ที่ จ.นครศรีธรรมราช มีชาวนาตัวอย่างครอบครัวหนึ่งที่ยึดอาชีพทำนามาตั้งแต่บรรพบุรุษ และช่วยถ่ายทอดความรู้เรื่องการปลูกข้าวพื้นเมืองแก่สังคม จนได้รับรางวัลพระราชทานระดับประเทศ
รางวัลพระราชทาน “ครอบครัวชาวนาตัวอย่างภาคใต้” ที่พระราชทานโดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แก่ป้าบุญเรือน ทองจำรัส นับเป็นรางวัลแห่งความปลาบปลื้มปีติอย่างหาที่สุดไม่ได้ของป้าบุญเรือน ผู้มีทำอาชีพทำนา ปลูกข้าว ใน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช สืบสานมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษถึง 4 ชั่วอายุคน จากรุ่นสู่รุ่นมาจนถึงปัจจุบัน
“รางวัลที่เงินหาไม่ได้ รางวัลที่สุดของชีวิตเราแล้ว อย่างอื่นเราซื้อได้ แต่รางวัลนี้ เราไม่สามารถซื้อด้วยเงินได้”
ป้าบุญเรือนบอกว่า ปลูกข้าวอินทรีย์ครบวงจรบนพื้นที่ 34 ไร่ ดูแลต้นข้าวที่ปลูกด้วยความรักเหมือนคนในครอบครัว ดูแลแปลงนาด้วยตนเอง นับตั้งแต่การไถ หว่าน คัดเลือกเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยที่ใช้บำรุงดินที่เน้นเป็นปุ๋ยมูลสัตว์ ปลอดสารและวัตถุเคมีใดๆ ขณะที่การกำจัดศัตรูต้นข้าว โดยเฉพาะหอยเชอรี่ที่มักระบาดในแปลงนา คุณป้าบุญเรือนเลือกใช้การกำจัดแบบธรรมชาติ ด้วยการเลี้ยงเป็ดไว้ช่วยกำจัดหอยเชอรี่ แทนการใช้สารเคมี
ผลผลิตข้าวจากแปลงนาของป้าบุญเรือน ซึ่งมีทั้งข้าวสังข์หยด ข้าวหอมนิล ข้าวไรซ์เบอร์รี่ และข้าวปทุมธานี จะถูกนำมาสีผ่านเครื่องสีข้าวและเครื่องแยกข้าวสาร และบรรจุเพื่อส่งจำหน่าย โดยมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อถึงที่
นอกจากจะมุ่งมั่นในการทำนาปลูกข้าวแล้ว ป้าบุญเรือนยังแบ่งพื้นที่แปลงนาส่วนหนึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริระดับอำเภอต้นแบบ เพื่อสืบทอดให้คนรุ่นหลังรู้จักการทำนา การทานข้าวปลอดภัยไร้สารเคมีอีกด้วย ป้าบุญเรือนบอกว่า การมุ่งสานวิถีชาวนาที่ครอบครัวของป้าบุญเรือนสืบทอดมาอย่างยาวนาน ป้าบุญเรือนจะทำต่อไปด้วยความรัก ที่นอกจากต้องการให้คนในครอบครัวมีสุขภาพที่ดีแล้ว ยังส่งผลต่อยอดสู่ชุมชน ในการรับประทานข้าวที่ปลอดภัยจากแปลงนาด้วย