ใช่ว่า “ของสะสม” ที่มีคุณค่าทางจิตใจ ยิ่งนานไปยิ่งมีค่ามีราคา จะมีเพียงงานศิลปะ วัตถุโบราณ พระเครื่อง ฯลฯ เพราะสมัยนี้ “ของเล่น” ที่ทุกวันนี้ ไม่ใช่มีไว้ให้ “เจ้าตัวเปี๊ยกที่บ้านเล่น” เท่านั้น แต่กลายมาเป็นของ “สะสม” ของผู้ใหญ่ตัวโตๆ ที่บางชิ้นมีมูลค่านับแสนนับล้านบาท!!
และตอนนี้ “ฮิตม-า-ก” ในหมู่คนแวดวงไฮโซเซเลบ ศิลปินนักแสดงในวงการบันเทิง เพราะมันไม่ใช่ของเล่นธรรมดาๆ แต่เป็น “ของเล่นสายดีไซเนอร์ทอยส์”
พงศธร ธรรมวัฒนะ ดีไซเนอร์ทอยส์หนึ่งเดียวของประเทศไทย ผู้บริหารร้าน เพลย์เฮ้าส์ ศูนย์การค้า สยามสแควร์ วัน อายุ 26 ปี อธิบายถึงของเล่นสายดีไซเนอร์ทอยส์ว่า เป็นของเล่นที่ออกแบบจากจินตนาการศิลปิน แล้วประยุกต์สู่สิ่งที่จับต้องได้ สามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้ โดยจินตนาการนั้นอาจไม่ได้อ้างอิงกับภาพยนตร์ดังอะไร แต่เขามีสตอรี่ของเขาเอง อย่างหมาตัวหนึ่งมี 4 ขา เขาก็ปรับให้หมามี 4 ขา 3 หาง หมาไม่มีหน้า หมาบิน หรือนกฮูกบิน นกฮูกเต้นได้ นกฮูกตกใจ นี่เป็นเสน่ห์ของดีไซเนอร์ทอยส์ ที่สำคัญจะผลิตจำนวนจำกัดมาก ราคาก็สูงขึ้นทุกวัน ตรงนี้ยังเป็นเหมือนการลงทุนระยะยาว
“เดี๋ยวนี้กลุ่มไฮโซเซเลบ กลุ่มดารานักแสดงมาเล่นของเล่นแบบนี้เยอะ เดิมเขาจะแอบๆ เก็บไม่เปิดเผย จากที่เล่นของเล่นอื่นก็เปลี่ยนมาเล่นของเล่นสายดีไซเนอร์ทอยส์มากขึ้น เพราะเก็บแล้วมีคุณค่ามีมูลค่ามากกว่า ไม่โหลและดูเท่ อย่างมาริโอ้ เมาเร่อ เล่นรอนอิงลิช บี๋-ธีรพงษ์ เหลียวรักวงศ์และครอบครัว เล่นของเล่นค่าย 3A และคนมีชื่อเสียงอีกหลายคนเล่นของค่าย Coarse”
โดยของเล่นแต่ละค่ายจะมีคาแร็กเตอร์ มีความแปลกแตกต่าง และมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ซึ่งมีราคาตั้งแต่ 550 บาท ถึง 1 ล้านบาท สูงต่ำขึ้นอยู่กับค่ายและจำนวนการผลิต อย่างถ้าผลิตตัวเดียวในโลกและเป็นค่ายดัง ราคาตัวเป็นล้านก็มี หรือผลิตสิบตัวราคาหลักล้านหรือแสนก็มี
“ตอนนี้ที่ฮิตๆ เริ่มจากค่าย Coarse ที่กระแสแรงมากในหมู่ผู้ชาย เป็นของเล่นที่ใส่ใจรายละเอียด มีสตอรี่ และมีความรู้สึก ราคาเริ่มต้น 5,000 บาท ไปถึง 4 ล้านบาท ส่วนค่าย Funko ก็ฮิตกับดาราเซเลบเด็กโต โดยเฉพาะผู้หญิง มีราคาตั้งแต่ 550 บาท ไปถึง 1,500 บาท หรือบางครั้งก็ไปถึง 40,000 บาท ส่วนค่ายอื่นที่ฮิตๆ เช่นกัน คือ ค่าย Fools Paradise, 3A, Glitch network, ThreeZero รองลงมาเป็นค่าย Instinctoys, Ax2 studio, Lighblack, Devil toys”
