เนื้อหาโดย Dodeden.com
ปัญหาหลักของการใช้สกินแคร์ที่ไม่เห็นผลลัพท์ที่ดีเท่าที่ควร อาจเป็นเพราะเราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวก็เป็นได้นะ ลองมาทำความเข้าใจกับลักษณะผิวของตัวเองกันก่อน เพื่อให้สามารถเลิกผลิตภัณฑ์ที่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด!
ผิวแพ้ง่าย (Allergic Skin)
มักถ่ายทอดมาทางพันธุกรรม และเกิดได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย และทุกสีผิว แต่คนที่มีผิวขาวมาก มีความเสี่ยงมากกว่า เนื่องจากมีเม็ดสีที่ช่วยปกป้องผิวในปริมาณน้อย นอกจากนี้ สาวๆ ที่มีผิวแพ้ง่ายทั้งหลาย ยังมีน้ำมันเคลือบผิวตามธรรมชาติในปริมาณน้อยด้วย ส่งผลให้สารก่อภูมิแพ้และจุลินทรีย์ต่างๆ สามารถแทรกซึมเข้าไปก่อกวนผิวได้ง่าย ทําให้ผิวเกิดอาการคัน ตกสะเก็ด เห่อแดง หรือมีสิวขึ้นได้ ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย จึงมักต้องเผชิญกับโรค Eczema, Rosacea และสิวแบบเรื้อรัง หากใครกําลังประสบปัญหานี้ ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ผิวระคายเคืองง่าย (Sensitive Skin)
อาการมักเกิดขึ้นเนื่องจากผลกระทบทางสภาวะแวดล้อม ซึ่งมีอยู่หลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นความเครียด สารเคมี การสูบบุหูรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ และมลพิษต่างๆ รวมทั้งการขัดลอกผิวเกินความจําเป็นด้วยการทําทรีตเมนต์บางประเภท เช่น การลอกผิวด้วยสารเคมี หรือการทําเลเซอร์ อาการ “ผิวระคายเคืองง่าย” นี้ สาวๆ ส่วนใหญ่เป็นกันมาก แต่ยังนับว่าโชคดีที่มีวิธีเยียวยาให้หายได้ง่ายกว่าลักษณะผิวแพ้ง่าย เพราะบางครั้งแค่หยุดใช้หรือหยุดทําพฤติกรรมบางอย่าง ก็สามารถทําให้ผิวกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมได้แล้ว
ผิวแห้ง (Dry Skin)
เป็นประเภทของผิวหนังที่เกิดจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันหล่อเลี้ยงตามธรรมชาติได้น้อย ลักษณะของพื้นผิวจะมีความหยาบกร้าน แห้ง และลอกเป็นขุย เวลาที่ผิวหนังสัมผัสกับอากาศแห้งหรือเย็น ก็จะรู้สึกแสบ คัน หรือมีรอยแดงเห่อขึ้นมา ลักษณะผิวแบบนี้ ถ้าไม่เกิดจากกรรมพันธุ์ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้เมื่อมีอายุมากขึ้นเพราะร่างกายผลิตน้ำมันน้อยลง นอกจากนี้ คนผิวแห้งยังมีปัญหาริ้วรอยเกิดขึ้นได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะเวลาแสดงอารมณ์ วิธีดูแลคือ ถ้าหากอายุยังน้อย ก็เพียงหมั่นบํารุงให้ความชุ่มชื่น ริ้วรอยจะหายไปได้เอง แต่ถ้าอายุมากขึ้นแล้ว อาจทําให้กลายเป็นริ้วรอยถาวรได้ ควรบํารุงผิวด้วยสกินแคร์ประเภทออยล์ บาล์ม หรือครีมสูตรอ่อนโยน และปราศจากน้ำหอม จะช่วยชะลอริ้วรอยลงได้
ผิวขาดความชุ่มชื่น (Dehydrated Skin)
เป็นลักษณะอาการของผิวหนัง ที่เซลล์ใต้ผิวชั้นนอกไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ดีเท่าที่ควร ฉะนั้น แม้แต่คนผิวมันก็อาจมีอาการผิวขาดน้ำได้เช่นกัน สังเกตได้ง่ายๆ คือ แม้พื้นผิวหนังจะดูมันวาว แต่พอแสดงอารมณ์ทางใบหน้า จะรู้สึกตึงผิวและเห็นเป็นริ้วรอยได้ง่าย สาเหตุที่ทําให้ผิวขาดน้ำมีหลายอย่าง เช่น การอยู่ท่ามกลางอากาศแห้งอย่างเครื่องปรับอากาศ หรือเครื่องทําความร้อน อาบน้ำอุ่นจัดเป็นเวลานาน โดนแดดแรง ดื่มน้ำน้อย หรือแม้กระทั่งใช้สกินแคร์ที่ออกฤทธิรุนแรงเกินไป ดังนั้น ควรเลือกสกินแคร์ที่มีส่วนผสมช่วยรักษาระดับน้ำในผิวได้ยาวนานอย่าง เช่น เซราไมด์ และกรดไฮยาลูรอนิก ทั้งนี้ สกินแคร์เนื้อครีมหนาหนัก อาจไม่เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเรา รวมทั้งคนผิวผสมถึงผิวมัน ลองเลือกเนื้อเจล ครีม หรือโลชั่นที่ซึมซาบเร็วและไม่อุดตันรูขุมขนดีกว่า
เคล็ดลับง่ายๆ ของผิวสวยสุขภาพดี นอกจากจะอยู่ที่การกินอาหาร ออกกำลังกายเเล้ว การเลือกใช้สกินแคร์ที่เหมาะสมก็ยังเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะประคองให้ผิวสวยๆ อยู่กับเราไปได้นานๆ ด้วยค่ะ
