กระแสการเสริมจมูกด้วยฟิลเลอร์ ได้รับความนิยมอย่างพุ่งพรวด เพราะเพียงแค่จิ้มเข็มเข้าจมูกไม่กี่นาที ออกมาก็ได้ดั้งโด่งสมใจไม่ต้องพึ่งมีดหมอกันเลยเนอะ แต่เอ๊ะ ! การเสริมจมูกด้วยการฉีดฟิลเลอร์จะเหมาะกับรูปจมูกแบบไหน แล้วจะอัพดั้งของเราให้โด่งสวยถูกใจหรือเปล่า วันนี้เราก็มีคำตอบมาฝากกันค่ะ
ความสวยไม่ใช่สาระสำคัญทั้งหมดของชีวิต แต่ถ้าก่อนเกิดเราสามารถเลือกหน้าตาได้ รับรองเลยว่าโลกนี้คงไม่มีใครขี้เหร่แน่ ๆ แต่ในเมื่อเราเลือกเกิดไม่ได้ แล้วบังเอิญก็ไม่ค่อยพอใจกับหน้าตาตัวเองสักเท่าไร โดยเฉพาะจมูกที่แบนแฟบไร้มิติจนน่าหงุดหงิด ก็ช่วยไม่ได้ถ้าจะนึกอยากเสริมดั้งให้โด่งขึ้นอีกนิด แต่ครั้นจะผ่าตัดเสริมจมูกก็กลัวจะเจ็บ แถมยังต้องรับความเสี่ยงอีกสารพัด ทีนี้คงเหลือแต่ศัลยกรรมทันสมัยอย่างฉีดฟิลเลอร์เสริมดั้งโดยไม่ต้องพึ่งมีดหมอแล้วล่ะค่ะ เอาล่ะ ! แต่ก่อนตัดสินใจไปทำ มาดูกันก่อนดีไหมว่า การเสริมจมูกด้วยการฉีดฟิลเลอร์ แก้ปัญหาดั้งแบบไหนได้เวิร์กที่สุด แล้วดั้งแบบไหนที่ฟิลเลอร์ที่ต่อให้ฉีดกี่โดสก็ช่วยให้โด่งสวยอย่างใจไม่ได้
ไม่ว่าคุณจะมีดั้งแบนตั้งแต่เกิด หรือเป็นเพราะอุบัติเหตุที่ทำให้ดั้งหัก ไม่สวยได้รูป เคสแบบนี้การฉีดฟิลเลอร์เสริมจมูกดูจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมพอสมควรเลยค่ะ ซึ่งฟิลเลอร์ที่แนะนำก็มีทั้งฟิลเลอร์ Juvederm, Restylane หรือ Radiesse โดยใช้แค่จำนวนเล็กน้อย ฉีดเข้าตรงเนื้อเยื่ออ่อนยังตำแหน่งที่แม่นยำ ก็จะช่วยอัพดั้งให้โด่งสวยเปลี่ยนเป็นคนละคนได้แล้ว
ในเมื่อฟิลเลอร์เป็นการเติมเต็มเนื้อเยื่อให้สมบูรณ์ ดังนั้นสำหรับคนที่มีรูปจมูกเบี้ยว โค้งงอผิดปกติ ก็สามารถแก้ปัญหาด้วยการฉีดฟิลเลอร์เสริมจมูกได้ด้วยเช่นกัน แต่อาจจะต้องเลือกคุณหมอที่มากประสบการณ์ในการศัลยกรรมจมูกด้วยฟิลเลอร์ด้วยนะคะ เนื่องจากการแก้ปัญหาจมูกที่โค้งงอผิดรูปมีความซับซ้อนมากกว่าการฉีดเสริมจมูกที่แบนเรียบค่อนข้างมากเลย นอกจากนี้ในเคสที่จมูกโค้งงอผิดรูปเกินปกติ อาจจะต้องเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์เสริมจมูกไปเลย แล้วเลือกผ่าตัดเสริมจมูกจะสวยเป๊ะกว่า
สำหรับคนที่มีรูปจมูกทรงโต คล้ายทรงชมพู่ การฉีดฟิลเลอร์เสริมจมูกก็สามารถช่วยให้จมูกของคุณได้รูปมากขึ้น ด้วยการเสริมดั้งให้โด่ง ซึ่งก็จะรั้งให้ส่วนปลายจมูกถูกยกสูงขึ้น ปีกจมูกก็จะหดตัวแคบลงตามการดึงรั้งของดั้งที่โด่งขึ้นมาพร้อม ๆ กัน อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาจมูกงองุ้มให้ตรงสวยเฉียบสุด ๆ ได้อีกด้วยนะคะ
