ผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอม รายงานว่า นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยความคืบหน้ากรณีที่มีผู้ร้องเรียนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ พบผู้ขับรถแท็กซี่กระทำอนาจาร (ช่วยเหลือตัวเอง) ต่อหน้าผู้โดยสาร ขณะให้บริการรับจ้างผู้โดยสารไปส่งยังจุดหมายปลายทางโรงเรียนแห่งหนึ่งบริเวณถนนเทพารักษ์ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 เวลาประมาณ 06.00 น. นั้น
จึงดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่ารถแท็กซี่คันดังกล่าวเป็นรถแท็กซี่สีเหลือง คันหมายเลขทะเบียน ทส 1781 กรุงเทพมหานคร โดยมีบริษัท เอวี ลีซซิ่ง จำกัด เป็นผู้ประกอบการและเจ้าของรถ ส่วนผู้ขับรถทราบชื่อคือ นายสมคิด กุลนาค ได้รับใบอนุญาตขับรถสาธารณะ ฉบับที่ 55000162 วันอนุญาต 27 สิงหาคม 2555 วันสิ้นอายุ 4 ตุลาคม 2558 ออกให้โดยนายทะเบียนจังหวัดศรีษะเกษ
โดยขณะนี้ได้หลบหนี ทำให้ไม่สามารถติดตามตัวมาดำเนินการได้ กรมการขนส่งทางบกได้มอบหมายให้กองตรวจการขนส่งทางบกประสานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อติดตามตัวนายสมคิด กุลนาค มาดำเนินการตามกฎหมายโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม กรมการขนส่งทางบกได้ให้ผู้ประกอบการ บริษัท เอวี ลีซซิ่ง จำกัด เข้ารายงานตัว เนื่องจากมีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ฐานไม่ส่งประวัติผู้ขับรถ ตามมาตรา 5(15) ประกอบมาตรา 58 ปรับ 1,000 บาท และฐานยินยอมให้ผู้ที่ใบอนุญาตสิ้นอายุมาปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 56 ประกอบมาตรา 60 ปรับ 2,000 บาท
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้บันทึกประวัติผู้ขับรถไว้ที่ศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะ สำหรับตรวจสอบและป้องกันไม่ให้ผู้ที่เคยกระทำความผิดร้ายแรงกลับเข้าสู่ระบบให้บริการขนส่งสาธารณะได้อีก พร้อมบันทึกประวัติการประกอบการของผู้ประกอบการ
หากพบการร้องเรียนผู้ขับรถในสังกัดซ้ำในฐานความผิดเดิม นายทะเบียนอาจพิจารณาเพิกถอนทะเบียนรถยนต์หรือระงับการจดทะเบียนเพิ่มในประกอบการ สำหรับในส่วนของผู้เสียหาย กรมการขนส่งทางบกแนะนำให้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีทางอาญาให้ถึงที่สุดต่อไป
“ผู้ประกอบการมีหน้าที่ควบคุมดูแลด้านความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารที่ใช้บริการในทุกๆ ด้าน ต้องไม่ให้หรือยินยอมให้ผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถหรือใบอนุญาตขับรถสิ้นอายุปฏิบัติหน้าที่
และต้องส่งข้อมูลประวัติผู้ขับรถให้กับกรมการขนส่งทางบก เพื่อการบันทึกประวัติการกระทำความผิดไว้ที่ศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะด้วย หากพบเห็นการให้บริการรถแท็กซี่ไม่เป็นธรรม เอาเปรียบผู้โดยสาร สามารถร้องเรียนมายังกรมการขนส่งทางบกได้ทันที
โดยระบุรายละเอียดรถและผู้ขับรถคันที่กระทำความผิด เช่น หมายเลขทะเบียนรถ ชื่อ-นามสกุลผู้ขับรถ ซึ่งจะทำให้กระบวนการติดตามตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษเป็นไปด้วยความรวดเร็ว สายด่วน โทร.1584 ตลอด 24 ชั่วโมง, ผ่านทางเว็บไซต์ที่ http://ins.dlt.go.th/cmpweb/, ผ่านทาง E-mail ที่ [email protected]” อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด