไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังเสพงานศิลปะในรูปแบบต่างๆ อยู่เสมอ ติดตามผลงานอื่นๆ ของเขาได้ที่ www.facebook.com/LifeLikeMovies
