“Botox” เป็นชื่อทางการค้าของ botulinum toxin A ซึ่งสกัดมาจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Clostridium Botulinum มีฤทธิ์ต่อระบบประสาท โดยจะไปยับยั้งเซลล์ประสาทไม่ให้ผลิตสาร acetylcholine ซึ่งเป็นสารที่สั่งให้กล้ามเนื้อยืดและหดตัว
จากคุณสมบัติที่ต่อต้านการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ จึงนำมาใช้ในทางการแพทย์ เพื่อลดรอยย่นต่างๆ โดยทำให้ผิวหน้าบริเวณหน้าผาก รอยขมวดคิ้ว และรอยตีนกาหายไป ผิวหนังจะกระชับมากยิ่งขึ้น
โบทูลินัม ท็อกซิน เอ ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะเป็นโปรตีนบริสุทธิ์ สิ่งสำคัญอยู่ที่ความชำนาญและประสบการณ์ของแพทย์ที่ฉีดให้ และการฉีดให้ถูกตำแหน่งในปริมาณที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคน
โบทูลินัม ท็อกซิน เอ หรือเรียกสั้นๆว่า “ท็อกซิน” ปลอมทำให้เกิดผลแทรกซ้อนจากการกระจายตัวของยาที่มากกว่าของจริง เพราะน้ำหนักโมเลกุลมันไม่เท่ากันจะมีปัญหาหนังตาตก ปากเบี้ยว ได้มากกว่า
“เพราะของแท้ตัว toxin ตามธรรมชาติ เวลาอยู่ในธรรมชาติ มันจะมีตัวเล็ก ตัวใหญ่ ตัว 150 kilodalton ตัว 300 kilodalton”
นพ.วรพล สุขีวัฒนา ผู้ก่อตั้ง Doctor Tony Beauty Clinic และแพทย์ที่ปรึกษาและเทรนเนอร์ประจำบริษัท Allergan ผู้ผลิต Botox จากสหรัฐอเมริกา กล่าว
นพ.วรพล สุขีวัฒนา
สำหรับบริษัท Allergan ผู้ผลิต “ท็อกซิน” ยี่ห้อโบท็อกซ์ เขาจะมีเทคโนโลยีในการเคลือบให้ตัวหนัก คือ Homogeneous เป็น 900 kilodalton ตันเท่ากันหมด พอมันเท่ากัน ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีเวลาฉีด
เนื่องจากการฉีดท็อกซินโบท็อกซ์เป็นการเล่นกับกล้ามเนื้อเล็กๆ บนใบหน้า ฉะนั้นเราต้องการให้มันกระจายให้อยู่ในกล้ามเนื้อมัดที่เราต้องการ เช่น เราฉีดยกคิ้ว ฉีดรอยตีนกา รอยขมวดคิ้ว บริเวณหน้าผาก เราก็ไม่ต้องการให้มันกระจายไปโดนกล้ามเนื้อมัดอื่น เช่น กระจายไปโดนกล้ามเนื้อที่มันดึงเปลือกตาขึ้น หนังตาก็จะตก ฉะนั้นการที่เคลือบให้มันเท่ากันได้หมด มันก็จะปลอดภัย
แต่หากเป็นท็อกซินโบท็อกซ์ปลอม เขาก็ทำได้ แต่เทคโนโลยีเขาไม่ได้ดีขนาดของ Allergan เขาก็จะเคลือบให้มันหนักเท่ากันไม่ได้ ฉะนั้นมันจะมีตัวเล็กๆ ลอยไปไกลกว่า เพราะมันเบา สู่กล้ามเนื้อมัดที่เราไม่ต้องการให้มันไป จึงทำให้เกิดการปากเบี้ยว หนังตาตก
ที่น่าตกใจ…เคยมีคุณหมอเอา”ท็อกซิน”จีนฉีดน่องเพราะช่วยทำให้น่องเล็กลงได้ สังเกตเวลาผู้หญิงใส่รองเท้าส้นสูง กล้ามเนื้อบริเวณน่องจะปูดเป็นลูกๆ คุณหมอก็ฉีดลดน่องแต่ฉีดเยอะไง ข้างละขวด และไม่รู้ว่ายากระจายวงกว้างไปไกลแค่ไหน ปรากฏว่าฉีดไปตอนเช้าตื่นขึ้นมา เขาลุกไม่ได้ หายใจไม่ออก มันกระจายขึ้นมาถึงกล้ามเนื้อกระบังลม เกือบตาย!
