กรมสุขภาพจิต น้อมนำพระดำรัสทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ใช้พลังความร่วมมือป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดให้สำเร็จ ในปีนี้กำหนดกลยุทธ์ขยายเครือข่ายจากเยาวชนกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเสพ สู่ครอบครัวทูบีนัมเบอร์วัน เสริมพลังการไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ร่วมป้องกันนักเสพหน้าใหม่ พัฒนาสมาชิกเป็นคนดีและเก่งให้มากขึ้น เชื่อมั่นผลงานโครงการฯตลอด 15 ปี สามารถสร้างองค์ความรู้การป้องกันยาเสพติดในกลุ่มเยาวชนวัยรุ่นดีที่สุดของประเทศ
นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะเลขานุการโครงการ ทูบีนัมเบอร์วัน (TO BE NUMBER ONE) ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เปิดสัมมนาเครือข่าย ทูบีนัมเบอร์วัน จากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่
หน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สถานศึกษา สถานประกอบการ ชุมชน สถานพินิจฯ เรือนจำ สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ และกทม. เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ พิจารณาแนวทาง และเกณฑ์การประเมินผลงานทูบีนัมเบอร์วัน ซึ่งขณะนี้โครงการฯอยู่ในช่วงทศวรรษที่ 2 หลังจากเริ่มมาตั้งแต่พ.ศ. 2545 ต่อเนื่องมาเป็นเวลา 15 ปี
อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวว่า ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธานโครงการฯ ทรงเน้นย้ำตลอดเวลาว่า การที่ทรงเข้ามาทำงานในโครงการนี้ เพราะต้องการให้เกิดการร่วมมือกันทำงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ทรงเชื่อมั่นว่าความร่วมมือที่เข้มแข็งจะช่วยให้การป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศเราประสบผลสำเร็จ
ผลลัพธ์ที่ประสงค์ของโครงการไม่เพียงแต่เยาวชนไทยของเราปลอดภัยจากยาเสพติดเท่านั้น แต่ต้องการให้เยาวชนเติบใหญ่อย่างมีคุณภาพ การดำเนินงานจึงมีรูปแบบดึงเยาวชนเข้ามาร่วมกิจกรรมแสดงออกในทางที่ดีต่อผู้อื่น กล้าคิดกล้าทำในทางที่ถูกต้องเหมาะสม มีความภาคภูมิใจในตัวเอง ผ่านกระบวนการอยู่ร่วมกับกลุ่มเพื่อนวัยเดียวกัน เกิดการเรียนรู้ เข้าใจ ยอมรับผู้อื่น เปลี่ยนแปลงตัวเองที่ดีขึ้น เชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะก่อให้เกิดองค์ความรู้ในด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มเยาวชนวัยรุ่นที่ดีที่สุดของประเทศ เนื่องจากเป็นโครงการเดียวที่มีความต่อเนื่องและดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมที่สุด
“ในโอกาสครบรอบ 15 ปีของโครงการฯ องค์ประธานฯ ทรงมอบหมายให้กรมสุขภาพจิต ร่วมกับหน่วยงานวิชาการ ดำเนินการศึกษาวิจัยเพื่อให้ได้คำตอบว่า 15 ปีของโครงการฯ ประสบความสำเร็จด้านไหน อย่างไร โดยจะทรงประกาศผลการศึกษาด้วยพระองค์เองในช่วงการจัดงานครบรอบ 15 ปี มหกรรมรวมพลสมาชิกทูบีนัมเบอร์วัน ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 15 กรกฎาคม 2560 ” อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว
อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวต่อไปว่า ในการดำเนินงานโครงการฯตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป กรมฯได้น้อมนำพระดำรัสมาขยายผลการดำเนินงาน โดยจะเพิ่มกลุ่มพลังใหม่คือ ครอบครัวของสมาชิกทูบีนัมเบอร์วัน ให้เป็นครอบครัวทูบีนัมเบอร์วันด้วย
จากเดิมที่มุ่งเน้นเฉพาะตัวเยาวชนกลุ่มเป้าหมายซึ่งมีสมาชิกเป็นพลังเครือข่ายที่เข้มแข็งมากที่สุดทั่วประเทศจำนวน 25 ล้านคน จาก 65,000 ชมรม มีแกนนำเยาวชนอีก 5,000 กว่าคน และมีสมาชิกใครติดยายกมือขึ้นที่ได้รับการบำบัดฟื้นฟู 300,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่มากกว่าร้อยละ 70 ไม่หวนกลับไปเสพอีกหลังผ่านการบำบัด สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ
ทั้งนี้เพื่อให้ครอบครัวมีทัศนคติไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติด ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งกำลังหลักสำคัญช่วยเสริมพลังเครือข่ายให้เข็มแข็งและต่อเนื่องในการป้องกันและต่อสู้กับปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติด ซึ่งขณะนี้ยังมีผู้จำหน่ายกว่าร้อยละ 95 ยังไม่ถูกจับกุม และคาดว่ามีคนเสพยาอยู่ประมาณ 1 ล้านกว่าคน ซึ่งกลุ่มติดยาเสพติดรายใหม่ร้อยละ 68 เป็นเยาวชนอายุ 14-24 ปี อายุน้อยที่สุดเพียง 7 ปี เชื่อมั่นว่าหากครอบครัวแข็งแรง เราก็จะมีสังคมทูบีนัมเบอร์วันที่มีค่านิยมไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นด้วย
ตามโครงการทูบีนัมเบอร์วันในทศวรรษที่ 2 นี้ เราตั้งเป้าพัฒนาให้เยาวชนเป็นคนดีและเก่ง จากทศวรรษแรกมุ่งเน้นการสร้างกระแสไม่พึ่งพายาเสพติด ซึ่งจะยังคงมีกิจกรรมการแสดงพลังความสามารถของสมาชิกฯอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้หัวใจสำคัญเพื่อให้ชุมชนสังคมทุกกลุ่ม เข้ามาช่วยกันสร้างสังคม สร้างภูมิต้านทานไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด มีพลังต่อต้านและแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศให้สำเร็จ ได้เยาวชนที่มีคุณภาพ มีสุขภาพกายและใจสมบูรณ์แบบ มีจิตสาธารณะ มีทัศนคติเชิงบวกต่อสังคม ใฝ่เรียนรู้ตลอดชีวิตตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี