ถ้าพูดชื่อ “กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่” เราคงจะรู้จักเขาเป็นอย่างดีด้วยภาพ “แร๊พเปอร์” ชื่อดัง และ “คุณพ่อ” ที่แสนอบอุ่นของ “น้องชูใจ”
แต่รู้หรือไม่ว่ากว่า “กอล์ฟ” จะมีวันนี้ที่สมบูรณ์ เจ้าตัวเคยใช้ชีวิตเป็นคน “เร่ร่อน” ไม่มีบ้าน ไม่มีเงิน มาก่อน ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดใจในรายการ “เปิดโปง” ทาง “ช่อง 2” ว่า
น้องชูใจเป็นไงบ้าง ?
“ตอนนี้ 9 เดือนแล้วครับ ผมว่าการมีลูกทำให้เราจากที่ไม่เคยเจอเป้าหมาย มันทำให้เรารู้ว่าเราต้องอยู่ต่อเพื่ออะไร เพื่อใคร แล้วพอมันมีเป้าหมายแล้วตั้งเป้าทิศทางชัดมันก็จะเป็นการเดินทางที่ง่ายและเร็วขึ้น”
ลูกนำโชค ?
“อย่างแรกตอนที่ชูใจเกิด ผมว่าโชคเนี่ยมันน่าจะเป็นความตั้งใจดี ความคิดดีเรา 2 คน พ่อแม่เนี่ยจากที่เคยติดเหล้าเราก็เลิกเที่ยวเลิกเหล้าก็หันมาคิดถึงอนาคตมากขึ้น
คิดเรื่องการเก็บเงิน คิดเรื่องการทำธุรกิจ พอเราเลิกเที่ยวจากที่เราไม่เคยมีเงินเก็บเลยสักบาท เราก็มีเงินเก็บมากขึ้น มีเงินที่จะไปดาวน์บ้านซื้อบ้าน”
ช่วงชีวิตนี้ดีที่สุด ?
“เรียกว่า ณ ปัจจุบันดีที่สุดครับ”
ก่อนที่จะมาเป็นกอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ ?
“ใช่คำว่าเคยเป็นคนเร่ร่อนมาก่อนจริงๆ ก็จริง ใช้ได้เลยครับ เร่ร่อน ช่วงหนึ่งเราไม่มีเงิน พอเรามาเป็นศิลปินกับพี่โจ้(โจอี้ บอย) รายได้มันก็ยังไม่มีเราต้องใช้เวลาเขียนเพลงทำเพลง
ช่วงนั้นเราบอกที่บ้านไม่ต้องส่งเงินมาแล้ว เพราะว่าเดี๋ยวจะดูแลตัวเองไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า ใช้วิธีการแพคของมากระเป๋าหนึ่ง แล้วอาศัยนอนตามบ้านเพื่อน พี่ คนรู้จักไปเรื่อยๆ
สมมุติว่าทำงานที่นี่ บ้านเพื่อนใกล้ตรงนี้ ก็โทรไปขอไปนอน บางวันรถเมล์หมดสายก็ต้องนอนที่ป้ายรถเมล์ แล้วเราก็รู้สึกว่า บางทีเราอยากอาบน้ำมากครับ เข้าใจว่าชีวิตมันต้องการแค่ของกิน ที่อยู่ ที่อาบน้ำ แค่นั้นเอง
พอเราได้เงินจากการแต่งเพลงมาก้อนหนึ่ง ก้อนแรก 5 หมื่น สิ่งแรกที่เราทำคือไปเช่าห้อง แล้วก็อาบน้ำ แล้วก็มีความสุขมากเลย เราเคยอยู่ข้างถนนมาก่อน เรารู้สึกว่าแค่นี้ดีที่สุดแล้วสำหรับตัวเรา”
ใช้ชีวิตเป็นคนเร่ร่อนแบบนั้นนานไหม ?
“ก็เป็นนานครับ มีช่วงหนึ่งต้องไปอยู่ที่ตึกแกรมมี่ 6 เดือน แอบอยู่ในนั้น”
เขาไม่รู้ ?
“เขาก็น่าจะไม่รู้นะครับ ผมใช้วิธีการอาบน้ำชั้น 29 นอนชั้น 30 มันจะมีเตียงอยู่ ใช้วิธีนี้อยู่อย่างนี้ขโมยข้าวกล่องเขา เวลาเขามีถ่ายอะไรเราก็ไปแอบกินข้าวกล่องเขาอยู่เรื่อยๆ ครับ 6 เดือนครับ”
ไม่มีเงินกระทั่งซื้อข้าวกิน ?
“ใช่ครับ เคยเดินผ่านแล้วข้าวเขาเหลือกินวางไว้หน้าห้องยังไม่เก็บจาน เราก็ต้องแอบไปกินข้าว หลังจากนั้นมาเราไม่เคยกินข้าวเหลือเลย นี่เป็นสาเหตุของความอ้วนครับ(ยิ้ม) เสียดายอาหาร”
ทุกวันนี้เราสมบูรณ์แบบแล้ว ?
“เราไม่กลัวความลำบากอะไรอีกแล้ว เพราะเราเคยไปขนาดนั้นมาแล้ว มันไม่น่ามีอะไรที่ลำบากมากกว่านั้นแล้ว อย่างเดียวที่เรากลัว เรากลัวลูกกลัวเมียเราลำบาก”
