เนื้อหาโดย Dodeden.com
เป็นกระทู้สุดร้อนแรงอีกกระทู้หนึ่งในเว็บไซต์พันทิปดอทคอมเลยล่ะค่ะ เมื่อมีสมาชิกชื่อว่า น้ำคุ ได้ออกมาเล่าเรื่องราวของค่ายมือถือชื่อดังค่ายหนึ่ง ได้ทำทีไปแจกโทรศัพท์มือถือฟรีที่หมู่บ้านบนดอยแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ โดยแจกให้ผู้สูงอายุและผู้ใหญ่หลายคน โดยที่ได้มีการเซ็นเอกสารเพื่อรับเครื่อง แต่กลับไม่แจ้งว่าต้องมีการจ่ายค่าบริการรายเดือน!
ซึ่งเรื่องราวในกระทู้มีดังต่อไปนี้ …
“เรื่องมีอยู่ว่า ตอนสายๆ ของวันที่ 27 พค. ณ หมู่บ้านบนดอยแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ มีการประกาศเสียงตามสายว่าจะมีทรูมูฟมาแจกเครื่อง คนที่ทำงานของแม่ผมก็รีบไปเอาเครื่องแล้วก็มาบอกป่าวประกาศต่อ น้าของผมโทรมาหาแม่ผมถึงสองรอบบอกว่า ทรูมูฟจะมาแจกเครื่องฟรีนะ ให้รีบมาเอาก่อนที่เครื่องจะหมด
ทุกคนได้ยินดังนั้น ก็แห่ไปเอาคนละเครื่องสองเครื่อง โดยการเอาเครื่องฟรีนั้นต้องมีการถ่ายสำเนาบัตรลูกจ้างประจำ หรือบัตรข้าราชการ พร้อมทั้งกับบัตรประชาชน และมีการเซ็น 1 ครั้งเพื่อรับของ และเลือกเบอร์ พนักงานก็รับเรื่องแล้วก็เห็นโทรเข้าศูนย์แล้วก็มาบอกว่าได้เบอร์แล้ว แล้วบอกว่า สามารถใช้เบอร์ได้ฟรี 2 เดือน ถ้าเกิน 2 เดือนแล้วจะเสียค่าบริการ เท่านั้น เท่านั้นจริงๆครับแล้วแม่ผมและคนค่อนหมู่บ้านก็รับมือถือฟรีนั้นมาใช้ที่บ้าน ผม พ่อ แม่และน้องแยกกันอยู่ เลยไม่มีใครรู้ว่าแม่ไปเอามือถือฟรีมาจนกระทั่งแม่เอามือถือไปให้น้องดูว่ามันจะใช้ทำอะไรได้บ้าง แม่ผมใช้สมาร์ทโฟนไม่เป็นครับ ตอนนี้ใช้มือถือโนเกียธรรมดา น้องก็แมสเสจมาหาผมครับว่า แม่ได้เครื่องฟรีมา ไอ้ผมก็รู้สึกแปลกๆที่เห็นแม่ได้เครื่องมาฟรี พอให้น้องไปสอบถาม ปรากฏว่าไม่ฟรีครับ
เป็นโปรข้าราชการ รายเดือน 399 รวมภาษี บังคับใช้ 12 เดือน ถ้ายกเลิกตอนนี้เสีย 1900 บาท พร้อมค่าเปิดใช้ไปเดือนหนึ่ง!! พระเจ้า นี่มันอะไรกัน อารามรีบร้อน โทรด่วนสายตรงกลับบ้าน แม่ทำเสียงอ่อยๆ และบอกว่า เดี๋ยวแม่รับผิดชอบเอง โอ้ย อะไรกัน ผมบอกแม่ไปว่าผมไม่ได้จะหาเรื่องแต่อยากรู้ว่าแม่ได้มาได้ยังไง กลัวมากครับว่าแม่จะถูกหลอกหรือเปล่า สงสารแม่เหมือนกันแต่ก็ต้องถามว่าเรื่องราวมันเป็นยังไงเพื่อความชัดเจน แล้วสอบถามไปถามมาก็ได้ ความเหมือนที่กล่าวไว้ข้างต้น
สรุปคือตอนนี้ แม่บอกว่าคนที่ไปรับ ไม่ได้มีแม่คนเดียว คนที่มาป่าวประกาศเอย คนงานที่ทำงานแม่เอย ไปกันทั้งนั้น ชาวบ้านได้ยินก็หูผึ่งรับแห่ไปเอาเครื่องที่เอามาแจก จนต้องขนเครื่องมาแจกถึง2 รอบ ทุกคนไม่ทราบว่าเป็นโปรแบบรายเดือน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องจ่ายเงิน และยิ่งไม่รู้ไปอีกว่าถ้ายกเลิกเบอร์ต้องมีการเสียค่าปรับ 1900 บาท !!