สำหรับรสนิยมการซื้อนั้น ผู้ซื้อจะเลือกจากความชอบ อย่างเห็นดีไซน์แล้วชอบก็ซื้อเลย บางคนก็ซื้อไปเก็บสะสมอย่างกลุ่มไฮโซดารา แต่บางคนก็ซื้อเก็บไปเก็งกำไร อย่างพวกนักสะสมหน้าใหม่ที่เห็นว่ากระแสดีราคาขึ้น
“ของเล่นดีไซเนอร์ทอยส์ จะไม่เล่นเหมือนของเล่นทั่วไปที่สามารถเล่นทิ้งขว้างได้ แต่เป็นของเล่นของสะสมที่เจ้าของจะหยิบมาตั้งโชว์ เพื่อให้ดูมีเรื่องราวและสวยงามเวลาจัดเรียง ไม่ค่อยนำมาบิดเล่นมาก โดยช่วงนี้ฮิตเล่นกันมากคือ นำไปถ่ายรูปตามสถานที่ต่างๆ เช่น ชายหาด ป่า เพื่อให้ดูมีเรื่องราวของเขา หรือจะกล่าวได้ว่ามันมากกว่าของเล่นไปแล้ว” พงศธรกล่าว
(บน) พงศธร ธรรมวัฒนะ, จักรกฤษณ์ มังกรประดิษฐ์
(ล่าง) บดีศร อาคมพัฒน์, ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล หรือ “คุณชายอดัม”
นอกจากความสุขจะถูกจัดวางอย่างละเมียดที่บ้านแล้ว กลุ่มนักสะสมของเล่นสายดีไซเนอร์ทอยส์ยังนัดรวมตัวเล่นของเล่นทุกวันศุกร์ ในช่วงเที่ยง ที่ร้านเพลย์เฮ้าส์ ดาราก็มี ไฮโซก็มาเริ่มที่ บดีศร อาคมพัฒน์ อายุ 40 ปี เจ้าของธุรกิจค้าเครื่องประดับ เล่าว่า เริ่มสะสมของเล่นมา 10 ปีแล้ว แต่ก่อนสะสมหุ่นเหล็กจากญี่ปุ่นแล้วค่อยมาสะสมของเล่นชุดผ้า โดยขณะนี้ชื่นชอบคอลเล็กชั่น 3A หุ่นกระป๋อง ซีรีส์ World war robot ชอบเพราะน่าจะเป็นจริงมากกว่าหากมนุษย์จะสร้างขึ้น ไม่เหมือนหุ่นกัมดั้มที่ดูโอเว่อร์ ขณะที่หุ่นกระป๋องยังมีรูปทรงพื้นๆ สีออกสนิมเก่าๆ และชอบหุ่นแนวสงคราม โดยเฉพาะสงครามโลกครั้งที่ 2 จะชอบศึกษา เวลาเห็นหุ่นพวกนี้ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ดีจึงเก็บ
“ผมว่าทุกคนตอนเป็นเด็กก็สะสมหมดแหละ ขึ้นอยู่ว่าอยากสะสมอะไรมากกว่า บางคนสะสมเครื่องบิน รถบังคับ หรือถ้ามีเงินมากก็ซื้อรถมอเตอร์ไซค์ขับ แต่สำหรับผมของเล่นคือโลกส่วนตัว ของเล่นช่วยให้ผมผ่อนคลายจากการทำงาน ช่วยให้ผมมีจินตนาการ ขณะที่การเล่นของเราไม่เหมือนเด็กที่ต้องจับมาสู้กัน แต่เป็นการจับมาจัดท่าให้ยืนสวยงาม เบื่อก็เปลี่ยนท่ามากกว่า ก็ให้คุณค่าทางจิตใจและได้เพื่อนได้สังคม”
ปัจจุบันบดีศรมีของเล่นกว่า 500 ชิ้น มูลค่าเหยียบล้านบาท และเขายังเป็นผู้ครอบครองของเล่นหายากระดับโลก อย่าง TK OLD GUARDS 4 ชิ้น จากงาน RVHK ที่ฮ่องกง ที่มีขายเฉพาะในงานและไม่กี่ตัวในโลก