ฉีดท็อกซินบ่อยๆ จะดื้อ เมื่อมีโปรตีนเยอะ ร่างกายก็จะสร้าง antibody ขึ้นมา ครั้งต่อไปที่ฉีดมันจะไม่ได้ผล ซึ่งตัวออริจินอลจะเป็นตัวเดียวที่พิสูจน์ และมีผลการทดลองมีการวิจัยยืนยันว่า มีโปรตีนโหลดน้อยกว่า 900 นาโนกรัมต่อขวด ฉะนั้นมันน้อยมาก ในขณะที่ยี่ห้ออื่นเขาอาจจะไม่ได้ purify ได้ขนาดนั้น
ส่วนท็อกซินโบท็อกซ์เป็นยี่ห้อเดียวที่มีผลการวิจัยยาวนานสูงสุดถึง 10 ปี โดยให้คนมาฉีดต่อเนื่องเป็น 10 ปี ก็ยังไม่ดื้อ เพราะตอนนี้ก็มีคนใช้พวกท็อกซินจีน เกาหลี แล้วดื้อยา ฉีดแล้วกรามไม่ลง หรือตีนกาไม่หาย มาหาหมอเยอะเหมือนกัน เคสพวกนี้ถ้าเกิดขึ้นแล้ว และมาหาหมอก็ต้องทดสอบก่อนว่า เขาดื้อยาจริงหรือเปล่า หรือหมอฉีดไม่ถูกมัดแล้วไม่ได้ผล ทดสอบด้วยการฉีดหน้าผากครึ่งหนึ่ง แล้วให้คนไข้มาอีกที 2 อาทิตย์ แล้วให้ลองเลิกคิ้ว ถ้ามันเวิร์ค ฉีดแล้วใช้ได้ ก็แสดงว่าเป็นเรื่องของเทคนิคคุณหมอที่ฉีดมาก่อนหน้านี้แล้วล่ะ แต่หากทดสอบแล้วเลิกคิ้วได้ปกติ ริ้วรอยยังมีเหมือนเดิม แม้แต่ในข้างที่ฉีดก็แปลว่าดื้อยาแล้ว พอมันดื้อปุ้บจะทำให้ดื้อยาตลอดชีวิต
เหตุเพราะ botulinum toxin ที่เราใช้ทุกยี่ห้อตอนนี้ในท้องตลาด เป็น botulinum toxin Type A เหมือนกันทั้งหมด สมัยก่อนจะมี Type B แต่ความเวิร์คมันสู้ Type A ไม่ได้ ตอนนี้เขาก็เลิกผลิตหายไปแล้ว ดังนั้นหากเราดื้อ Type A ไปแล้ว มันก็จะดื้อทุกยี่ห้อ เพราะทุกยี่ห้อ Type A หมด ไม่ได้แปลว่าคุณไปฉีดของท็อกซินเกาหลีดื้อแล้วมาฉีดท็อกซินโบท็อกซ์แท้มันจะเวิร์ค มันไม่ใช่แบบนี้ ต้องให้คนไข้รอเลย 1-2 ปี ต้องลองมาฉีดใหม่ ถ้าโชคดีก็อาจจะได้ผล แต่ส่วนใหญ่จะไม่เวิร์ค”
อย่างไรก็ตาม คุณหมอวรพล แนะนำว่า ไม่ควรฉีดท็อกซินถี่ มากกว่า 3 เดือนครั้ง เพราะการฉีดบ่อยมากกว่านั้น อาจจะทำให้เกิดการดื้อยาได้ แม้จะเป็นของจริงก็ตาม
หากเจอหมอไร้จรรยาบรรณ ดูดโบท็อกซ์ปลอมมาใส่ขวดจริง เพราะบางทีขวดโบท็อกซ์ที่เราเห็นว่า ของจริง แต่ข้างในขวดนั้นกลับเป็นตัวยาปลอมที่ดูดมาจากขวดของเก๊!
ก่อนฉีดโบท็อกซ์คนไข้ลองขอกล่องยาและขวดยาจากคุณหมอดูได้นะว่า ของจริงหรือปลอม แต่ก็ไม่ได้คอนเฟิร์มว่าจริงเสมอไปหรอก เพราะเป็นเรื่องของจรรยาบรรณแพทย์ด้วย น้องพนักงานที่มาสมัครงานเล่าว่า คลินิกที่เคยอยู่มาก่อน หมอจะเอาท็อกซินเกาหลี หรือจีน ดูดขึ้นมา แล้วนำมาใส่ขวดท็อกซินโบท็อกซ์ของจริง เรื่องนี้มีอยู่จริงในวงการคลินิกความงาม
สามารถตรวจสอบท็อกซินโบท็อกซ์ว่าจริงหรือไม่ ก็โทรไปถามที่บริษัท Allergan ได้เลยว่า อยากจะฉีดโบท็อกซ์ บ้านอยู่แถวนี้ ไปฉีดที่ไหนดี เพราะบริษัทเขาก็จะมี record ว่าคลินิกไหนที่สั่งยาเยอะๆ หรืออย่างคุณหมอบางคนสั่งแค่ไม่กี่ขวด 1-2 ขวดเอามาติดคลินิกไว้เพื่อ ว่าทางคลินิกใช้ของจริงนะ ตั้งโชว์ไว้”
สุดท้ายคุณหมอแนะนำให้เลือกสถานพยาบาล คลินิกที่มีชื่อเสียง น่าเชื่อถือได้ เลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพราะการฉีดโท็อกซินจะต้องอาศัย Learning Curve คุณหมอจะต้องมีประสบการณ์ในการฉีดมาก เนื่องจากการฉีดท็อกซินเป็นการเล่นกับกล้ามเนื้อเล็กๆ บนใบหน้า และเส้นเลือดบนใบหน้าจะมีเยอะ จึงต้องฉีดด้วยความระมัดระวังมาก และต้องมีความรู้ด้านกายวิภาคบนใบหน้าเป็นอย่างดี
ขอบคุณที่มาจาก ผู้จัดการออนไลน์