ถึง ณ จุดนี้ ผมคิดว่ายังมีคนจำนวนมากที่ยังไม่ทราบว่าเขาต้องจ่ายให้กับทรูมูฟ เดือนละ 399 บาท และถ้ายกเลิกสัญญาต้องเสียอีก 1900 บาท ตรงนี้แหละครับที่ทำให้ผมรู้สึกว่ามันแหม่งๆ เพราะไม่มีการเอ่ยถึงสัญญาตัวนี้เลยแม้แต่น้อย ทั้งที่มันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องตกลงกันก่อนทำสัญญา แม่ผมเองก็คิดว่าได้รับเครื่องมาฟรีก็เลยไม่ได้เอะใจว่าต้องมีการเสียเงิน เลยไม่ได้ถามครับ แถมสำเนาการเซ็นรับของและการทำสัญญาหรือข้อตกลงใดๆก็ไม่มีให้ครับ ได้มาแต่ตัวเครื่องพร้อมซิม
ตอนนี้ทุกคนในหมู่บ้าน เริ่มรู้ตัวกันแล้ว ก็ได้แต่เก็บเงียบเพราะอายและกลัวจะโดนว่าว่าถูกหลอก และไม่รู้จะทำยังไงเพราะเขาได้หลักฐานและลายเซ็นต่างๆไปแล้ว น้าผมเองก็เหมือนจะเพิ่งรู้ แล้วฝากน้องผมไปติดตามรายละเอียดให้หน่อย และนี่เป็นโฉมหน้า ของสมาร์ทโฟนที่ได้มาครับ”
มีเท่านี้จริงๆครับ ไม่มีอะไรอีกเลย ผมลองโทรไปคอลเซ็นเตอร์ของทรูมูฟ ได้คำตอบเดียวกับกับที่น้องสาวโทรไป และก็พูดซ้ำๆแบบนี้สามรอบ
“โปรนี้นะคะเป็นโปร 399 รอบการจ่าย 12 เดือนค่ะ ถ้าต้องการยกเลิกต้องเสียค่าปรับ 1900 บาทค่ะ”
สุดท้ายผมก็อดทนไม่ไหว ก็บอกไปว่า ไอ้โปรที่คุณบอก 399 บาท 12เดือน และค่าปรับนั่นนะ ไม่ได้มีการพูดหรืออธิบายให้ฟังตอนทำสัญญากันเลย มีแต่บอกว่าโทรฟรีสองเดือน ถ้าเลยนั้นไปจะเสียค่าโทร แค่นั้นเอง แม่ผม ชาวบ้านทุกคนก็คิดว่าเป็นเครื่องฟรีกันทั้งนั้น
คอลเซ็นเตอร์ …. คุณแม่ไม่ทราบเหรอคะว่าเป็นโปรรายเดือน
ผม … ไม่ทราบครับ และไม่มีการอธิบายใดๆด้วย
คอลเซ็นเตอร์ … แล้วคุณแม่ไม่ได้ถามเหรอคะ
ผม … ไม่ได้ถามครับ เพราะคิดว่าเป็นเครื่องฟรี
การคุยกันดำเนินไปเป็นแบบนี้ สุดท้ายก็จบลงตรงที่รับเรื่องไปประสานงาน ทางผมได้ให้เบอร์โทรน้องสาวผมไปและตอนนี้กำลังรอคำตอบอยู่ครับ นอกจากเคสคุณแม่ของผมแล้วเนี่ย คนที่ไปเอาโทรศัพท์วันนั้น ต่างหาเช้ากินค่ำกัน และเดือนละ 400 ถือว่าเป็นภาระค่อนข้างหนักสำหรับเขา ที่สำคัญพวกเขาไม่รู้ว่าต้องจ่ายนี่สิครับ เรื่องใหญ่ ไม่ทราบว่าทางทรูจะจัดการตรงนี้ยังไงครับ สำหรับผมอยากจะยกเลิกให้แม่เดี๋ยวนี้เลยแต่ติดที่ต้องจ่าย 1900 บาทซึ่งไม่ได้มีการบอกกล่าวตอนทำสัญญาหรือเอกสารใดๆสำเนามาให้เลย ผมจึงคิดว่ามันไม่ใช่ละ แม่เอาแต่บ่นตัวเองว่าไม่มีความรู้ ผมสงสารมากๆครับและไม่กล้าถามมากชวนคุยนั่นคุยนี่ รู้สึกอกตัญญูอย่างบอกไม่ถูกที่ไม่ได้อยู่ดูแลแม่อย่างใกล้ชิด”
ทั้งนี้หลังจากคุณน้ำคุได้ตั้งกระทู้ลงในเว็บไซต์พันทิปดอทคอมแล้วนั้น ก็ได้มีชาวเน็ตหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นโดนส่วนใหญ่ได้ตำหนิค่ายมือถือดังว่า ทำมาหากินบนความไม่รู้ของคนอื่น แต่ก็ยังมีบางส่วนกล่าวตำหนิทางชาวบ้านว่าเห็นแก่ของฟรีจนไม่ศึกษารายละเอียดให้ดีนั่นเอง