ขณะที่จักรกฤษณ์ มังกรประดิษฐ์ อายุ 33 ปี อาชีพพนักงานบริษัท เล่าว่า เคยสะสมเครื่องเล่นเกมมาก่อน ช่วงหลังเปลี่ยนเจเนอเรชั่นบ่อย จึงเปลี่ยนมาสะสมของเล่นสายดีไซเนอร์ทอยส์ได้ 3 ปีแล้ว โดยเน้นสะสมผลงานของ แอชลี วูด ค่าย 3A ซึ่งเห็นจากงานไทยแลนด์ทอยส์เอ็กซ์โปครั้งแรกแล้วรู้สึกชอบ ซึ่งขณะนี้สะสมรวมๆ แล้ว 300 กว่าชิ้น
“มูลค่าของเล่นที่เก็บไว้หลายแสนบาท แต่ก็ถือว่าทำให้ผมมีความสุข และส่วนหนึ่งการเก็บของเล่นทำให้ผมเลิกเที่ยวกลางคืน มานั่งเล่นของเล่นไล่จับไล่ดูหาข้อมูลของมันเพื่อจะสะสม ก็เป็นความสุขอีกแบบหนึ่ง ที่ทำให้ชีวิตไม่ต้องไปดื่มเหล้า ไปดมควันบุหรี่ ซึ่งเทียบกับเงินที่เสียไปมันก็พอๆ กัน แต่นี่เราได้สิ่งของที่จับต้องได้ และยังได้โชว์คนอื่นให้ดูได้ ก็โอเค”
จักรกฤษณ์กล่าวว่า ของเล่นนี้เป็นของดีไซน์ ไม่ใช่ของเล่นอย่างเดียว ซึ่งมันสามารถโชว์ได้ มีมูลค่าในตัวของมัน อย่างน้อยใครที่เก็บสะสมไว้เป็นคอลเล็กชั่นและพอมีลู่ทาง สักวันหนึ่งที่เบื่อก็อาจนำมันไปขายได้
แม้ไม่ได้มาร่วมก๊วนวันศุกร์ แต่ก็สะสมของเล่นสายดีไซเนอร์ทอยส์ ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล หรือ “คุณชายอดัม” กล่าวว่า เริ่มสะสมของเล่นตั้งแต่เด็ก เป็นของเล่นอะไรก็ได้ที่เห็นแล้วชอบ ของเล่นที่มีความหมาย มีคาแร็กเตอร์ หรือเป็นของเล่นที่อินมาจากภาพยนตร์ การ์ตูน หรือเพลงที่ชอบ เช่น อายานามิ เรย์ ซึ่งชอบมากๆ, อีวานเกเลียน, ป๊อป, COBRA จงอางสายฟ้า, ซิลวาเนียน ทั้งของค่ายต่างประเทศและของคนไทย โดยปัจจุบันสะสมของเล่นมาเกือบ 500 ชิ้นแล้ว แต่ก็วางเรียงไว้รอบๆ บ้าน ไม่ได้เก็บใส่กล่อง หรือตู้กระจก
“ที่วางเรียงอย่างนี้เพราะตื่นเช้ามาได้เห็นของเล่น มันก็ทำให้ผมมีความสุข ของเล่นเป็นเหมือนความทรงจำในวัยเด็ก ทำให้ผมจำอดีตได้ คงความเป็นเด็กไว้ และให้แรงบันดาลใจได้ ซึ่งสำคัญมากกับคนทำงานด้านสื่ออย่างผม ฉะนั้น เวลาเห็นของเล่นปุ๊บ หากเห็นแล้วชอบก็เข้าไปซื้อทันที อาจไม่ซื้อเพราะเห็นว่าคอลเล็กชั่นนี้ออกใหม่ แต่เป็นความชอบล้วนๆ ซึ่งบางครั้งก็ซื้อเหมามาหลายสิบตัวเลยก็มี”
ของเล่นสายดีไซทอยส์มีคุณค่า และทำเงิน ม.ร.ว.เฉลิมชาตรีมองว่า ของเล่นก็เหมือนงานดีไซน์ทุกชนิดบนโลก หรือเรียกว่าเป็นทรัพย์สินทางปัญญา ฉะนั้น ยิ่งทำออกมาน้อยชิ้น ของเล่นก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น
“ของเล่นมีคุณค่าทางจิตใจ สามารถเล่นได้ ฉะนั้น ยิ่งของเล่นนั้นได้รับความนิยม ของเล่นก็จะยิ่งมีมูลค่ามากขึ้นๆ ได้”