ที่มา: dodeden

เช้าวันนี้ (12 ธันวาคม 2559) เวลา 04.45 น. ที่สนามม้านางเลิ้ง กทม. นายแพทย์วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข นำทีมผู้บริหาร เจ้าหน้าที่กรมสบส. ให้การดูแล   อำนวยความสะดวก แก่กลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง ซึ่งเดินทางมาจากพื้นที่สูง แนวชายแดน ถิ่นทุรกันดาร และมีชนพื้นเมืองจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศรวม 40 กว่าชนเผ่า

เช่น กะเหรี่ยง, ม้ง, มูเซอ, อีก้อ, ลีซอ, ไททรงดำ, ลเว๊อะ, ดาราอั้ง , คะฉิ่น, ลาวครั่ง ,มอญ, ไทยยอง,  ไทลื้อ, ไทยใหญ่,จีนยูนนาน  เป็นต้น รวม 5,200 คน 

ทุกคนแต่งกายด้วยชุดประจำเผ่าอย่างเต็มยศ  เพื่อเข้ากราบพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีต่อกลุ่มชาติพันธุ์ โดยเฉพาะในพื้นที่สูง ห่างไกล ด้อยโอกาส ทรงส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สร้างอาชีพที่มั่นคงเป็นมรดกสืบทอดสู่ลูกหลาน

กลุ่มชาติพันธุ์ได้เดินทางจากสนามม้านางเลิ้ง ไปสมทบกันที่สวนสราญรมย์  จากนั้นเวลา 06.30 น.หัวหน้าและปราชญ์ของชนเผ่ากะเหรี่ยง, ม้ง ,อาข่า,ปะโอ,ลาวครั่ง,เมี่ยน,ลาหู่,มอญ ได้ประกอบพิธีกรรมไฟ และเป่าแคนส่งเสด็จสู่สวรรค์  ซึ่งเป็นพิธีกรรมสูงส่งและเก่าแก่ เพื่อสักการะตามความเชื่อของชนเผ่า โดยมีหมอแคน 9 คน จากบ้านทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ เป็นผู้นำ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จากนั้นจึงทยอยเดินเท้าเข้าสู่สนามหลวง เพื่อเข้าสู่ระบบคิว  รอเข้ากราบพระบรมศพต่อไป

นายแพทย์วิศิษฎ์ กล่าวว่า การรวมตัวของกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองครั้งนี้ นับว่าเป็นการรวมพลังครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ไทย กรมสบส.ได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน จัดการดูแลด้านต่างๆ รวมทั้งสุขภาพอย่างเต็มที่

โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้จัดระบบดูแลโดยติดสติ๊กเกอร์ระบุโรคประจำตัว ยาที่แพ้ และเบอร์โทรศัพท์ญาติที่สามารถติดต่อได้ พร้อมทั้งได้ประสานทีมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรืออสม.ที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ด้วยกัน ร่วมเดินทางเพื่อดูแลสุขภาพกลุ่มชาติพันธุ์ระหว่างเดินทางจากพื้นที่ทั้งไปและกลับ และประสาน อสม.ในเขตกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขตรวม 160 คน ร่วมให้การดูแลระหว่างเดินทางจากสนามม้านางเลิ้งสวนสราญรมย์ สนามหลวง รอคิวเข้ากราบพระบรมศพอย่างต่อเนื่องด้วย

สำหรับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ร่วมอำนวยความสะดวก และให้การดูแลกลุ่มชาติพันธุ์ครั้งนี้ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, กรมควบคุมโรค, กรมการแพทย์, หลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง, กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, ราชตฤนมัยสมาคม, การรถไฟแห่งประเทศไทย, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ,กองทัพธรรม , เครือข่ายจิตอาสา   จัดบริการการเดินทาง, สถานที่พัก , อาหาร ,เครื่องดื่ม, เจลล้างมือและยาทากันยุง

โดยมีโรงพยาบาลมิชชั่น, โรงพยาบาลหัวเฉียว และโรงพยาบาลเพชรเกษม 2 จัดหน่วยปฐมพยาบาล 3 จุด ประจำที่พักชั่วคราวที่สนามม้านางเลิ้ง ตลอด 24 ชั่วโมง 

เรื่องน่าสนใจ