ที่มา: sanook

ถ้าคุณนอกจากจะติดตามบรรดาหนังซูเปอร์ฮีโร่แล้ว การติดตามซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่เป็นงานอดิเรกด้วยแล้วล่ะก็ คุณคงไม่พลาดซีรีส์อีกเรื่องจากค่ายมาร์เวลอย่าง Daredevil อย่างแน่นอน เมื่อซีรีส์นี้เป็นอีกหนึ่งโชว์ยอดฮิตที่โกยเรตติ้งผู้ชมทางช่อง Netflix ปีล่าสุด แถมปีที่ผ่านมาซีรีส์ของมาร์เวลที่ยังคงฉายอยู่ทางโทรทัศน์ในอเมริกาก็ได้แก่ Agents of S.H.I.E.L.D. และ Agent Carter คงเรียกได้ว่าเป็นอีกปีทองของมาร์เวลทั้งจอแก้วและจอเงิน

02

อย่างไรก็ตามผู้กำกับอย่างจอร์จ วีดอนผู้ปลุกปั้น The Avengers หนังรวมพลพรรคซูเปอร์ฮีโร่ในสังกัดมาร์เวลนั้นก็อยากจะให้ฮีโร่อย่างแดร์เดวิลได้กลายเป็นฮีโร่ที่มีโอกาสโลดแล่นในจอใหญ่ด้วยเช่นกัน เพราะในไอเดียของวีดอนนั้นมองว่าโทนเรื่องอันหม่นมืดของแดร์เดวิลนั้นจะมีข้อจำกัดอยู่ได้แค่ในจอโทรทัศน์เท่านั้น

04

แม้ว่าวีดอนจะมีโอกาสได้ชม Daredevil ในเวอร์ชั่นซีรีส์แล้วก็ตาม แต่เขาก็อยากจะให้มาร์เวลหยิบเรื่องราวของฮีโร่ตาบอดผู้นี้มาเล่าเรื่องบนจอใหญ่ และการนำนักแสดงอย่างชาร์ลี คอกซ์มาขึ้นจอใหญ่ด้วยเช่นกัน

03

อันที่จริง Daredevil เคยได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วในปี 2003 นำแสดงโดยเบน เอฟเฟลกซ์, เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์, โคลิน ฟาร์เรล บอกเล่าเรื่องราวของชายตาบอดที่มีประสารทสัมผัสด้านอื่นๆเป็นเลิศ เขาได้เรียนรู้ทักษะการต่อสู้เพื่อปราบปรามเหล่าร้ายและพยายามปราบปรามอาชญากรให้หมดไปจากเมืองของเขา ตัวหนังกำกับโดยมาร์ค สตีเว่น จอห์นสันหนังลงทุนไปถึง 78 ล้านเหรียญ แต่ทำรายได้ในอเมริกาไปแค่ 102 ล้านเหรียญเท่านั้น แถมในตลาดต่างประเทษหนังทำเงินไปอีกแค่ 76 ล้านเหรียญเท่านั้น

05

สองปีให้หลัง Elektra หนึ่งในตัวละครจาก Daredevil ก็ได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์ให้มีเรื่องราวเป็นของตัวเองขึ้นมา นำแสดงโดยเจนิเฟอร์ การ์เนอร์ กำกับภาพยนตร์โดยร๊อบ โบว์แมน ตัวหนังเรียกได้ว่าเจ๊งสนั่นหวั่นไหวจากทุนสร้าง 43 ล้านเหรียญ แต่หนังทำรายได้ในบ้านเกิดไปแค่ 24 ล้านเหรียญ และทำรายได้นอกบ้านไปอีก 32 ล้าน เมื่อรวมรายรับทั้งโลกแล้วหนังทำเงินไปแค่ 56 ล้านเหรียญ กำไร 13 ล้านนี่แทบจะมองไม่เห็นเป็นกำไรด้วยซ้ำไปหากหักค่าโปรโมตภาพยนตร์!

07

เราก็คงต้องติดตามข่าวกันต่อไปว่า Daredevil จะได้มีโอกาสกลับมาโลดแล่นบนจอใหญ่อีกครั้งหรือไม่

06

เรื่องน่าสนใจ