ใครที่เจ็บใจกับการเสริมจมูกที่ผิดพลาด ต้องทนอับอายกับจมูกที่เบี้ยว ไม่เป๊ะเหมือนที่คิดไว้ สามารถมาแก้ไขจมูกด้วยการฉีดฟิลเลอร์ได้สบาย ๆ เลยค่ะ เพราะคุณสมบัติของฟิลเลอร์สามารถช่วยเติมเต็ม และแก้ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ได้เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นจมูกเบี้ยว หรือปีกจมูกไม่เท่ากันก็แก้ไขได้เรียบ เนรมิตจมูกสวยเป๊ะในความเสี่ยงที่น้อยกว่า ราคาก็แสนคุ้มกว่าด้วย
อย่าลืมนะคะว่า ฟิลเลอร์เป็นศัลยกรรมที่ช่วยแปลงปลอมจมูกที่งุ้มเบี้ยวผิดรูปให้กลับมาตรงสวยได้ก็จริง แต่ถ้าจะหวังผลขนาดให้ตรงเป๊ะอย่างถาวรอาจจะยากสักหน่อย เพราะคุณสมบัติของฟิลเลอร์ทำได้แค่เติมเต็มผิวหนังจุดที่มีปัญหาเท่านั้น ไม่มีผลโดยตรงกับโครงสร้างของกระดูกแต่อย่างใด ดังนั้นหากอยากแก้ไขจมูกเบี้ยวให้ตรงสวยสุดเพอร์เฟคท์อย่างยั่งยืน แบบนี้คงต้องเลือกเสริมจมูกด้วยการผ่าตัดแล้วล่ะค่ะ
บางคนอาจจะตัดสินใจเสริมจมูกเพราะอยากปรับโหงวเฮ้งใบหน้า โดยต้องการทำให้ปลายจมูกเชิดขึ้นมา ซึ่งความต้องการนี้การฉีดฟิลเลอร์เสริมจมูกไม่สามารถตอบโจทย์คุณได้จริง ๆ ค่ะ และแม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์จะช่วยยกปลายจมูกได้ในบางครั้ง แต่ก็เป็นเพียงแต่ชั่วระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น เมื่อสารฟิลเลอร์หมดประสิทธิภาพ ปลายจมูกของคุณก็จะห้อยตกลงมาอย่างเดิม อีกทั้งศัลยแพทย์ก็ไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้ยกปลายจมูกให้เชิดขึ้นด้วย เพราะเสี่ยงที่เนื้อเยื่อและผิวหนังส่วนนี้จะพองโป่งผิดปกติไปเลย
การเสริมจมูกด้วยฟิลเลอร์ไม่สามารถแก้ปัญหาการหายใจไม่สะดวก ที่เกี่ยวเนื่องกับโครงสร้างทางกายภาพทางโพรงจมูกใด ๆ ได้ เพราะเป็นเพียงแค่ของเหลวที่ช่วยเติมเต็มเนื้อเยื่อในร่างกายเท่านั้น และหากต้องการเสริมจมูกเพื่อแก้ปัญหาทางโครงสร้างร่างกายลักษณะนี้ อาจจะต้องพึ่งมีดหมอจริง ๆ แล้วล่ะค่ะ
หากจมูกของคุณมีปัญหาที่ต้องการแก้ไขยาวเป็นหางว่าว หนำซ้ำคุณยังต้องการมีจมูกโด่งสุดเป๊ะไปตลอดชีวิต การเสริมจมูกด้วยการฉีดฟิลเลอร์อาจจะไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องของคุณนัก เพราะอย่างเหตุผลในข้างต้นที่เราได้บอกไปแล้วว่า ฟิลเลอร์เป็นเพียงตัวช่วยอัพดั้งโด่งให้คุณแบบระยะสั้นเท่านั้น แถมยังเป็นวิธีแก้ปัญหาจมูกที่มีข้อจำกัดเฉพาะอย่างอีกด้วย ดังนั้นหากคุณต้องการเปลี่ยนโฉมตัวเองแบบถาวร การผ่าตัดเสริมดั้งน่าจะตรงความต้องการของคุณมากกว่า หรือถ้ายังไม่แน่ใจ ลองปรึกษาศัลยแพทย์ก่อนก็ได้ค่ะ
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นการศัลยกรรมแบบไหน ก็แน่นอนว่าต้องมาพร้อมความเสี่ยงไม่ว่าอย่างใดก็อย่างหนึ่ง ซึ่งจุดนี้คนอยากสวยก็ควรพิจารณาให้ถี่ถ้วน ก่อนตัดสินใจทำอะไรกับร่างกายตัวเองด้วยนะจ๊ะ
ขอบคุณที่มา kapook.com
